LG คาดตลาดทีวีในประเทศไทยปี 2023 แตะ 23,600 ล้านบาท โต 2% จากปีก่อน เหตุลูกค้าซื้อจอใหญ่ เศรษฐกิจเริ่มฟื้น เตรียมส่งตระกูล OLED และ Lifestyle TV ดันยอดขายปีนี้โต 8% หวังกินส่วนแบ่งในตลาดนี้ 21% และครองเบอร์ 1 ในกลุ่ม OLED 11 ปีซ้อน
LG มองตลาดทีวีไทยกลับมาเติบโต
อำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมตลาดโทรทัศน์ หรือทีวีในประเทศไทยปี 2023 จะมีมูลค่าราว 23,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปี 2022 ถือเป็นการเติบโตอีกครั้งหลังหดตัวตลอดตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดเมื่อปี 2020 หรือ 2.2 ล้านเครื่อง
การกลับมาเติบโตของตลาดทีวีในประเทศไทยมาจากการที่ผู้บริโภคเน้นซื้อทีวีจอใหญ่ ความคมชัดสูง และต้องเป็นสมาร์ตทีวี ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา และการถึงรอบการเปลี่ยนทีวีของบางกลุ่มลูกค้ายังช่วยให้ 3 ปัจจัยข้างต้นเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
หากเจาะไปที่ตลาดทีวี OLED ในประเทศไทยปี 2023 จะพบว่ามีมูลค่าราว 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปี 2022 แต่ยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5.5% ของทั้งตลาด ซึ่งตลาดปีนี้จะแข่งขันในเรื่องคุณภาพของภาพ และขนาดของจอที่ใหญ่ ส่วนเรื่องราคาอาจจะยังไม่เห็นแข่งขันดุเดือดในเวลานี้
หวังกินส่วนแบ่ง 21% ในตลาด
สำหรับ LG ในปีนี้จะตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่ง 21% ของมูลค่าตลาดทีวีในประเทศไทย คิดเป็นยอดขาย 4,930 ล้านบาท และเป็น 38% ของรายได้บริษัท โดยรายได้จากกลุ่มสินค้าทีวีจะเป็นอันดับที่ 2 ของบริษัท รองจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า แต่เหนือกว่าเครื่องปรับอากาศ
การไปถึงเป้าหมายดังกล่าว LG เตรียมเปิดตัวทีวี OLED 4 ซีรีส์ 12 รุ่น และ QNED Mini LED 10 รุ่น รวมถึงกลุ่มทีวี Lifestyle ที่จะเข้ามาตอบโจทย์กระแสการซื้อทีวีเพื่อเป็นสินค้าตกแต่งบ้าน โดยคาดว่ากลุ่มทีวี OLED จะมียอดขายทั้งหมด 16,000 เครื่อง ครองส่วนแบ่ง 75% เป็นอันดับ 1 ในตลาดโลก และไทย 11 ปีติดต่อกัน
สำหรับงบการตลาดในปี 2023 เพื่อทำตลาดทีวีในประเทศไทย LG จะใช้ทั้งหมด 300 ล้านบาท เบื้องต้นใช้เพื่อปรับปรุงช่องทางจำหน่าย เช่น การดิสเพลสินค้า รวมถึงการใช้ช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และเน้นสื่อสารเรื่องความฉลาดของสินค้า, ความคมชัดสูง และการเป็นแบรนด์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่
ทีวีดันยอดขายบริษัทโต 10%
LG ประเทศไทย คาดว่า การเปิดตัวสินค้าทีวีรุ่นใหม่ รวมถึงการทำตลาดสินค้าอื่น ๆ จะช่วยให้รายได้ของบริษัทในปี 2023 ปิดที่ราว 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2022 ส่วนการผลักดันให้ OLED เป็นประเภททีวีที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางอาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า OLED เป็นเทคโนโลยีที่ LG เริ่มทำตลาดเป็นรายแรกเมื่อปี 2013 ด้วยขนาด 55 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 4 แสนบาท แต่ปัจจุบัน OLED มีต้นทุนทางเทคโนโลยีที่ถูกลง ประกอบกับ LG มีโรงงานผลิตหน้าจอประเภทนี้ ทำให้ปัจจุบันรุ่นเริ่มต้นของ OLED เหลือราคาราว 20,000-30,000 บาท ในขนาดเกือบ 50 นิ้ว
ส่วนกลุ่มทีวี Lifestyle ปัจจุบันมีหลายแบรนด์เริ่มทำตลาด เช่น Samsung โดยวางทีวีให้เหมือนสินค้าตกแต่งบ้าน โดยทีวีประเภทนี้ที่ LG จำหน่ายจะประกอบด้วย Pose ขนาด 55 นิ้ว มีขาตั้งพิเศษ ราคา 67,990 บาท กับ StanbyME ทีวีขนาดเล็ก มีล้อ หน้าจอทัชสกรีน และแบตเตอรี่ในตัว ราคา 44,990 บาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา