หลังจากห่างหายจากตลาดสมาร์ทโฟนไทยไป 2 ปี วันนี้ LG กลับมาเล่นในตลาดอีกครั้ง ด้วยการส่ง LG รุ่น G6 พร้อมจับมือกับ AIS จัดโปรโมชั่นหนัก ลด 4,000 บาท แล้วยังแถมทีวี LED ขนาด 43 นิ้ว ไปด้วยเลย
หายไป 2 ปี กลับมารอบนี้ LG ขอเล่นใหญ่
ในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนของค่าย LG หลังจากหายหน้าหายตาจากวงการสมาร์ทโฟนเมืองไทยไป 2 ปี รอบนี้ส่ง LG G6 (ซึ่งเป็นรุ่นที่เปิดตัวในต่างประเทศไปตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว) มาในราคา 24,990 บาท เน้นบุกตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม หรือตลาดราคา 15,000 ขึ้นไป แต่จะประสบความสำเร็จแค่ไหน คงต้องมาพิจารณากันดู
เริ่มต้นจากคำถามแรก “เหตุผลอะไรที่ทำให้กลับมา?”
นิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกแบบนี้ว่า “ที่หายไป เป็นเพราะว่าในตอนนั้น เรามีรุ่นน้อยมาก ที่ต่ำสุดราคาก็อยู่ที่ 9,000 บาท ส่วนการกลับมารอบนี้ก็เพราะว่า เรามั่นใจแล้วว่าจะมาทำตลาดได้ รอบนี้เราจะส่งออกมาเล่นในตลาดในหลายไลน์การผลิตอย่างแน่นอน”
“เราเตรียมตัวกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้วว่าจะกลับมาอีกครั้ง แต่ถ้าถามว่ามาทำตอนนี้ช้าไปไหม ก็ยอมรับว่าอาจจะช้ากว่าโลกไปบ้าง”
รอบนี้ LG จะเปิดตัวหลายรุ่น แต่ตัว G6 นี้ถือเป็นตัวประเดิมตลาดในรอบนี้ ส่วนรุ่นต่อไปจะมาในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ อีกประมาณ 3 รุ่น รวมแล้วปีนี้จะมีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ที่สำคัญบอกว่า “จะมีรุ่นที่ราคาต่ำกว่า 15,000 บาท โดยราคาจะไปอยู่ช่วง 5,000 บาท” หมายความว่าใน 2 เดือนนี้ คนไทยจะได้เห็นสมาร์ทโฟน LG รุ่นต่างๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่ต้องการอ่านรายละเอียดของสมาร์ทโฟน LG รุ่น G6 อ่านได้ที่ด้านล่างข่าวนี้
จับมือ AIS ซื้อสมาร์ทโฟนลดราคา และแถมทีวี LED 43 นิ้ว
การกลับมาครั้งนี้ของ LG เลือกจับมือกับ AIS เป็นรายแรกเพื่อส่งสมาร์ทโฟนออกมาแข่งขันในตลาด โดยโปรโมชั่นที่จะออกมาสู้กับคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาดคือ หากซื้อที่กับ AIS จะได้ส่วนลด 4,000 บาท และที่น่าตื่นตาตื่นใจคือ “ซื้อสมาร์ทโฟนแถมทีวี” แต่ต้องซื้อภายในเดือนกันยายนนี้เท่านั้น
พูดง่ายๆ คือ ถ้าซื้อ LG G6 ที่ร้าน AIS จะได้ส่วนลด 4,000 บาท จากค่าเครื่องปกติที่ 24,990 บาท จะเหลือ 20,990 บาท และได้โทรทัศน์จอ LED 43 นิ้วอีก 1 เครื่อง โปรโมชั่นที่ค่อนข้างแปลกตานี้ LG เชื่อว่าจะดึงดูดผู้บริโภคในตลาดให้หันมาสนใจแบรนด์ LG ได้
ทุ่มการตลาด 15 ล้านบาท หวังดึงแชร์ 5%
พูดถึงเรื่องการตลาด ในปีนี้ LG เปิดเผยว่า “วางงบทำการตลาดไว้ที่ 15 ล้านบาท” (ต้องไม่ลืมว่างบนี้ จะใช้ได้ในเดือนกันยายน พฤศจิกายน และธันวาคมเป็นหลักเท่านั้น เพราะตุลาคมมีงานพิธีใหญ่)
ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มีการคาดการณ์ว่า มีมูลค่าประมาณ 100,000 แสนล้านบาท โตประมาณ 4% ทุกปี และถ้าไปดูที่ส่วนแบ่งของสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมจะอยู่ที่ 33% หรือถ้าดูที่ในแง่ยอดขายอยู่ที่ 11% ทำให้ LG ค่อนข้างมั่นใจว่าอย่างน้อยๆ LG G6 ที่อยู่ในหมวดพรีเมี่ยมน่าจะสู้กับแบรนด์อื่นๆ ได้ โดยวางเป้ายอดขายของ LG รุ่น G6 ในปีนี้ไว้ที่ 10,000 เครื่อง
ที่น่าสนใจคือ LG บอกว่าการกลับมาครั้งนี้จะเข้าแย่งส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนที่ 5% ให้ได้ (แต่ไม่มีการระบุว่าจะทำให้ได้ภายในกี่ปี) ทีนี้ มันจะง่ายแบบที่ LG บอกหรือไม่ เพราะถ้าเราย้อนไปดูในอดีตก่อนที่ LG จะหายหน้าไปจากตลาด ตอนนั้น LG สามารถทำส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนไว้ได้แค่ 1% เท่านั้น การกลับมารอบนี้เลยต้องบอกว่าไม่ใช่งานง่ายของ LG เลยจริงๆ
สรุป
LG หวนคืนสู่ตลาดสมาร์ทโฟนด้วยการส่ง LG รุ่น G6 มาในราคา 24,990 แต่ทำโปรโมชั่นจับมือ AIS ซื้อโทรศัพท์ 1 เครื่องลดราคาและยังแถมทีวีอีก 1 เครื่อง ส่วนจะประสบความสำเร็จแค่ไหนต้องติดตามกัน แต่ที่แน่ๆ ในตลาดสมาร์ทโฟน เรื่อง Branding เป็นสิ่งสำคัญ อาจจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากสุดเลยก็ว่าได้ เพราะ Branding สัมพันธ์กับความเชื่อมั่นอย่างแยกขาดจากกันไม่ได้
แต่ถ้าดูจากการรับมือของ LG ในเรื่องนี้ ก็จะเห็นว่านอกจากโปรโมชั่นที่ทำการตลาดแล้ว LG ยังยืนยันว่าจะส่งรุ่นอื่นๆ ทยอยออกมาทั้งตลาดบนและตลาดล่าง เพราะฉะนั้นในด้านหนึ่งก็ตีความได้ว่าจะทำเพื่อการแข่งขัน แต่ในอีกด้านก็คือการเรียกคืนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั่นเอง
_______________________
รายละเอียดสมาร์ทโฟน LG G6 : มาด้วยหน้าจอแบบ FullVision ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 ถ่ายภาพได้แตกต่างกันถึง 4 โหมด และมีเทคโนโลยีระบบ QHD+ มาพร้อมเทคโนโลยีดอลบี้ วิชั่น และ HDR 10 พร้อมกล้องหลังคู่ขนาด 13 MP กับฟีเจอร์เด่นเลนส์กว้างถึง 125 องศา รวมถึงกล้องวิดีโอ 4K และกล้องหน้าเลนส์มุมกว้างมากถึง 100 องศา ตัวเครื่องเป็นโลหะ พร้อมกระจก Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทนต่อแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทก ตัวเครื่องสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตรนานกว่า 30 นาที และกันฝุ่นซึ่งผ่านการทดสอบตามมาตรฐานทางทหาร MIL-STD 810G โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีแอสโตร แบล็ค และสีไอซ์ แพลตินั่ม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา