แม้หลายธุรกิจจะผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 มาได้ แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจดูแย่กว่าช่วงเวลาดังกล่าวเสียอีก ทำให้การหาโซลูชัน หรือเครื่องมือต่าง ๆ มาช่วยให้ธุรกิจสามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ไปให้ได้เสียที ยังถือเป็นความท้าทายในดีกรีที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งวันนี้ Brand Inside จะมาแนะนำโซลูชันของ LINE Thailand ที่หลากหลายแบรนด์ชั้นนำในไทย นำไปใช้เพื่อสร้างการเติบโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจได้จริง จากงาน THAILAND NOW & NEXT: Thriving through the Economic Instability ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
เพราะวันนี้ LINE Thailand ไม่ได้มีแค่ LINE OA หรือบริการ Sticker แต่มีโซลูชันทางการตลาดที่หลากหลาย เหมาะตั้งแต่ธุรกิจระดับ SME จนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เมื่อผสานกับจำนวนผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทยกว่า 56 ล้านบัญชี โอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ย่อมมีประสิทธิภาพไม่น้อย
ดังนั้นลองมารู้จักโซลูชันต่าง ๆ ของ LINE Thailand ที่จะพร้อมติดเครื่องธุรกิจให้ก้าวไปในยุคที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ผ่านตัวอย่างธุรกิจหลากหลายที่นำโซลูชันต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงอนาคตของ LINE Thailand ในการสร้างโซลูชันให้เหมาะสมกับธุรกิจในประเทศไทยดังนี้
LINE Thailand อาสาพาธุรกิจก้าวผ่านความไม่แน่นอน
รัฐธีร์ ฉัตรดำรงค์ศักดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE Thailand เล่าให้ฟังว่า เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตแบบผันผวนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และปี 2024 อาจจะมีการฟื้นตัวที่อัตรา 2.3% ถึง 2.6% โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนี้ครัวเรือน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นปัจจัยที่น่าเป็นห่วง ที่ทำให้ธุรกิจและเศรษฐกิจในประเทศต้องปรับตัว
จุดนี้เอง LINE Thailand จึงแนะนำให้ธุรกิจต่าง ๆ ใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถือเป็นกุญแจสำคัญในการปรับกลยุทธ์ของธุรกิจ โดย LINE ได้มีการแนะนำแนวทาง 4 เรื่องที่ธุรกิจควรนำไปใช้ ซึ่งรวมถึงการใช้โฆษณาแบบผสมผสาน, การขยายกลุ่มเป้าหมาย, การเก็บข้อมูล 1st Party Data และการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับผู้บริโภค
ด้าน วีระ เกษตรสิน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ LINE Thailand เล่าถึงแผนในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หลังจากนี้ว่า ประสิทธิภาพของเครื่องมือ และโซลูชั่นต่าง ๆ ในปี 2024-2025 จะมีมากขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดในยุคเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ตั้งแต่ระบบป้ายโฆษณา, การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า รวมถึงการเชื่อมต่อกับบริการที่เกี่ยวข้องในอนาคต
นำโซลูชัน LINE สร้าง Conversion ได้จริง
จากภาพรวมผลิตภัณฑ์ของ LINE Thailand การนำไปประยุกต์ใช้คืออีกเรื่องที่สำคัญ และเป็นที่มาของการรวมผู้ใช้จริงของโซลูชันเหล่านี้เอาไว้ เริ่มต้นที่ ผู้บริหารของรู้ใจประกันภัย กล่าวถึงแนวคิดการผสานเทคโนโลยีกับการประกันภัย หรือ Insurtech เพื่อสร้างความสะดวก และประสิทธิภาพให้กับลูกค้า
“รู้ใจนำระบบตรวจสอบสภาพรถยนต์ผ่านวิดีโอคอลมาใช้ รวมถึงการแจ้งเหตุผ่านแอปพลิเคชันซึ่งทำให้ทั้งสองฝ่ายเห็นสถานที่จริงได้อย่างรวดเร็ว และสะดวก นอกจากนี้ รู้ใจ ยังมีกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-policy) ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเช็คเบี้ยประกันได้ทันทีผ่านหน้าเว็บ เพิ่มประสบการณ์ที่น่าพอใจให้กับผู้ใช้บริการ”
ทั้งนี้การทำการตลาดด้วยการลงโฆษณาผ่าน LINE Ads ได้ถูกนำมาใช้ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ รู้ใจ โดยเฉพาะการใช้ Video Banner ตรงด้านบนของหน้ารายการแชต หรือที่เรียกว่าตำแหน่ง Smart Channel ที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูล และทำการตลาดเชิงลึกตามกลุ่มเป้าหมาย เช่น คนที่สนใจประกันหรือรถยนต์ ทำให้สามารถสร้างคอนเวอร์ชันและการมีส่วนร่วมของลูกค้าได้จริง
ด้าน ผู้บริหาร โตโยต้า ประเทศไทย ได้แบ่งปันมุมมองว่า ตลาดรถยนต์ในปีนี้หดตัวลง 20% เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งถือเป็นปีที่หนักที่สุดในรอบ 10 ปี หนักยิ่งกว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนซื้อขาย
“ความท้าทายที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เรื่องยอดขาย แต่ยังเกี่ยวข้องกับภาระหนี้สินครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของ GDP ทำให้การปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้การสร้างคอนเวอร์ชันในตลาดยานยนต์กลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย”
จุดนี้เอง โตโยต้าจึงใช้ประโยชน์จากโซลูชันของ LINE ในการสื่อสารทำการตลาดแบบ Full Funnel ครอบคลุมทุก Decision stage ของลูกค้า ตั้งแต่การลงโฆษณาผ่าน LINE Ads ในรูปแบบ Smart Channel Custom ก่อนเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และเพื่อเก็บข้อมูล audience ในแต่ละ stage ให้ได้ แล้วนำมาสื่อสารแบบ Re-targeting ด้วยโฆษณาบน LINE Ads ต่อ เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ลูกค้าพิจารณาเปรียบเทียบตามความสนใจ จากนั้น ดึงผู้ที่สนใจกลับมายังโชว์รูมผ่านการทำ Lead Form โดยตรงในแอปฯ LINE โดยใช้ LINE OA ในการเก็บ Lead เพิ่มเติม ช่วยเพิ่มโอกาสเปลี่ยน Lead ให้เป็นยอดขาย ทำให้แบรนด์ยังสามารถสื่อสารพูดคุยกับ Lead ต่อไปเพื่อปิดการขาย นำไปสู่การสร้างคอนเวอร์ชั่นได้ในที่สุด อีกทั้ง Toyota ยังมีการนำข้อมูลลูกค้าเดิมมาใช้ในการหากลุ่มเป้าหมายแบบ Lookalike ช่วยให้ Toyota เข้าถึงลูกค้าใหม่ เก็บ Lead ใหม่ๆ เพิ่มเติมไปด้วยในตัว
ส่วน กนกพร คงสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ Aelova แบรนด์อาหารเสริม เล่าว่า หลังจากช่วงโควิด-19 ตลาดสุขภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าอาหารเสริมเพิ่มขึ้นกว่า 78%
“ความท้าทายอยู่ที่การแข่งขันในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น Aelova มุ่งเน้นที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก โดยใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นผู้ใช้งานจริง มาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้งาน Aelova อย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน ผ่านการลงโฆษณาบน LINE Ads โดยแบรนด์เลือกที่จะลองลงโฆษณาด้วยหลากหลายวัตถุประสงค์ และลงในหลากหลายตำแหน่ง ทั้งบน LINE VOOM, LINE OpenChat เป็นต้น เพื่อช่วย drive traffic ไปยัง LINE OA ให้มากที่สุด โดย LINE OA จะถูกใช้เป็นแหล่งในการรวบรวม รักษาฐานลูกค้า ด้วยการสื่อสารแบบ Retarget ไปยังลูกค้าแต่ละกลุ่มให้ตรงจุด และมีการใช้ฟีเจอร์ Step Message มาช่วยกระตุ้นลูกค้าในการตัดสินใจซื้อด้วยอีกทาง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นผ่านการรีเทนชันลูกค้าด้วยคอนเทนต์ที่จริงใจ เชื่อถือได้บน LINE OA
แบรนด์ Aelova เชื่อว่า การสร้างคอนเทนต์ตามเทรนด์ของผู้บริโภคยังถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ตัวคอนเทนต์ต้องเต็มไปด้วยความจริงใจ และต้องถูกสื่อสารออกไปให้ตรงกลุ่ม ซึ่งเครื่องมือบน LINE ถือว่ามาช่วยตอบโจทย์ ทั้งในเชิงสร้าง Awareness ต่อไปยังการปิดการขายได้จริง ด้วยต้นทุนที่ถือว่าต่ำกว่าแพลตฟอร์มอื่น
เจาะลึกกรณีตัวอย่างใช้ LINE สร้าง Brand Experience ที่ดี
รัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Food Passion เจ้าของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เล่าว่า ธุรกิจอาหารใคร ๆ ก็เข้ามาได้ จึงมีการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นการสร้าง Loyalty และความประทับใจให้กับลูกค้าจึงเป็นเรื่องจำเป็น
บาร์บีคิวพลาซ่า ใช้ LINE OA เป็นฐานที่มั่นสำคัญในการทำความรู้จักลูกค้า จึงพยายามกระตุ้นให้ลูกค้าทุกรายที่เข้ามาใช้บริการแอด LINE OA เพื่อเข้าเป็นสมาชิกของแบรนด์ จนปัจจุบันมีฐานสมาชิกอยู่ถึงกว่า 3 ล้านราย หลังจากนั้น แบรนด์จะค่อยๆ เก็บข้อมูลลูกค้าผ่าน Mission ต่างๆ ทีละนิด เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความไม่สบายใจในการกรอกข้อมูลทีละเยอะๆ โดยดาต้าที่ได้มาจะถูกนำมาจัด Segmentation ตามพฤติกรรมลูกค้า และใช้ LINE OA เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ทั้งข่าวสาร โปรโมชั่น และเมนูพิเศษที่ตรงใจ เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกที่ ถูกเวลา
นอกจากใช้ LINE OA ในการทำระบบ CRM ที่แข็งแกร่ง บาร์บีคิวพลาซ่ายังใช้ LINE API เป็นตัวกลางเชื่อม LINE OA กับระบบออร์เดอร์ในร้าน ทำให้ลูกค้าสามารถสั่ง-จ่าย-จบครบในที่เดียวได้ ลูกค้าสามารถสั่งอาหาร ชำระค่าใช้จ่ายผ่าน LINE OA และเดินออกจากร้านได้ทันที ถือเป็น Experience ชั้นดี ที่แบรนด์อำนวยความสะดวกสบาย ให้ลูกค้าประทับใจ
อีกตัวอย่างที่ทุกคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดีคือ หมอพร้อม ศุภฤกษ์ ถวิลลาภ รองผู้อำนวยการสำนักสุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข เล่าว่า ในช่วงโควิด-19 คนไทยต้องฉีดวัคซีนรวมกว่า 120 ล้านเข็ม และการบันทึกข้อมูลแบบดั้งเดิมนั้นอาจไม่สะดวก ดังนั้นการที่เกือบทุกคนมี LINE อยู่แล้ว ทำให้การลงทะเบียน และทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่าน LINE OA ของหมอพร้อม ย่อมอำนวยความสะดวกให้
ปัจจุบัน LINE OA หมอพร้อม ยังถูกใช้งานอยู่ โดยขยายบทบาทเป็นตัวกลางเพื่อการสื่อสารระหว่างโรงพยาบาลและประชาชนผู้รับบริการ โดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐที่สังกัดกับกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูล กำหนดนัดหมาย ใบสั่งยา เป็นต้น อีกทั้ง ยังเป็นแหล่งส่งข้อความหรือคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์สำหรับแต่ละบุคคลในการดูแลสุขภาพ เช่น หญิงตั้งครรภ์ จะได้รับข้อความเฉพาะในการดูแลตนเอง ทั้งนี้ ยังมีหลายโรงพยาบาลที่นำ LINE OA หมอพร้อมมาใช้กับระบบการทำงานภายในโรงพยาบาล อาทิ การตอกบัตรเข้างาน การจองห้องปฏิบัติการต่างๆ เอกสารส่งตัวคนไข้ เป็นต้น
การใช้เทคโนโลยีจาก LINE ดังกล่าวนี้ ถือเป็นการปฏิวัติวงการ ยกระดับการให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับประชาชนและบุคลากรในวงการสาธารณสุข
Martech ชั้นนำเพิ่มศักยภาพดาต้าด้วย LINE
อีกหนึ่งเซสชั่นที่น่าสนใจ ตอกย้ำถึงความสำคัญของแพลตฟอร์ม LINE ในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยดาต้า โดยมีเอเจนซี่และองค์กร Martech ชั้นนำในไทย ได้มาร่วมแชร์มุมมองหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Egg Digital ร่วมเน้นย้ำถึงบทบาทของ LINE ในฐานะแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกให้กับแบรนด์ได้ และเป็นช่องทางการนำดาต้าไปใช้งาน สร้างการสื่อสารที่เฉพาะเจาะจง
Egg Digital จึงได้สร้าง EGG ONE Platform ขึ้นเพื่อช่วยแบรนด์ในการรวบรวมและใช้งานดาต้าผ่าน LINE ทั้งในรูปแบบโปรแกรมสมาชิก ที่สามารถเชื่อมโยง LINE User ID ของลูกค้า กับข้อมูลลูกค้า 1st Party Data จากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่แบรนด์มีได้ เพื่อให้แบรนด์สามารถระบุตัวตนลูกค้าได้แม่นยำ นำไปสร้างแคมเปญการสื่อสารและโปรโมชั่นที่เฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น และจากกลุ่มตัวอย่างแบรนด์ที่ได้เคยใช้งาน พบว่ายังสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ให้แบรนด์เข้ามาได้มากถึง 25-30%
อีกรูปแบบหนึ่งคือการนำ 1st party data ที่แบรนด์มี เช่น เบอร์โทรศัพท์ มาใช้ในการส่งข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่าน LINE Official Notification (LON) ซึ่งไม่เพียงสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า แต่ยังช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเพิ่ม LINE OA ของแบรนด์เป็นเพื่อน ทำให้การสื่อสารกับลูกค้าง่ายขึ้น การทำเช่นนี้ สร้างผลลัพธ์ที่ดี ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมจากลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 50% และประหยัดต้นทุนมากถึง 60-80%
ด้าน ธัญญ่า พัฒนทอง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ประจำประเทศไทย บริษัท เอดีเอ ดิจิตัล (ประเทศไทย) จำกัด เล่าเสริมว่า ADA มีการเก็บดาต้าเป็นของตัวเองเช่นกันจากแหล่งข้อมูลต่างๆ โดยแบ่งข้อมูลออกเป็น 3 กลุ่ม คือ Demographic, Location และ พฤติกรรม ความสนใจ LINE ถือเป็นแหล่งข้อมูลลูกค้าชั้นดี ทำให้แบรนด์ได้ข้อมูลที่มีศักยภาพมากขึ้น จึงเกิดความร่วมมือระหว่าง LINE และ ADA ขึ้น เพื่อช่วยแบรนด์ในการใช้ดาต้าทำแคมเปญการตลาดบน LINE โดยใช้ข้อมูลทั้งจาก ADA เอง ร่วมกับข้อมูล 3rd Party Data ที่แบรนด์ได้จาก LINE ผลปรากฏว่า ตัวอย่างแบรนด์กลุ่มธุรกิจค้าปลีก มี Conversion rate เพิ่มขึ้นถึง 80% CTR เพิ่มขึ้นถึง 22% และลดต้นทุนการทำแคมเปญได้ถึง 25% ในขณะที่ตัวอย่างแบรนด์กลุ่มธุรกิจประกัน มี Conversion rate เพิ่มขึ้นถึง 41% CTR เพิ่มขึ้นถึง 29% และลดต้นทุนในการทำแคมเปญได้ถึง 55%
อีกหนึ่งบริษัท Martech ชื่อดังอย่าง Wisesight วรัทย์ วงศ์มณีกิจ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า Wisesight ได้พัฒนาโซลูชั่นด้านดาต้าอย่าง Warroom ระบบรวมศูนย์ข้อมูลสำหรับจัดการการสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยมีการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม LINE ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับการซื้อขายในเมืองไทย ช่วยให้แบรนด์สามารถติดตามข้อความแบบเรียลไทม์ได้ไม่ว่าจากช่องทางไหน และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปจัดกลุ่มเพื่อสร้างแคมเปญสื่อสาร ตอบกลับลูกค้าโดยตรงผ่านหลากหลายช่องทางโซเชียลมีเดียได้ และจัดการขั้นตอนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ยังช่วยแบรนด์ในการปรับปรุงการบริการลูกค้า ติดตามการกล่าวถึงแบรนด์ และปรับปรุงระบบ CRM สำหรับนำไปสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดได้ในอนาคต
ทั้งหมดนี้คือภาพรวม และการประยุกต์ใช้งานดาต้า รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ และโซลูชันต่าง ๆ ของ LINE เพื่อติดอาวุธให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤติความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหลังจากนี้ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา