“ตอนนี้ LINE MAN แทบจะเป็นคำทับศัพท์ในการสั่งอาหาร หรือส่งของไปแล้ว” นี่คือคำจากปากของหนึ่งในทีมผู้บริหาร LINE MAN ที่สื่อว่าตอนนี้ LINE MAN คือ Top of Mind ของบริการนี้ แต่นั่นมันยังไม่เพียงพอในโลกธุรกิจ
พร้อมทุ่มสุดตัว-ไม่หวั่นคู่แข่งเข้ามาเยอะ
ปัจจุบัน LINE MAN ให้บริการครบรอบ 3 ปีแล้ว ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมาตัวบริการนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว จากแค่ส่งอาหาร, ฝากซื้อของ และส่งของ ก็มีบริการรับส่งพัสดุ กับเรียกแท็กซี่เข้ามา จนทั้ง 5 บริการนี้ทำให้ LINE MAN กลายเป็นธุรกิจสำคัญของ LINE ประเทศไทย ผ่านการสร้างรายได้ทั้งจากผู้บริโภค และความร่วมมือกับธุรกิจอื่นๆ
ซินหมิง จ้าว หัวหน้าธุรกิจ LINE MAN เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ให้บริการมา LINE MAN มีการเติบโต 3 เท่ามาทุกปี ซึ่งล่าสุดก็มียอด Active User (ผู้เข้าใช้งานอย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน) 3 ล้านราย/เดือน โดยมีบริการส่งอาหาร กับเรียกแท็กซี่เป็นบริการที่ถูกใช้งานมากที่สุด หรือรวมกันเกินครึ่งหนึ่งของบริการทั้งหมด
“LINE MAN ยังลงทุนพัฒนาบริการทั้ง 5 และบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องกำไรนั้นอยากให้มองเป็นเรื่องรองมากกว่า ส่วนการมีคู่แข่งเข้ามาเพิ่มนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี และน่าจะช่วยสร้างตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้มากกว่าเดิม”
ตัวเลือก-บริการ-ราคา คือตัวแปรในการตัดสินใจ
หากเจาะแค่บริการส่งอาหารนั้น LINE MAN มีร้านให้เลือกกว่า 47,000 ร้าน ถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น พร้อมกับไม่จำกัดระยะทางในการส่ง และไม่เพิ่มราคาอาหารเมื่อเทียบกับราคาปกติ ส่วนเมนูยอดนิยมคือกลุ่มเครื่องดื่ม, สตรีทฟู้ด และอาหารว่าง
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่าส่งคือหนึ่งในปัจจัยที่ลูกค้าจะตัดสินใจใช้บริการ แต่ถึง LINE MAN จะมีค่าส่งเริ่มต้น 55 บาท และเพิ่มขึ้น 9 บาททุกกม. ซึ่งพรีเมียมกว่าคู่แข่งรายอื่น แต่ผู้บริโภคก็ยังแสดงความเชื่อมั่น เพราะราคาเราโปร่งใส และทำให้ LINE MAN เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้”
ขณะเดียวกันด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตเร่งรีบมากขึ้น การที่ LINE MAN เริ่มต้นตั้งแต่ 3 ปีก่อน ทำให้ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดี โดยเฉพาะการสั่งอาหารเที่ยง และเย็นจนคำว่า LINE MAN กลายเป็นคำพูดทดแทนการเรียกพี่วิน หรือแมสเซ็นเจอร์ไปซื้ออาหาร เพราะทุกคนพูดว่า “สั่ง LINE MAN สิ”
มากกว่า Top of Mind คือ Top of Choice
“ตอนนี้ LINE MAN เป็น Top of Mind ในบริการ O2O เกี่ยวกับการสั่งอาหารแล้ว หลังจากนี้เราก็อยากเป็น Top of Choice ด้วย เพราะเวลาที่คู่แข่งทำราคาออกมาได้ถูกว่า ผู้บริโภคก็ยังไปเลือกอีกฝั่ง ดังนั้นการแข่งขันนี้เราต้องทำให้ดียิ่งกว่าเดิม เพื่อเป็นตัวเลือกในใจ และตัวเลือกแรกเมื่อผู้บริโภคอยากใช้บริการ O2O ในลักษณะนี้”
หนึ่งในข้อพิสูจน์ว่า LINE MAN จะเป็น Top of Choice ได้ก็มาจากการที่ผู้บริโภคเริ่มสั่งอาหาร หรือใช้บริการต่างๆ โดยไม่ใส่คูปองส่วนลดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเป้าหมายในปีที 4 ของ LINE MAN ก็คือการเป็นบริการที่ผู้บริโภคขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน พร้อมเป็น Top of Choice ของทุกบริการ
ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นยอดขายในการครบรอบ 3 ปี LINE MAN จึงส่งโปรโมชั่น 30 Super Deals ที่ให้ส่วนลดพิเศษกับร้านอาหารต่างๆ ตลอดเดือนมิ.ย. นี้ รวมถึงทาง LINE MAN ยังมีแผนขยายไปยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ แต่ต้องดูความพร้อมเรื่องคนขับ และร้านอาหารต่างๆ ด้วย
สรุป
LINE MAN เป็นหนึ่งในบริการ O2O ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย เพราะเชื่อมต่อโลกออนไลน์ กับออฟไลน์ระหว่างบุคคล และภาคธุรกิจต่างๆ แสดงให้เห็นความสำคัญในการใช้กลยุทธ์ O2O ในยุคนี้ ดังนั้นคงต้องติดตามต่อไปว่าในอนาคต LINE MAN จะแข็งแกร่งมากขนาดไหน แล้วจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา