LH Fund เปิดเทคนิคลงทุนหุ้นปี 2019 เลือกหุ้นรายตัว-ดู P/E-ระวังดัชนี SET แตะ 1,750 จุด

เศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไรเมื่อการเมืองไทยยังไม่นิ่ง ปัจจัยจากต่างประเทศก็มีเพียบ อยากลงทุนหุ้นปี 2019 ต้องเลือกอย่างไร?

ภาพจาก Shutterstock

หุ้นไทยปี 2019 โตต่อเนื่อง แต่ต้องจับตา P/E ให้ดี

มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) บอกว่า ปี 2019 นี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนดีกว่าปีที่แล้ว แต่นักลงทุนต้องโฟกัสกับราคาที่เหมาะสมในหุ้นแต่ละตัวโดยดูจาก P/E (ราคาหุ้นต่อกำไร) 

“ตอนนี้ดัชนีหุ้นไทย P/E ประมาณ 14.6 เท่า ถือว่ายังโอเค แต่เมื่อไรที่ P/E ขึ้นไปที่ 15.5-16.0 เท่านักลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก ว่าง่ายๆ ถ้าดัชนีหุ้นไทยไต่ขึ้นไปถึง 1,720-1,750 จุด นักลงทุนต้องระวังตัว”

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยปี 2019 GDP น่าจะเติบโตไม่เกิน 4% โดยมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งเป็นหลัก ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ไม่เคยลงทุนในไทยกล้าลงทุนมากขึ้น ในขณะที่เดือนพ.ค. อาจเห็นเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าไทยเพราะได้รับผลดีเมื่อ MSCI ปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ ทั้งนี้ข่าวการเลือกตั้งทำให้นักลงทุนมีรอบในการเล่นหุ้นถึง 2 รอบในปีนี้

ส่วนปัจจัยเสี่ยงตลาดหุ้นปีนี้ได้แก่ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สงครามการค้า ความเสี่ยงการเมืองในยุโรปและสหรัฐ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง การไถ่ถอน LTF เสถียรภาพการเงินของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (EM)

ภาพจาก Shutterstock

อยากเล่นหุ้นไทยต้องเล่นแบบ Selective

มนรัฐ มองว่าปี 2019 ดัชนีหุ้นไทยจะมีจุดสูงสุดที่ 1,750 จุด และมีโอกาสลงไปถึงจุดต่ำสุดที่ 1,550 จุด โดยหุ้นที่น่าสนใจคือกลุ่มที่มีเงินปันผล แต่นักลงทุนต้องเลือกหุ้นรายตัว เพราะแต่ละเซคเตอร์มีหุ้นที่น่าสนใจแตกต่างกัน เช่น อสังหาริมทรัพย์ ต้องเลือกหุ้นที่รายได้มีการเติบโต ส่วนธนาคารมีหุ้นที่น่าสนใจเยอะ เช่น TISCO (ธนาคารทิสโก้) KTB (ธนาคารกรุงไทย)

“ปีนี้มองว่านักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ อาจจะจัดพอร์ทถือหุ้นสัก 50% อีก 20% เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพราะมีการเติบโตจากค่าเช่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30% อาจลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบแทนได้ประมาณ 2% พอมีช่วงหุ้นตกนักลงทุนอาจจะย้ายเงินจากส่วนกองทุนตราสารหนี้สัก 10% มาลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อเงินก้อนนีไ้ด้กำไร 3-4%ก็ถอนกลับมาตราสารหนี้ จะคุมความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า”

ทั้งนี้นักลงทุนต้องจับตาความผันผวนในตลาดหุ้นให้ดี เพราะในระยะสั้นอาจเห็นหุ้นพักตัว

สรุป

ปีนี้ตลาดหุ้นไทยมีความเคลื่อนไหวมากกว่าปีก่อน และมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่ไม่มีมานาน หลังจากนี้คงต้องจับตาว่า Trade War จะยกเลิกหรือไม่? และเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไรหลังการเลือกตั้ง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

จากนักข่าวการเงินหนังสือพิมพ์ธุรกิจย่านประชาชื่น ผันตัวเข้าโลกออนไลน์ ความท้าทายครั้งใหม่คือการเล่าเรื่องเงินให้เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง