เหล็กมีกี่ประเภท? รวมข้อมูลสำคัญของชนิดเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรม

เหล็กมีทั้งหมดกี่ประเภท?

แม้จะดูคล้ายกันจนหลายคนเรียกรวม ๆ ว่า “เหล็ก” แต่ในความเป็นจริงแล้ว เหล็ก แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง การเลือกใช้เหล็กให้ถูกประเภทจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเลือกใช้เหล็กได้อย่างเหมาะสมกับงานของคุณ

เหล็กมีกี่ประเภท?

โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งประเภทของเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามปริมาณคาร์บอนที่ผสมอยู่ นั่นคือ เหล็กหล่อ และ เหล็กกล้า ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ยังสามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีกหลายชนิดตามคุณสมบัติเฉพาะตัว

เหล็กหล่อ (Cast Iron)

เหล็กหล่อมีกี่ประเภท?

เหล็กหล่อ คือ เหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนผสมอยู่มากกว่า 2% ซึ่งทำให้มีจุดหลอมเหลวต่ำ ขึ้นรูปได้ง่าย และมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่าเหล็กกล้า อย่างไรก็ตาม เหล็กหล่อมีความแข็งไม่มากนักและมีโอกาสเปราะง่าย จึงนิยมใช้ในงานที่ต้องการความทนทานต่อการสึกหรอ หรือชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ไม่มีแรงกระแทกสูงเกินไป

เหล็กหล่อขาว

เหล็กหล่อ ขาวโดดเด่นเรื่องความแข็งและความสามารถในการต้านทานการสึกหรอได้ดีเยี่ยม แต่ข้อเสียคือมีความเปราะสูง ทำให้มีโอกาสแตกหักได้ง่าย จึงนิยมใช้ในงานที่ต้องการผิวหน้าแข็งแรงแต่ไม่ต้องรับแรงกระแทกมากนัก เช่น ล้อรถไฟ จานเจียระไนอัญมณี หรือลูกกลิ้งในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

เหล็กหล่อเทา

สำหรับ เหล็กหล่อ เทานั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างออกไป คือมีจุดหลอมเหลวและอัตราการหดตัวต่ำ ทำให้ขึ้นรูปได้ง่าย สามารถนำไปดัดแปลงเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ แม้ความแข็งจะไม่มากเท่าเหล็กหล่อขาว แต่มีความสามารถในการดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี จึงนิยมใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องจักรต่าง ๆ เช่น แท่นเครื่องจักร และเครื่องมือกล

เหล็กหล่ออบเหนียว

เหล็กหล่อ อบเหนียวมีคุณสมบัติพิเศษที่เหนือกว่า เหล็กหล่อ ชนิดอื่น ๆ คือมีความเค้นและทนทานต่อแรงกระแทกได้ดีกว่ามาก ทำให้มีโอกาสแตกหักน้อยลง อย่างไรก็ตาม การผลิตเหล็กหล่อชนิดนี้ต้องใช้พลังงานสูงและมีกระบวนการที่ซับซ้อน ทำให้ไม่ค่อยนิยมนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไปมากนัก

เหล็กกล้า (Steel)

เหล็กกล้ามีกี่ประเภท?

เหล็กกล้า หรือ เหล็กบริสุทธิ์ มีปริมาณคาร์บอนต่ำกว่าเหล็กหล่อ ทำให้มีความยืดหยุ่นและเหนียวกว่ามาก สามารถนำไปดัดแปลงและใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรม โดยเหล็กกล้าที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ เหล็กเส้นคอนกรีต และ เหล็กรูปพรรณ

เหล็กเส้นคอนกรีต

เหล็กเส้นคอนกรีต คือ เหล็กกล้า ที่ใช้เป็นโครงสร้างหลักในการเสริมความแข็งแรงให้กับงานคอนกรีตต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้วแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะและคุณสมบัติ ได้แก่

  • เหล็กเส้นกลม : เป็นเหล็กกล้าผิวเรียบ ใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงไม่สูงมากนัก เช่น เหล็กปลอกในงานคานและเสา
  • เหล็กข้ออ้อย : มีลักษณะเป็นเส้นคล้ายเกลียว ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น อาคาร เขื่อน และสะพานขนาดใหญ่
  • เหล็กกล้าตีเกลียว : เกิดจากการนำเส้นเหล็กกล้าคาร์บอนสูงหลายเส้นมาตีเกลียวรวมกันเป็นเส้นเดียว เหมาะสำหรับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องการรับน้ำหนักมาก ๆ

เหล็กรูปพรรณ

เหล็กรูปพรรณ คือ เหล็กกล้า ที่ผ่านกระบวนการขึ้นรูปสำเร็จมาแล้วพร้อมใช้งานทันที มีหลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน โดยสามารถแบ่งได้ตามกระบวนการผลิต เช่น การรีดร้อนและรีดเย็น

  • เหล็กแผ่น : มีทั้งแบบมีลวดลายสำหรับปูพื้นกันลื่น เช่น เหล็กตีนไก่ หรือลายดอก และแบบแผ่นเรียบหนาที่ใช้สำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูง
  • ท่อเหล็ก : มีหลากหลายชนิด เช่น ท่อเหล็ก สำหรับงานโครงสร้าง ท่อเหล็ก เพื่อเป็นท่อประปา ท่อเหล็กกัลวาไนซ์ ที่ใช้ในงานโครงสร้าง หรือ ท่อเหล็กร้อยสายไฟ ที่ช่วยป้องกันสายไฟจากการถูกกัดกร่อนและแรงกระแทก
  • ท่อเหล็กตะเข็บเกลียว : ใช้เป็นท่อส่งน้ำ ของเหลว หรืองานโครงสร้าง ที่ต้องการท่อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่
  • เหล็กโครงสร้างรูปตัว H : ใช้เป็นโครงสร้างหลักของอาคารและสะพาน
  • เหล็กตัวซี : ใช้ทำแปหลังคาในงานก่อสร้าง
  • เหล็กฉาก : ใช้ทำโครงสร้างขนาดเล็ก หรืองานเฟอร์นิเจอร์

สรุปบทความ

จะเห็นได้ว่าเหล็ก ไม่ได้มีเพียงประเภทเดียว แต่ถูกแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ตามคุณสมบัติและวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้เหล็กให้เหมาะสมกับงานจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้โครงสร้างมีความแข็งแรงและปลอดภัย Cotco Metal Works คือผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตท่อเหล็ก และเหล็กรูปพรรณ ที่ได้รับความไว้วางใจมานานกว่า 35 ปี เราพร้อมให้คำปรึกษาและจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพสูงเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
The cars we drive say a lot about us. Keep calm and drive on.