LINE@ จัดฟีเจอร์ Rich Menu เคล็ดลับช่วย SME เพิ่มยอดขาย

สำหรับคนที่ใช้ LINE@ จะรู้ว่าช่วยเพิ่มความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ยิ่งคนไทยมากกว่า 42 ล้านคนที่ใช้ LINE อยู่ ทำให้โอกาสในการเข้าถึงร้านค้ามีมากขึ้น และครั้งนี้ LINE@ ได้นำเสนอฟีเจอร์ Rich Menu ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้ากว่าเดิม

Rich Menu เป็นเมนูภาพที่ขึ้นในหน้าแชท และให้ร้านค้าตั้งค่าลิงก์ไปที่ไหนก็ได้ เช่น ลิงก์ไปดูรูปเพิ่มเติมบนหน้า Timeline ลิงก์ไปบนเว็บไซต์ หรือลิงก์ไปตรวจเช็กสถานะสินค้าก็ได้ คำถามที่ลูกค้าถามซ้ำๆ หรือร้านค้าจัดโปรโมชั่นบ่อยๆ Rich Menu สามารถเพิ่มโอกาสในการขายได้

แม้ว่า Rich Menu จะเป็นฟีเจอร์พิเศษที่มีในแพ็คเกจรายเดือนแบบ Pro ขึ้นไป แต่มีเสียงจากผู้ประกอบการหลายรายที่บอกว่า  ลงทุนเพิ่มอีกนิด ยอดขายมีโอกาสกลับมาไม่ยาก

เปิด 3 ธุรกิจยอดนิยมที่ใช้ Rich Menu

  1. ค้าขาย

ร้านค้าหลากหลายประเภทใช้ Rich Menu ช่วยให้ขายคล่องขึ้น สามารถเลือกแบ่งเมนูตามหมวดสินค้า ตามคอลเลกชัน ตามโปรโมชั่น หรือตามคำถามที่พบบ่อยก็ได้

ร้านรองเท้าแฟชั่นขวัญใจสาวๆ อย่าง O&B เลือกคำถามที่ลูกค้าถามบ่อยๆ มาทำเป็น Rich Menu เช่น ไซส์รองเท้าที่เหมาะสม หรือหน้าร้านอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ยังสามารถยกรุ่นฮิตหรือคอลเล็กใหม่ๆ มาโปรโมทตรงนี้ได้ด้วย

Rich Menu ช่วยให้ง่ายสำหรับทั้งลูกค้าและแอดมิน เพราะลูกค้าหาข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องมาคอยถาม ส่วนแอดมินก็ทำหน้าที่ลดน้อยลง” – ทีม O&B

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ร้านแฟชั่น คือ TA Active ชุดออกกำลังกายสำหรับคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ มีหลายคอลเล็กชันให้เลือก ก็ใช้ Rich Menu มาช่วย โดยหยิบคอลเล็กชันที่เป็นไฮไลต์ขึ้นมา ลูกค้าก็หาชุดถูกใจง่ายขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้น

นอกจากแบ่งเป็นคอลเล็กชันหรือประเภทสินค้าแล้ว Rich Menu ยังทำเป็นเหมือนแบนเนอร์แสดงโปรโมชั่นได้ด้วย อย่าง คุณจ็อบผู้ก่อตั้งและดูแล LINE@ ของ ITDix & Fin gadget แหล่งรวมสินค้าไอทีรุ่นใหม่ บอกว่าRich Menu แบบ 6 เมนู เหมาะกับการแบ่งสินค้าเป็นหมวด ใช้เวลาไม่มีโปรโมชั่น เพราะช่วยให้ลูกค้าหาสินค้าได้ครบยิ่งขึ้น แต่ถ้ามีโปรแรงๆ ต้องใช้แบบ 3 เมนูเพื่อไฮไลต์สินค้า”

  1. คลินิกหรือสปา

อีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องมี Rich Menu เลยก็คือซาลอน สปา และ คลินิกเสริมความงาม โดยใช้เป็นช่องทางรีวิวเพื่อให้ลูกค้าเห็นผลลัพธ์ชัดๆ ไม่ว่าจะรูป Before / After หรือคลิปวิดิโอ การหยิบ Rich Menu มาช่วยจัดหมวดจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

Medmetic by Meko หนึ่งในคลินิกศัลยกรรมสำหรับสาวๆ ที่รักสวยรักงาม เลือกหยิบรีวิวของบริการยอดนิยมขึ้นมาบน Rich Menu เพื่อให้ลูกค้าดูโดยไม่ต้องแชทถาม ถ้าถูกใจ มั่นใจ ค่อยคุยกัน จองคิว ทำแบบนี้ช่วยปิดการขายได้เร็วขึ้น

อีกตัวอย่างคือ Chaba Nail Spa ร้านทำเล็บขวัญใจสาวๆ ยุคมิลเลนเนียล คุณเก่ง ผู้ก่อตั้งเลือกใช้ Rich Menu มาช่วยให้ลูกค้าหาลายถูกใจได้เร็วขึ้น รวมถึงหาข้อมูลอื่นๆ ได้ทันใจยิ่งขึ้นด้วย เมื่อก่อนลูกค้าชอบมาออหน้าร้านเพราะเลือกลายที่ถูกใจไม่ได้ ส่วนช่างก็ว่างเพราะรอลูกค้าเลือกลาย พอมี Rich Menu แล้วช่วยเพิ่มลูกค้าได้หลายคิว แถมลูกค้าก็เข้าถึงดีไซน์ใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย

ร้านอาหาร

อีกหนึ่งตัวอย่างคือ ร้านอาหาร เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมากทีเดียว ดังนั้นการสื่อสารข้อมูลไปให้ลูกค้าได้ครบถ้วน รวดเร็ว เช่น ตำแหน่งร้าน, เมนูพิเศษ, โปรโมชั่นเด็ด สามารถสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจ การใช้ Rich Menu แบบ 6 เมนู และเลือกใช้เทมเพลตที่มีทั้งเมนูเล็กและใหญ่ สามารถช่วยสื่อสารได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างเช่น Tenjo บุฟเฟต์ปิ้งย่างอาหารญี่ปุ่นยอดนิยม เป็นอีกเจ้าที่เลือกใช้ทั้งแบบ 6 เมนูยอดฮิตของทางร้าน โดยนำคำถามที่พบบ่อยมาไว้ที่ Rich Menu เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องคอยถามแล้วรอคำตอบ คุณออม ฝ่ายการตลาด บอกว่า Rich Menu ช่วยให้ลูกค้าได้ข้อมูลครบถ้วนและรวดเร็วโดยทันที ไม่ต้องรอแอดมินตอบหลายนาที” แบบนี้ถูกใจลูกค้าที่ชอบรอแน่นอน แถมลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ไม่ใช่แค่ 3 ประเภทธุรกิจที่กล่าวมาเท่านั้น แต่ธุรกิจอื่นๆ ก็ยังใช้ได้ด้วย เช่น เต๊นท์รถ ก็สามารถอัพเดทรายการรถใหม่ โปรโมชั่น หรือให้ความรู้เกี่ยวกับการกู้ยืมก็ได้ ส่วนอีเว้นต์ก็สามารถทำเป็นเมนูสำหรับลงทะเบียนเข้างาน แผนผังบูท หรือที่ตั้งของอีเว้นต์ก็ได้เช่นกัน หรือแม้แต่ธุรกิจทัวร์ก็เลือกทำเป็นแบนเนอร์ของทัวร์ที่เป็นไฮไลต์ในช่วงนั้นก็ได้

อยากมีเคล็ดลับเจ๋งๆกันแล้วรึยัง?

สร้าง Rich Menu ได้ไม่ยาก เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ admin-official.line.me ซึ่งเป็นเว็บที่มีฟีเจอร์ LINE@ ทั้งหมด สำหรับคนที่ใช้แพ็กเกจรายเดือนแบบ Pro จะมีเมนู Rich Content เพิ่มเข้ามา ซึ่ง Rich Menu จะอยู่ตรงนั้น

วิธีสร้าง Rich Menu

ท่ามกลางการแข่งขันทางธุรกิจ ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เป็นยุคที่เรียกว่า Consumer Centric หรือศูนย์กลางอยู่ที่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง เครื่องมือที่จะช่วยให้การสื่อสารระหว่างร้านค้ากับผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อลูกค้าหาข้อมูลง่าย ร้านค้าก็ตอบคำถามน้อยลง และปิดการขายได้เร็วขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสมัคร LINE@ แพ็คเกจ Pro ได้ที่นี่ http://bit.ly/2GA0SEO

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา