Linksys เล็งเห็นตลาดอินเตอร์เน็ตในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยทั้งการแข่งขันด้านความเร็วและราคาของผู้ให้บริการ และความนิยมของการใช้งาน AIoT ที่มีอุปกรณ์รองรับการใช้งานมากขึ้น เปิดตัวแคมเปญ “Mesh is MORE” คิด “เผื่อ” รองรับการใช้งาน WiFi ด้วยการเชื่อมอุปกรณ์ที่เผื่ออนาคต
ชาคริต ศิริกุลประดิษฐ์ ผู้จัดการฝ่ายขายภูมิภาคอาเซียน เบลคิน อินเตอร์เนชันแนล เปิดเผยเทรนด์การใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในไทย ซึ่งหากเทียบจากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีความเร็วเฉลี่ยของการให้บริการ เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับเป็นรองสิงคโปร์เท่านั้น และที่สำคัญจากการแข่งขันของผู้ให้บริการที่ต่างแข่งขันเรื่องของความเร็วและราคาที่ทำให้ผู้บริโภคจับต้องง่าย จากรายงานของ We are social เมื่อต้นปีนี้ทำให้พบว่าความเร็วของการใช้งาน Fix broadband เพิ่ม 117% จากปี 2019 เป็น 125Mbps
“และข้อมูลล่าสุด กันยายน 2020 จาก Speedtest พบว่าความเร็วการใช้งาน Fix broadband ในไทยอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก รองจากสิงคโปร์ ฮ่องกง โรมาเนีย สวิตเซอร์แลนด์ตามลำดับ และโอกาสในการเติบโตของ AIoT ที่จะเสริมให้บ้านเป็น Smart Home เติบโตมากขึ้น ด้วยข้อมูลเมื่อต้นปี 2020 พบว่ามีการใช้งาน AIoT ประมาณ 4 แสนหลังคาเรือน คิดเป็นมูลค่ามากถึง 3,400 ล้านบาท ดังนั้นเราเราเตอร์ที่มาพร้อมกับผู้ให้บริการอาจจะไม่สามารถรองรับการใช้งานที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อจำนวนๆ มากๆ เมื่อมีการเชื่อมต่อพร้อมกัน และเรื่องของความเสถียรของอินเทอร์เน็ต จึงทำให้ Linksys ออกแคมเปญ Mesh is MORE เพิ่มเราเตอร์เพื่อขยายพื้นที่การใช้งาน และจำนวนอุปกรณ์ได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้ง หรือเดินสาย ติดตั้งใหม่ ด้วยเทคโนโลยี iMesh WiFi 6 ที่จะเชื่อมต่อระหว่างเราเตอร์ด้วยกันแบบอัตโนมัติ”
สำหรับ Linksys MR7350 ถือเป็นเราเตอร์รุ่นใหม่ที่ถูกที่สุด เปิดตัวในราคา 5,190 บาท พิเศษช่วงเปิดตัวเพียง 3,990 บาท พร้อมวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และ MR9600 ราคาปกติ 12,990 บาท พิเศษราคาช่วงเปิดตัวเพียง 10,990 บาท
ทั้งนี้ ชาคริต ยังมองตลาด Fix Broadband ในไทยในปัจจุบัน มีประมาณ 10 ล้านครัวเรือน ที่ใช้งานเราเตอร์ที่แถมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่คาดการณ์ว่าจะมีประมาณ 3 ล้านครัวเรือน ที่จะซื้อเราเตอร์ใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือ โฮม ออฟฟิต ที่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก และพื้นที่สัญญาณ WiFi ครอบคลุม และเราพบว่าผู้ใช้งานใหม่ๆ เริ่มจะเชื่อมต่อเราเตอร์แบบ Mesh มากขึ้น ในพื้นที่ส่วนตัว เช่นห้องนอน ห้องรับแขก ในลักษณะ Personalization เพราะแต่ละที่มีอุปกรณ์ AIoT ที่เชื่อมต่อมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
“เรามั่นใจว่า ด้วยเทคโนโลยี iMesh WiFi 6 จะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าสินค้าของเราราคาอาจจะสูงกว่าคู่แข่งในตลาด แต่ด้วยเทคโนโลยีมาตราฐานของเราที่เป็น Mesh แท้ๆ มีเทคโนโลยีที่เป็นของเราเอง ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นการใช้ชื่อ Mesh ก็ตาม แต่ประสิทธิภาพการใช้งานจะลดทอนเหมือน Repeater ทั่วๆ ไปตามท้องตลาด”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา