แล้วก็ถึงเวลาวางมือของมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดฮ่องกง Li Ka-Shing วัย 89 ปี ซึ่งประกอบธุรกิจหลากหลายชนิด ได้ประกาศเกษียณตัวเองอย่างเป็นทางการ โดยมอบหมายให้ลูกชายคนโตเป็นผูืสืบต่อธุรกิจต่อไป
ลี กา ชิง มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเกาะฮ่องกง มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยชีวิตเขาในตอนแรกเป็นผู้ลี้ภัยสงครามที่ไม่มีเงินเลย หลังจากนั้นก็เริ่มธุรกิจผลิตของเล่นพลาสติก และขยับขยายธุรกิจจนทำให้เขาได้เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดแห่งเกาะฮ่องกง
สำหรับการบริหารในกลุ่ม CK Hutchison ลี กา ชิง จะส่งมอบตำแหน่งต่อให้กับลูกชายของเขา วิคเตอร์ ลี โดยการประกาศอย่างเป็นทางการของเขาจะเกิดขึ้นในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้
มารู้จักชีวิตเขาสักนิด
ประวัติย่อๆ ของชายผู้ชื่อ ลี กา ชิง
- ลี กา ชิง เกิดในปี 1928 ที่มณฑลกวางตุ้ง โดยบิดาของเขาเป็นครูใหญ่
- 1940 ครอบครัวเขาต้องอพยพหนีภัยสงคราม เนื่องจากญี่ปุ่นบุกจีนแผ่นดินใหญ่ และเขาต้องทำงานโรงงานพลาสติก
- 1950 เขาประกอบธุรกิจของเขาเองโดยการรับจ้างผลิตของเล่นพลาสติก
- 1972 เขาได้พาบริษัท Cheung Kong ของเขาเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยบริษัทเขาเป็นบริษัทแรกในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และทุกวันนี้ยังใช้เลขในการซื้อขายคือ 00001
- 1979 เขาได้ซื้อบริษัท Hutchison Whampoa และขยายอาณาจักรของเขาจนถึงทุกวันนี้
ธุรกิจของเขา
เขาเคยได้กล่าวไว้กับสื่อด้วยประโยคที่ว่า “นักธุรกิจโดยมากไม่ควรมีวิสัยทัศน์คับแคบในอุตสาหกรรมที่ตนลงทุน” โดยธุรกิจของเขาประกอบด้วยหลาหลายอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น
- ธุรกิจโทรคมนาคม โดยเขาเป็นเจ้าของกลุ่มบริษัท Hutchison ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ อย่างเข่น 3 (Three) ในประเทศอินโดนีเซีย ศรีลังกา ฮ่องกง มาเก๊า และหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรป
- โครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า น้ำประปา ท่อส่งก๊าซเข้าบ้านเรือน ในหลายๆ ประเทศ
- ค้าปลีก เช่นร้านค้าปลีกในด้านสุขภาพและความงามอย่าง Watsons เป็นต้น
- ท่าเรือ กิจการท่าเรือของเขามีอยู่ 48 ประเทศ รวมไปถึงประเทศไทยด้วยที่แหลมฉบัง
- พลังงาน โดยเขาเป็นเจ้าของกิจการบริษัทพลังงานที่แคนาดา Husky Energy
ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เขาได้ลงทุนอีกมากมายเช่นอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง หรือว่าการลงทุนในเรื่องของ Life & Science อีกด้วย
VC ตัวพ่อ
สิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้เท่าไหร่นักคือ ลี กา ชิง นั้นเป็น Venture Capitalist ให้กับสตาร์ทอัพชื่อดังของโลกหลายๆ ที่ ซึ่งเขามีกองทุนสำหรับลงทุนในสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ โดยบริษัทที่เขาลงทุนได้แก่ Facebook Spotify หรือแม้แต่ Siri เขาก็ได้ลงทุนก่อนที่ทาง Apple จะซื้อบริษัทไป เขามองว่าการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีทำให้เขาได้กลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้งเวลาได้ฟังการ Pitch จากบริษัทที่มาเสนอให้เขาลงทุน
นักบริจาคตัวยง
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเศรษฐีมีเงินร่ำรวยมหาศาล เขาก็ได้บริจาคเงินกับการกุศลมหาศาล โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยตามต่างประเทศ อย่างเช่นในสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ แม้แต่ในฮ่องกงเองเขาก็ได้บริจาคเงินอย่างมหาศาล ซึ่งการบริจาคของเขาได้บริจาคหลากหลายคณะเช่น คณะแพทย์ คณะบริหารธุรกิจ หรือแม้แต่การบริจาคเงินสร้างห้องสมุด
แผนการสืบทอดธุรกิจต่อจากตัวเขา
มีการคาดการณ์มาเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว สำหรับเรื่องของการหาคนที่สืบทอดตำแหน่งต่อจากตัวเขาเอง แต่หลังจากนี้จะเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดย ลี กา ชิง ได้กล่าวกับสื่อมวลชนหลังจากประกาศวางมือว่า “มองย้อนกลับไปเป็นเวลาหลายสิบปี ตัวเขาเป็นเกียรติที่ได้เริ่มสร้างบริษัท Cheung Kong และได้ให้บริการแก่คนทั่วไป ซึ่งเป็นเกียรติในชีวิตผมอย่างมาก”
ทางด้านผู้สืบต่อธุรกิจของเขาคือ วิคเตอร์ ลี ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ ลี กา ชิง วัย 53 ปีซึ่งตัวเขาเองได้ช่วยบิดาของเขาบริหารบริษัทลูกที่ทำโครงสร้างพื้นฐานและโรงไฟฟ้าอย่าง Cheung Kong Infrastructure Holdings ส่วนทางด้าน ลี กา ชิง ก็จะยังเป็นที่ปรึกษาให้กับทางบริษัทอยู่
ที่มา – Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา