แอลจี เดินแผน AI TV เปิดตัวไลน์อัพปี 2568 ชู AI ที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุด ตั้งเป้าครองแชมป์ตลาดพรีเมียมต่อเนื่อง

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศศักดาผู้นำตลาดทีวีอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์โทรทัศน์รุ่นใหม่ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่ ชูธงนวัตกรรม AI ที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุด มุ่งปฏิวัติประสบการณ์การรับชมภายในบ้าน พร้อมตั้งเป้าเติบโตอย่างก้าวกระโดดในกลุ่มทีวีพรีเมียม ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาด OLED 12 ปีซ้อน และเสริมความแข็งแกร่งในตลาดทีวีจอใหญ่ขนาด 75 นิ้วขึ้นไป ท่ามกลางแนวโน้มการเติบโตของตลาดรวมที่ยังคงสดใส

LG

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดปี 2568 อย่างเป็นทางการ โดยมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาดและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เข้ากับความเป็นเลิศของเทคโนโลยีจอภาพที่เป็นจุดแข็งของแอลจีมาโดยตลอด ทั้ง OLED และ QNED การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ในการยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้าน แต่ยังเป็นการประกาศความพร้อมในการรุกตลาดทีวีพรีเมียมอย่างเต็มกำลัง ด้วยเป้าหมายการเติบโตที่ท้าทายถึง 20% ทั้งในกลุ่ม OLED TV และทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไป สะท้อนความเชื่อมั่นในนวัตกรรมและกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้แอลจีจะครองความเป็นผู้นำในตลาดทีวีพรีเมียมอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 62% ในกลุ่มทีวี OLED และ 24% ในกลุ่มทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไป แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง “เราเห็นสัญญาณการเติบโตที่ชัดเจนของตลาดทีวีพรีเมียม โดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 ตลาดรวม OLED TV จะเติบโต 13% และตลาดทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไปจะเติบโต 10% ด้วยนวัตกรรมที่เรานำเสนอในปีนี้ แอลจีตั้งเป้าที่จะเติบโตเหนือตลาดอย่างมีนัยสำคัญ”

สำหรับภาพรวมตลาดโทรทัศน์ในประเทศไทยปี 2567 มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 20,700 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเป็น 21,100 ล้านบาทในปี 2568 ซึ่งเป็นการเติบโตเล็กน้อย ปัจจุบัน แอลจีมีส่วนแบ่งในตลาดรวมนี้อยู่ที่ 17% และตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเป็นเลขสองหลักในปี 2568 ซึ่งหากทำได้ตามเป้า จะทำให้ส่วนแบ่งขยับขึ้นไปแตะระดับ 18% ได้ ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มทีวีพรีเมียม โดยเฉพาะ OLED และทีวีจอใหญ่ขนาด 75 นิ้วขึ้นไป

AI อัจฉริยะ: หัวใจสำคัญของประสบการณ์ยุคใหม่

หัวใจหลักของไลน์อัพทีวีแอลจีปี 2568 คือเทคโนโลยี “AI ที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุด” ซึ่งแตกต่างด้วยความสามารถในการจดจำ เรียนรู้ และใส่ใจผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ผ่าน 4 ฟีเจอร์หลักที่ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด:

  1. AI Voice ID: ระบบจดจำเสียงผู้ใช้แต่ละคน พร้อมสลับไปยังโปรไฟล์ส่วนตัวและนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจโดยอัตโนมัติ
  2. AI Concierge: ผู้ช่วยอัจฉริยะที่เรียนรู้พฤติกรรมการรับชมและแนะนำคอนเทนต์ที่ผู้ใช้อาจสนใจ เพียงกดปุ่ม AI บนรีโมท
  3. AI Chatbot: ที่ปรึกษาส่วนตัว ช่วยวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการใช้งานเบื้องต้นได้ทันที
  4. AI Search: ระบบค้นหาด้วยเสียงที่เข้าใจคำสั่งและเรียนรู้รูปแบบการค้นหาของผู้ใช้

อำนาจ กล่าวเสริมว่า “AI ของเราไม่ใช่แค่การสั่งงานด้วยเสียง แต่เป็นการเรียนรู้และปรับตัวเข้าหาผู้ใช้แต่ละคนจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น หากมีสมาชิกในบ้านหลายคน เมื่อคนหนึ่งพูดสั่งงานทีวี ทีวีจะจดจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร และปรับการแสดงผลคอนเทนต์ให้ตรงกับความชอบของคนนั้น ๆ ทันที”

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เสริมอย่าง AI Magic Remote ที่ใช้งานง่าย และระบบปรับแต่งภาพและเสียงอัจฉริยะ AI Picture/Sound Wizard ที่สามารถวิเคราะห์และปรับแต่งการแสดงผลภาพได้มากถึง 1.6 พันล้านรูปแบบ และปรับแต่งเสียงได้ถึง 84 ล้านรูปแบบ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและสมบูรณ์แบบที่สุด

นวัตกรรมจอภาพและชิปประมวลผล: สู่ความเป็นเลิศอีกระดับ

ไลน์อัพใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล α11 AI Processor 4K Gen2 ที่พัฒนาขึ้นสำหรับจอภาพ OLED โดยเฉพาะ มอบประสิทธิภาพการประมวลผลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ผสานกับเทคโนโลยี Brightness Booster Ultimate ในรุ่นท็อปที่เพิ่มความสว่างได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า ขณะที่เทคโนโลยี AI Picture Pro ช่วยวิเคราะห์และปรับแต่งภาพในระดับพิกเซล ทำให้ภาพมีมิติ คมชัด ทั้งในโทนมืดและสว่าง ส่วน AI Sound Pro ยกระดับประสบการณ์เสียงรอบทิศทางสมจริงถึง 11.1.2 แชนเนล พร้อมรีมาสเตอร์เสียงให้คมชัด

สำหรับคอเกม แอลจีได้ผลักดันขีดจำกัดไปอีกขั้นด้วย LG OLED evo G5 ที่มาพร้อมอัตรารีเฟรชสูงสุดถึง 165Hz เป็นครั้งแรกของโลกสำหรับทีวี 4K รองรับทั้ง NVIDIA G-SYNC และ AMD FreeSync Premium มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลไร้ที่ติ

webOS 25 และการอัปเดตที่ยาวนาน

ระบบปฏิบัติการ webOS 25 ที่เป็นเอกลักษณ์ของแอลจี ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Quick Cards ที่จัดเรียงคอนเทนต์และแอปพลิเคชันตามการใช้งาน พร้อมด้วยโปรแกรม webOS Re:New ที่รับประกันการอัปเดตระบบปฏิบัติการต่อเนื่องถึง 5 ปี ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าทีวีแอลจีจะทันสมัยและรองรับบริการใหม่ ๆ ในอนาคต

เทรนด์ผู้บริโภคและการปรับกลยุทธ์ของแอลจี

อำนาจ อธิบายถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปว่า “ปัจจุบัน การซื้อทีวีไม่ใช่เพียงเพื่อทดแทนเครื่องเก่าที่เสีย แต่เป็นการอัปเกรดเพื่อรับประสบการณ์ที่ดีขึ้น จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ทำให้วงจรการเปลี่ยนทีวีสั้นลง จากเดิมอาจจะ 7 ปี เหลือประมาณ 4-5 ปี นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังนิยมทีวีจอใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิม 55 นิ้ว เป็น 65 นิ้ว และปัจจุบันคือ 75 นิ้ว กลายเป็นขนาดมาตรฐานใหม่สำหรับหลาย ๆ บ้าน”

คอนเทนต์คุณภาพสูงที่มีให้เลือกรับชมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือการแข่งขันกีฬา ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคต้องการทีวีที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น “เมื่อมีคอนเทนต์ดี ๆ ออกมามากมาย ผู้คนก็อยากจะรับชมบนจอทีวีที่ให้ภาพและเสียงที่ดีที่สุด ซึ่งทีวี AI ของเราตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี” อำนาจ กล่าว

เพื่อรองรับการเปิดตัวและกระตุ้นตลาด แอลจีได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดสำหรับปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะเน้นการปรับปรุงหน้าร้านให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการจัดแสดงทีวี OLED เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์จริงและตัดสินใจเลือกซื้อทีวีจอใหญ่ได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันแอลจีมีจุดจำหน่ายกว่า 135 สาขาทั่วประเทศ พร้อมการรับประกันสินค้าที่ครอบคลุม โดย OLED TV รับประกัน 3 ปี และ LED TV รับประกัน 2 ปี หรือ 1 ปีสำหรับรุ่นเริ่มต้น

ในด้านการแข่งขัน อำนาจ ยอมรับว่าตลาดกลุ่มล่างมีการแข่งขันด้านราคาสูง โดยเฉพาะจากแบรนด์จีน อย่างไรก็ตาม แอลจีเลือกที่จะไม่ลงไปแข่งขันในสงครามราคา “ราคาขายเฉลี่ยของทีวีแอลจีอยู่ที่ประมาณ 17,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ 5 อันดับแรกของแบรนด์ในตลาด เรามุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าพรีเมียมที่มีนวัตกรรมและคุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ และยังคงยึดมั่นในหลักการนี้”

สัดส่วนยอดขายออนไลน์ของแอลจีคิดเป็นประมาณ 20-25% ของยอดขายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ช่องทางหน้าร้านยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับการขายทีวีรุ่นใหญ่ที่ลูกค้าต้องการเห็นสินค้าจริงและรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

ไลน์อัพทีวีแอลจีปี 2568 ครอบคลุมหลากหลายรุ่นและขนาด เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ:

  • LG SIGNATURE OLED M5 (ไร้สาย) ขนาด 97 นิ้ว ราคา 999,990 บาท และ LG OLED evo AI M5 ขนาด 77 นิ้ว ราคา 229,990 บาท
  • LG OLED evo AI G5, C5 และ LG OLED AI B5 ขนาดตั้งแต่ 42 ถึง 97 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 33,990 – 899,990 บาท
  • LG QNED evo AI QNED86A ขนาด 100 นิ้ว ราคา 139,990 บาท
  • LG QNED evo AI QNED92A, QNED86A และ LG QNED AI QNED82A, QNED80A ขนาดตั้งแต่ 55 ถึง 86 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 22,990 – 119,990 บาท

ซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในฐานะผู้นำนวัตกรรม OLED ระดับโลก 12 ปีซ้อน เรากำลังนำพาวงการทีวีก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ ด้วย LG AI TV ที่เปลี่ยนนิยามของทีวีอัจฉริยะไปอย่างสิ้นเชิง เรามั่นใจว่า LG AI TV คือทีวีอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุดในตลาดปัจจุบัน และนี่คือมิติใหม่ของประสบการณ์ความบันเทิงในบ้านที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อน”

การเปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ของแอลจีในปี 2568 นี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามอง ไม่เพียงแต่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งผู้นำในตลาดพรีเมียม แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางของนวัตกรรมทีวีในอนาคต ที่ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา