บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG ออกรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 และรายงานรอบ 6 เดือนแรกประจำปี 2018 แล้ว
กำไรในไตรมาสนี้ของ LHFG สุทธิแล้วอยู่ที่ 806.4 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 30.8% และสูงกว่าช่วง 6 เดือนของปีที่แล้ว 31.1% โดยเป็นผลมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโตขึ้นมาก
ไตรมาสนี้ LHFG มีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตสูงถึง 39.8% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ กำไรจากเงินลงทุนและรายได้เงินปันผล ส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
เงินให้สินเชื่อไตรมาสนี้ของ LHFG อยู่ที่ 151,966.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560 แล้วลดลง 1.1% หากมองไปที่ธุรกิจธนาคาร LHBANK แล้วแบ่งตามกลุ่มแล้วพบว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโต 4%, สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมลดลง 5.2% และสินเชื่อเพื่อรายย่อยลดลง 9.8%
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นของ LHFG ไตรมาสนี้อยู่ที่ 684.5 ล้านบาท ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยทางบริษัทแจ้งว่าเป็นผลจากการลดค่าใช้จ่ายของการส่งเสริมการขายและโฆษณา แต่หากมองที่งวด 6 เดือนจะพบว่าค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นอยู่ที่ 1,370.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน
ในด้าน NPL (Net) ของ LHBANK ไตรมาสนี้มีสัดส่วน 1.45% ของสินเชื่อรวม ส่วนการตั้งสำรองหนี้สูญ, หนี้สงสัยจะสูญและขาดทุนจากการด้อยค่าของ LHFG ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 110.1 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสที่ 1 ถึง 66.6% และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 42.7%
สำหหรับเครือข่ายสาขาของ LHBANK ยังมีจำนวนเท่าเดิม ส่วนจำนวนพนักงานในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีทั้งสิ้น 1,668 ราย ลดลง 81 รายเมื่อเทียบกับวันที่ 31 ธันวาคม 2560
ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนภายใต้ บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LHFUND มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการลดลงจาก 5 ล้านล้านบาทเหลือ 4.9 ล้านล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 27.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 78.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 58.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนกองทุนและประเภทกองทุนภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มขึ้น
ธุรกิจหลักทรัพย์ภายใต้ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 25.47 ล้านบาท ลดลง 42.52% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิงวด 6 เดือนอยู่ที่ 173.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 198.67% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ที่มา – Settrade
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา