บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ LG ขอเวลา 3 ปี ขยับส่วนแบ่งใกล้เบอร์ 1 ตลาดโทรทัศน์ในไทย ใช้ผลิตภัณฑ์โทรทัศน์ OLED กับหน้าจอขนาดใหญ่เกิน 75 นิ้ว จูงใจผู้บริโภค หวังยอดขายปีนี้ทะลุ 4,600 ล้านบาท มองภาพรวมตลาดโทรทัศน์ในไทยมีมูลค่า 23,000 ล้านบาท เติบโต 8%
LG ขอเวลา 3 ปี มีส่วนแบ่งใกล้เบอร์ 1 ตลาดทีวี
อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ LG เล่าให้ฟังว่า ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องของโทรทัศน์ OLED รวมถึงหน้าจอขนาดใหญ่มี โดยเฉพาะโทรทัศน์ OLED ที่ปี 2024 จะมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท ซึ่ง LG เป็นผู้นำของตลาดนี้ ทำให้โอกาสที่บริษัทจะขยับเข้าใกล้ผู้นำตลาดมีมากขึ้น
“ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ปี 2024 LG จะรักษาส่วนแบ่งตลาด 60% ของตลาดโทรทัศน์ OLED และมีส่วนแบ่งในตลาดโทรทัศน์ทั้งหมดในไทยที่ 20% จากมูลค่าตลาด 23,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดนี้เติบโตราว 8% ส่วนโทรทัศน์ OLED ตอนนี้ผู้บริโภคเริ่มมีความต้องการมากขึ้น สังเกตจากหลากหลายผู้เล่นที่เริ่มเข้ามาทำตลาดนี้เช่นกัน”
จากการเติบโตดังกล่าวทำให้สิ้นปี 2024 LG วางเป้าหมายรายได้จากการจำหน่ายโทรทัศน์ที่ 4,600 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งในตลาดรวมโทรทัศน์ใกล้เคียงอันดับ 1 มาขึ้นภายใน 3 ปี แต่ไม่ได้แจ้งว่าแบรนด์ใดเป็นอันดับ 1 และแบรนด์อันดับ 1 นั้นมีส่วนแบ่งการตลาดเท่าไร
บอลยูโร สตรีมมิง นโยบายรัฐกระตุ้นตลาดทีวี
หากเจาะไปที่ภาพรวมตลาดโทรทัศน์จะพบว่า ในปี 2024 ในไตรมาสแรกจะมีปัจจัยเรื่องนโยบาย East E-Receipt เป็นตัวขับเคลื่อน และช่วงกลางปีมีมหกรรมกีฬาเข้ามาช่วยขับเคลื่อนอีกแรง เช่น ฟุตบอลยูโร และโอลิมปิก ประกอบกับการมีรายการต่าง ๆ ของบริการสตรีมมิงเปิดตัวต่อเนื่องมาช่วยขับเคลื่อนตลาดเช่นกัน
“เราก็ลุ้นว่าปลายปีจะมีนโยบายใด ๆ ออกมาหรือไม่ แต่ตอนนี้ตลาดทีวีนั้นถูกขับเคลื่อน และส่งเสริมจากคู่ค้าต่าง ๆ ผ่านสินค้ากลุ่มจอขนาดใหญ่ หรือ 70 นิ้วขึ้นไป และต้องมีนวัตกรรมต่าง ๆ ผสานอยู่ในสินค้า โดยเฉพาะกับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายที่อยากขายจอใหญ่ได้เยอะ ๆ ก็เลยโชว์จอใหญ่เยอะกว่าเดิมด้วย”
อย่างไรก็ตาม LG ไม่ได้มีแต่โทรทัศน์ OLED จอขนาดใหญ่ เพราะยังมีหน้าจอรูปแบบ LED ที่มีหน้าจอระดับ 40 นิ้วเช่นกัน ซึ่งโทรทัศน์ในกลุ่มดังกล่าวยังเป็นรายได้หลัก เพราะแค่โทรทัศน์ OLED ของบริษัทจะคิดเป็นรายได้ราว 1,000 ล้านบาท ในปีนี้ ผ่านการจำหน่ายสินค้าที่ 14,000 เครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาดนี้ที่ 60%
ใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท สร้างการรับรู้
การไปถึงเป้าหมายนี้ LG จะใช้งบประมาณราว 200 ล้านบาท ในปี 2024 เน้นหนักไปที่สร้างการรับรู้ และสนับสนุนการขายในช่องทางต่าง ๆ รวมถึงก้าวข้ามการแข่งขันเรื่องราคาด้วยภาพลักษณ์ Life Good ที่บริษัทพยายามสื่อสารมาโดยตลอด
“เชื่อว่าทุกแบรนด์ไม่อยากแข่งขันด้วยราคาอยู่แล้ว จึงเห็นการทำตลาดโทรทัศน์หน้าจอขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อรับกับความต้องการของตลาด ซึ่งผมว่าตอนนี้เล็กกว่า 55 นิ้วคือขนาดที่เล็กไปแล้ว รวมถึงถ้าไม่เกิน 75 นิ้วก็จะเป็นจอขนาดกลาง โดยเฉพาะกับโทรทัศน์พรีเมียม หรือจอราคา 30,000 บาท ขึ้นไป”
ด้านกำลังซื้อในปี 2024 ของกลุ่มสินค้าโทรทัศน์ LG มองว่ายังไปได้ดีอยู่ เช่น ในต่างจังหวัดมีการซื้อโทรทัศน์หน้าจอใหญ่ในรูปแบบผ่อนผ่านบัตรประชาชนเช่นเดิม แม้จะต้องผ่อนยาว และมีดอกเบี้ย ส่วนในตัวเมือง การซื้อหน้าจอขนาดใหญ่ยังไปได้ดีดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
อ่านเพิ่มเติม: Power Mall รุกหนักเครื่องปรับอากาศ ดันยอดขายปีนี้โต 20% สวนตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นิ่งสนิท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา