ธุรกิจลักชัวรีกำลังเปลี่ยนจากการครอบครองสินค้า ไปสู่การไล่ล่าประสบการณ์ที่มีความหมาย และ ‘ตลาดไทย’ คือหนึ่งในพื้นที่ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย

ข้อมูลจาก SCB ระบุว่า จำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 5% จากแรงขับเคลื่อนของจีนและอินเดีย ส่งผลให้ดีมานด์ต่อสินค้า และบริการระดับพรีเมียมขยายตัวตามไปด้วย
อินไซต์ผู้บริโภคตลาดลักชัวรีไทยยุคใหม่
ในไทย การสำรวจร่วมกันระหว่าง LINE และ IPSOS สะท้อนภาพที่ชัดเจนขึ้น เมื่อกว่า 53% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายกับสินค้าลักชัวรีเพิ่มขึ้น และ 59% ยอมรับว่า พร้อมซื้อผ่านออนไลน์แล้ว ยอดการติดตามแบรนด์หรูบน LINE Official Account ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าเม็ดเงินที่ใช้จ่ายผ่าน LINE จะเติบโตอีก 15% ในปี 2025
สินค้ายอดฮิตอันดับหนึ่งคือ ‘รองเท้า’ อยู่ที่ 77% รองลงมาเป็น เสื้อผ้า 73% นาฬิกา 70% และกระเป๋า 69% ตามลำดับ สะท้อนพฤติกรรมที่ซื้อเพื่อให้รางวัลตัวเองมากขึ้น
ขณะที่ความแตกต่างด้านพฤติกรรมระหว่างเพศยังคงอยู่ ‘ผู้ชาย’ ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ส่วน ‘ผู้หญิง’ มองเรื่องสไตล์ และโอกาสใช้งาน
ในขณะที่กลุ่ม ‘Gen Z’ การเลือกซื้อไม่ได้ขึ้นอยู่แค่คุณภาพ แต่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ความสนุก และการแสดงตัวตน แตกต่างจาก ‘Millennial’ และ ‘Gen X’ ที่ยังคงให้ค่ากับงานฝีมือแบบดั้งเดิม
ก่อนตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคแทบทุกคนหาข้อมูลออนไลน์ โดย 66% ทำผ่านแพลตฟอร์มใน LINE ecosystem ไม่ว่าจะเป็น LINE OA หรือ LINE OpenChat เหตุผลหลักคือ การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก และข้อเสนอพิเศษที่ไม่ได้มีในช่องทางอื่น
อีกทั้ง 94% ยอมรับว่าเมื่อได้พูดคุยกับ Sale Advisor ผ่านแชทแล้ว ความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลประกันสินค้า และบริการหลังการขายมากกว่าที่คาด
อนาคตไทย กับโอกาสก้าวขึ้นเป็น Luxury Destination
ในมุมภาพใหญ่ ปรากฏการณ์นี้ยังสะท้อนพลังซอฟต์คัลเจอร์ของไทย ที่กำลังกลายเป็นแรงส่งสำคัญในตลาดลักชัวรีระดับภูมิภาค
เมื่อคนดังและศิลปินไทยเริ่มมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคต่างชาติ ส่งผลให้มูลค่าตลาดแฟชั่นลักชัวรีในไทยแตะกว่า 4.4 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 1.42 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปีจนถึงปี 2028 ขณะที่ช่วงนั้น Millennials และ Gen Z จะแทบผูกขาดฐานลูกค้าเกือบ 80%
ทั้งหมดนี้กำลังกดดันให้ธุรกิจเข้าสู่ยุค Digital-First Luxury ซึ่งเส้นทางการซื้อเริ่มจากการค้นหา รีวิว ทดลองผ่าน AR สนทนากับผู้ช่วย AI ก่อนเข้าสู่หน้าร้านจริง เพื่อสัมผัสสินค้าในขั้นสุดท้าย
โดยแพลตฟอร์มอย่าง LINE เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่แบรนด์จำนวนมากเลือกใช้ควบคู่กับโซเชียลมีเดียอื่นๆ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ย้ายการค้นหาข้อมูลขึ้นมาอยู่บนออนไลน์เป็นหลัก
การแข่งขันวันนี้ไม่ได้อยู่ที่ใครมีสินค้าที่ดีที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความสามารถในการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ผ่านข้อมูลที่แม่นยำ การบริการที่ละเอียด และช่องทางสื่อสารที่กระชับแต่ตอบโจทย์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างพยายามพัฒนาเครื่องมือ และโซลูชันของตัวเองเพื่อตอบรับการเปลี่ยนผ่านนี้
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา