ส่องแผน แอลจี อีเลคทรอนิคส์ กับการสร้างแบรนด์กับคนรุ่นใหม่ในไทยด้วยโครงการ LG Campus Ambassador

คนรุ่นใหม่อาจไม่ใช่ผู้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในตอนนี้ เพราะกลุ่ม Gen Z หรือ Gen Alpha ต่างไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจ หรือเป็นคนถือเงินไปซื้อตู้เย็น, เครื่องซักผ้า หรือเครื่องปรับอากาศ แต่มันน่าจะดีกว่าถ้าแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าปูพรมทางการตลาดเพื่อสื่อสารแบรนด์ไปถึงพวกเขาเพื่อเพิ่มการจดจำ และเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อในอนาคต

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ คือหนึ่งในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังเดินหน้าแผนการดังกล่าวทั้งระดับโลก รวมถึงไทย โดยในไทยนั้นนอกจากจะสื่อสารเรื่องนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อรับกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยี ยังทำโครงการ LG Campus Ambassador เพื่อสร้างตัวแทนคนรุ่นใหม่ให้ช่วยสื่อสารแบรนด์อีกทาง

รายละเอียดของโครงการจะเป็นอย่างไร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) ลงทุนกับโครงการนี้ไปมากขนาดไหน รวมถึงทิศทางการตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2025 จะเป็นไปหรือไม่ Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) ดังนี้

LG

ลงทุน 3.6 ล้านบาท ปั้นคนรุ่นใหม่ช่วยสื่อสารแบรนด์

อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) เล่าให้ฟังว่า บริษัทใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 3.6 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างทักษะ และแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษากว่า 300 คน จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมคัดเลือก 31 คนสุดท้ายเข้าร่วมเวิร์กช็อปพัฒนาทักษะด้านการผลิตคอนเทนต์ การเล่าเรื่อง และกลยุทธ์การตลาด ตลอดระยะเวลา 6 เดือน

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสานต่อแคมเปญระดับโลก Optimism Your Feed ที่มุ่งส่งเสริมคอนเทนต์เชิงบวกบนโซเชียลมีเดีย สะท้อนพันธกิจ Life’s Good ของบริษัท ที่มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในยุคดิจิทัล พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้พลังสร้างสรรค์ในเชิงบวก ดังนั้นโครงการนี้จะช่วยเปิดโอกาส และเสริมสร้างศักยภาพของ Gen Z ให้ก้าวไกลในโลกดิจิทัล

อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย)

กิจกรรมในโครงการประกอบด้วยเวิร์กช็อปด้านการผลิตคอนเทนต์ที่ออกแบบมาเฉพาะ โดยเน้นเสริมสร้างความรู้ด้านการเล่าเรื่อง การใช้เครื่องมือดิจิทัล และการสร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์ตลาด พร้อมมอบทุนการศึกษาและแล็ปท็อป LG Gram รวมมูลค่ากว่า 750,000 บาทแก่ผู้ชนะรางวัลใน 3 ประเภท ซึ่งพวกเขาจะเป็นที่ปรึกษา และเป็นตัวแทนในการช่วยสื่อสารแบรนด์แอลจีหลังจากนี้เช่นกัน

ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ผ่านคนรุ่นใหม่

“โครงการนี้ช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่นิยมแพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram โดยเฉพาะคอนเทนต์รูปแบบสั้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยวางแนวทางในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์อนาคต” พร้อมอ้างถึงผลการติดตามจากเครื่องมือ Brand Tracking ของแอลจีระบุว่า ภาพลักษณ์แบรนด์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่มีการปรับตัวดีขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะกลุ่มวัย 15-25 ปี

ขณะเดียวกันการสนับสนุนไมโครอินฟลูเอนเซอร์ผ่านโครงการนี้ช่วยเพิ่มศักยภาพการสื่อสารของแบรนด์ในมุมที่ใกล้ชิด และตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น โดยแผนในปี 2025 ของแอลจีจะขยายโครงการดังกล่าวให้ครอบคลุมมหาวิทยาลัย และสาขาวิชาที่หลากหลายขึ้น พร้อมผสานเทคโนโลยี AI ในกิจกรรมเวิร์กช็อป เพื่อพัฒนาทักษะและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าร่วมโครงการ

แอลจี

นอกจากนี้ แอลจียังมีแผนเพิ่มกิจกรรม CSR ทุกไตรมาส เพื่อต่อยอดความสำเร็จของโครงการในมิติที่กว้างขึ้น และขยายการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการใช้แนวทางการตลาดทั้งฝั่งหน้าร้าน, ออนไลน์ และการส่งเสริมการขายรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างการเติบโตของยอดขายควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

นวัตกรรมใหม่ผลักดันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโต

อำนาจ เสริมว่า แนวโน้มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2025 มีโอกาสเติบโตขึ้นจากแรงผลักดันของภาคการท่องเที่ยว และนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยแอลจีคาดหวังการเติบโตในระดับเลขสองหลักในตลาดไทย โดยมีสินค้าหลัก เช่น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ และเครื่องปรับอากาศ เป็นตัวขับเคลื่อน นอกจากนี้ยังส่งเสริมสินค้ากลุ่มสมัครสมาชิก หรือ Subscription ที่สิ้นปี 2024 จะได้ 1,000 บัญชี ผ่านหน้าร้าน 20 แห่ง

LG Comfort Kit
เครื่องใช้ไฟฟ้าของ LG

“เรามุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เช่น การนำ AI มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะทีวีที่ปัจจุบันมี AI แทบทุกเครื่อง ส่วนฝั่ง Subscription ในไตรมาส 2 ปี 2025 เราจะออกไปบุกต่างจังหวัด จากเดิมที่มีแค่ในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล ซึ่งจะทำให้เรามีจุดขายรวมกว่า 100 แห่ง และสินค้ากลุ่มเครื่องกรองน้ำ, เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้ายังเป็นสินค้ายอดนิยมในการ Subscription”

ขณะเดียวกัน แอลจียังเดินหน้าทำแคมเปญ เก่าแลกใหม่ ที่ร่วมกับพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ ยังช่วยสร้างยอดขายในปี 2024 ได้เป็นสัดส่วน 15% ของทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคยังมองหาโซลูชันที่คุ้มค่า และช่วยให้บริษัทรักษาส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องซักผ้า และเป็นเบอร์ 2 ในกลุ่มสินค้าโทรทัศน์ ส่วนตู้เย็นเป็นอันดับ 4 แต่หากเป็นกลุ่มสินค้าพรีเมียม เช่น โทรทัศน์ OLED และตู้เย็นไซด์บายไซด์ บริษัทถือส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในไทย

Brand Inside มองว่า โครงการ LG Campus Ambassador ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแอลจีในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกบนโลกดิจิทัล แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์และเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อผสานกับแผนต่อยอดกิจกรรม CSR และการขยายตลาดในปี 2024 แอลจีพร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติของคำมั่นสัญญา “Life’s Good.”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา