โซเชียลคอมเมิร์ซโตต่อเนื่อง: LINE SHOPPING ผู้ใช้งานเพิ่ม 200% จำนวนร้านค้าโต 7 เท่า

ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยหลายรายต้องปิดกิจการไป แต่ LINE SHOPPING ก็เห็นการเติบโตของผู้ใช้ที่ก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา และพร้อมสนับสนุนผู้ขายรายใหม่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในปีนี้ให้ดียิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย

รีแคปปี 2020

เลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า LINE SHOPPING ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา มีจำนวนร้านค้าเพิ่มเป็น 200,000 ร้าน นับว่าเติบโตถึง 7 เท่า (64%) มียอดขายรายเดือนเฉลี่ย 150,000 – 500,000 บาทต่อร้าน คิดเป็นยอดขายรวมที่เติบโตกว่า 272%

ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มจาก 3 ล้านเป็น 7 ล้านคน โดยสินค้าที่ขายดีที่สุด 5 หมวดได้แก่ แฟชั่น, สุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และไอทีแกดเจ็ต โดยหมวดแฟชั่น, สุขภาพและความงามมียอดขายมากขึ้น 35%

นอกจากนี้ LINE SHOPPING ยังสนับสนุนผู้ประกอบการด้วยการจัดแคมเปญด้วย LINE POINTS ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายต่อเจ้าของร้าน ช่วยให้ Basket Size เพิ่มขึ้น 50% และอัตราซื้อซ้ำเพิ่มอีก 12%

มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยปี 2020 อยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท โดย 62% มาจาก Social Commerce หรือการค้าขายบนโซเชียลมีเดียที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีการติดต่อกันโดยตรง ซึ่ง LINE SHOPPING ถือว่าอยู่ในหมวดหมู่นี้ โดยอีก 38% ที่เหลือมาจากแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและเว็บไซต์อื่นๆ ในตลาด

สร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับทุกฝ่าย

ในปีที่แล้ว ทาง LINE SHOPPING ได้เน้นการเพิ่มจำนวนร้านค้าบนแพลตฟอร์มผ่าน MyShop ไปแล้ว ในปี 2021 นี้จึงต้องการเน้นด้านการทำให้ประสบการณ์การขายดียิ่งขึ้นผ่านการพัฒนาฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาอีกด้วย ทั้งหมดรวมกันมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการทุกราย ไม่ว่าจะแข่งกับผู้ประกอบการรายอื่นหรือในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ ก็ตาม

โดยระบบของ LINE SHOPPING ที่มีอยู่แล้ว ได้แก่

  1. ระบบโลจิสติกส์และการชำระเงิน อาทิเช่น การร่วมมือกันของ LINE SHOPPING กับไปรษณีย์ไทย สนับสนุนค่าส่งต่ำสุดในตลาดที่ 19 บาทเท่านั้น
  2. การติดต่อพาร์ทเนอร์และผู้ผลิตให้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มคอร์สเรียนฟรี บูทแคมป์ และคอมมิวนิตี้สำหรับผู้ขายมากขึ้น “เพื่อให้เข้าใจเทรนด์และสามารถสร้างกลยุทธ์การขายของตัวเองผ่านทาง MyShop ได้ง่ายขึ้น”

ส่วนระบบที่จะเพิ่มเข้ามาหรือกำลังจะปรับเปลี่ยนในอนาคต ได้แก่

  1. LINE & Social Commerce Ecosystem
    • Curated Browsing Experience – ปรับวิธีการจัดเรียงสินค้า ปรับคอลเลคชั่นให้ร้านค้านำเสนอสินค้าของตัวเองให้ดีมากขึ้น
    • Easier Discovery – เพิ่มฟีเจอร์การเสิร์ชเข้ามาให้หาร้านค้าที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น
    • LIVE Commerce – เลอทัดอธิบายว่า LIVE Commerce เป็นการ “นำดาราและเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงมาดำเนินรายการ อาทิ รายการ @TuesLive โดยป้าตือ-สมบัษร รายการแซะแซ่บโดย อั๋น-ภูวนาท และ บุ๋ม-ปนัดดา” ซึ่งสามรถกระตุ้นยอดขายได้อย่างดี ในอนาคตกำลังเตรียมเพิ่มรายการให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายกว่าเดิม

2. LINE Social Graph เป็นบริการใหม่ที่จะทำให้ร้านค้ามีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ในรูปแบบใหม่ แต่ LINE SHOPPING ยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการนี้แต่อย่างใด

สรุป

ด้วยสถานการณ์โควิดที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง สภาวะล็อกดาวน์ครั้งนี้อาจจะส่งผลร้ายกว่าเดิม แต่ทาง LINE SHOPPING พร้อมเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการทุกรายผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดี รวมถึงการเป็นแพลตฟอร์ม Social Commerce ในระยะยาวอีกด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา