World Economic Forum (WEF) เผยแพร่บทความที่สะท้อนให้เห็นว่ามณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang) เมืองหลวงของหางโจว (Hangzhou) รับมือ COVID-19 ยังไง ทำไมจึงฟื้นตัวเร็ว ซึ่งมณฑลเจ้อเจียงนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองอู่ฮั่น (Wuhan) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของไวรัสระบาด ห่างกันราว 1,000 ไมล์หรือประมาณ 1,609 กิโลเมตร

3 ปัจจัยหลักที่ทำให้เมืองฟื้นตัวเร็วคือ ใช้เทคโนโลยีเป็น วางแผนอย่างใส่ใจ และมีความสามารถในการสื่อสารกับประชาชนได้อย่างชัดเจน
การใช้เทคโนโลยี – การวางแผน – การสื่อสาร
หนึ่ง ความรวดเร็วและความแม่นยำ
เพียง 1 สัปดาห์หลังรู้ว่ามีไวรัสไม่ทราบชนิดกำลังเริ่มระบาด จีนรายงานข่าวสารเกี่ยวกับพันธุกรรมให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ทันที หากเทียบกับสมัยโรคซาร์สระบาด (SARS) ใช้เวลาถึง 2 เดือนกว่าจะระบุได้ ขณะที่ HIV ที่พบในทศวรรษ 1980 ใช้เวลาเป็นปีๆ ในการวินิจฉัยโรค (ปี 1981 เอดส์ระบาดในอเมริกา กว่าจะตั้งชื่อเป็นไวรัส HIV ได้ก็ผ่านไปปี 1986 เมื่อเวลาล่วงสู่ปี 1989 คนเสียชีวิตจากเอดส์มากถึง 27,408 ราย)
ยิ่งแยกพันธุกรรมไวรัสได้เร็ว ยิ่งพัฒนาวัคซีนเพื่อมารักษาได้ไวขึ้น มันทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกสามารถพัฒนาชุดตรวจไวรัสได้เร็วขึ้นตามด้วย ช่วงแรกๆ ที่ไวรัสระบาดยังไม่มีชุดตรวจไวรัส จากนั้น จีนก็ร่วมมือกับบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพพัฒนาชุดตรวจไวรัสได้ ผลิตชุดแรกได้ในวันที่ 13 มกราคม
สอง ตัดสินใจถูกต้อง ถูกที่ ถูกเวลา ถูกคน
ประสบการณ์จากโรคระบาดในจีน สอนให้ได้เรียนรู้ว่า การฟังนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขนั้นสำคัญ และการปฏิบัติเพื่อรับมือที่เรียกว่าเกินกว่าเหตุ หรือ overacting นั้น ดีกว่าไม่เตรียมการรับมือเลย
ในช่วงแรก การจัดการกับความเสี่ยงของจีนยังไม่เป็นระบบนัก แต่รัฐบาลจีนและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขร่วมมือกัน จึงทำให้ทุกอย่างดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงที่คนติดเชื้อในจีนพุ่งเกิน 40,000 ราย เราได้เรียนรู้ว่า 80% ไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษา ขณะที่ 20% ต้องดูแลอย่างเข้มข้น
มณฑลเจ้อเจียงถือเป็นแห่งแรกที่มีการจัดการรับมือกับโรคระบาดในระดับสูงสุด ตั้งแต่ระยะแรกๆ ที่มีโรคระบาด ตั้งแต่ยังไม่พบคนติดเชื้อด้วยซ้ำ

on February 12, 2020 in Wuhan, Hubei province, China. Flights, trains and public transport including buses, subway and ferry services have been closed for 21 days. The number of those who have died from the Wuhan coronavirus, known as 2019-nCoV, in China climbed to 1117. (Photo by Stringer/Getty Images)
บทเรียนจากการทำงานของหางโจว (Hangzhou) ในการควบคุมโควิด-19 ระบาด ดังนี้
- เตรียมพร้อมข้อมูลในการปิดเมืองให้มีความชัดเจน บอกให้ประชาชนรับรู้ทั่วกันว่าปิดเมืองในระดับไหน
- มีระบบการจัดการที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน องค์กร อพาร์เมนท์ บ้านเรือน ชุมชน
- จัดหาอาหารและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก
- มีระบบจัดการดูแลผู้ติดเชื้อให้สามารถอยู่ลำพังได้
- สร้างระบบติดตามอิเล็กทรอนิกส์และทีมดูแลในท้องถิ่นเพื่อออกปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด
- มีการรายงานผลที่เป็นส่วนกลางและสามารถสื่อสารให้พลเมืองรับรู้ข้อมูลได้

สาม Big data และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดแพร่กระจายซ้ำ
ความน่าสนใจของประเด็นนี้ก็คือ หางโจวเป็นเมืองที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา เป็นเมืองแรกที่นำ Big data และเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโควิด-19 พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า “one map, one QR code, and one index
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายสำหรับธุรกิจที่กำลังกลับมาดำเนินกิจการใหม่ หลังต้องปิดกิจการไปชั่วคราวเพื่อระงับการแพร่ระบาดของไวรัส ดังนี้ ธุรกิจที่จะกลับมาดำเนินการใหม่แบ่งเป็นหลายเฟส หรือหลายระยะ ขึ้นอยู่กับความสำคัญของกิจการนั้นๆ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกด้านดูแลสุขภาพ จะอนุญาตให้เปิดก่อนเป็นอันดับแรก
We're providing @Alipay users all the daily & medical services they need to ride out the #COVID2019 epidemic, in 1 single app. Thru mini programs, users can receive real-time epidemic information & stats, online medical consultation & counselling, and access to food and more. /1 pic.twitter.com/ql0Dp0xc8I
— Alipay (@Alipay) February 20, 2020
Health QR code จะถึงสร้างขึ้นสำหรับทุกคนในเมืองและทุกคนที่เดินทางเข้าเมือง ถ้าเป็นโค้ดสีเขียวหมายความว่าเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี ถ้าเป็นโค้ดสีเหลืองจะถูกขอให้กักกันตัวเองเป็นเวลา 7 วัน แต่ถ้าเป็นโค้ดสีแดง จะถูกขอให้กักกันตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งโค้ดสีเหลืองและสีแดงนี้สามารถเปลี่ยนเป็นสีเขียวได้เมื่อกักตัวครบตามกำหนดระยะเวลาแล้ว ระบบตรวจตราสุขภาพนี้ถูกใช้กันมากในหลายเมืองในมณฑลเจ้อเจียงและถูกนำไปปรับใช้ต่อในมณฑลอื่นด้วย
ทุกคนจะต้องถูกมอนิเตอร์และมีการบันทึกอุณหภูมิในร่างกายเพื่ออัพเดตเป็นประวัติของตัวเองเป็นประจำทุกวัน เพื่อที่จะสามารถรักษาสุขภาพตัวเองให้คงสถานะสุขภาพดีได้อย่างต่อเนื่อง ฐานข้อมูลด้านสุขภาพนี้จะได้รับการจับตาดูอย่างใกล้ชิดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งมณฑลเจ้อเจียง
#Shanghai will allow foreign citizens and those from #HongKong, Macau and Taiwan to apply for a health QR code to help track the current epidemic situation.#coronavirus https://t.co/Pp7QjOGVaC
— SHINE (@shanghaidaily) March 1, 2020
สี่ ประเมินทรัพยากรทางการแพทย์และระบบรับมือทางสาธารณสุข เรามีความพร้อมในการรับมือกับโรคระบาดไหม เราจำเป็นต้องมีเครื่องมืออยู่ในมือเท่าไร เรามีการดูแลด้านสุขภาพส่วนบุคคลเพียงพอไหม และเราปกป้องพวกเขาอย่างไร
ในจีนมีการรวมตัวอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากในการต่อสู้กับโควิด-19 แต่อัตราการตายที่พุ่งสูงในอู่ฮั่น เพราะขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีไม่เพียงพอ และระบบจัดการภัยพิบัติชนิดที่สามารถรับมือกับเหตุฉุกเฉินอย่างโรคระบาดนี้ มีการรับมือที่ค่อนข้างแย่ จึงทำให้คนติดเชื้อแพร่ระบาดไปทั่ว คนเสียชีวิตมีจำนวนมาก ถ้าเทียบกับมณฑลเจ้อเจียงแล้วถือว่ามีการรับมือที่ดีกว่า มีการตรวจสอบโรคที่ดีกว่า เครื่องมือมากกว่า เตรียมพร้อมสูงกว่า
ภายใน 6-8 สัปดาห์ หรือประมาณ 2 เดือนที่โควิด-19 กำลังระบาด ทีมแพทย์ราว 31 ทีม ซึ่งมีแพทย์มากกว่า 42,000 รายลงพื้นที่อู่ฮั่นเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด (ขณะที่มณฑลเจ้อเจียง ส่งบุคลากรทางการแพทย์ไป 1,985 ราย ปัจจุบันที่เจ้อเจียงไม่มีคนติดเชื้อเพิ่มเลย) โรงพยาบาลถูกสร้างใหม่ 2 แห่ง มีเตียงกว่า 1,000 เตียง ถูกสร้างเสร็จยังไม่ถึง 10 วันด้วยซ้ำ

ห้า มาตรการในการป้องกันการติดเชื้อในชุมชนเป็นยังไง ทั้งในโรงเรียน องค์กรทางธุรกิจ องค์กรรัฐ และบ้าน
ทุกคนมีสิทธิติดเชื้อได้อย่างเท่าเทียมกัน ทุกคนสามารถป่วยได้ ติดเชื้อได้พอๆ กัน การวางแผนต้องมีความใส่ใจประชาชน ต้องมีความชัดเจน ไม่สร้างความสับสน จีนสูญเงินไปกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อทำให้ทุกอย่างในประเทศหยุดชะงัก เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของไวรัสระบาดไปทั่ว
(นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไม Bill Gates จึงแนะนำให้การปิดประเทศ ทำได้เฉพาะประเทศที่ร่ำรวย เพราะมันต้องใช้เงินมหาศาลในการอุ้มธุรกิจเหล่านี้ ไม่ใช่ประกาศปิดเมือง ปิดประเทศ แต่ไม่มีแผนการรองรับใดๆ ปล่อยให้เป็นภาระของผู้ประกอบการ)
หก การสื่อสารสาธารณะเป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นมาก
จีนใช้การสื่อสารกับสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง และชัดเจน ในหางโจวมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นต้องรู้ รวมถึงวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสทุกวัน มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงที่ดูแลด้านสาธารณสุขเข้าไปเกี่ยวพันกับรัฐบาลตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ใช้ทั้งทีวีใช้ทั้งบทความออนไลน์เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลและเข้าใจตรงกัน
แพลตฟอร์มสำหรับสื่อสารกับแพทย์แบบออนไลน์นี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ Alibaba จัดให้คนได้ดาวน์โหลดอ่านกันเพื่อรับมือกับโควิด-19 ระบาด

ที่มา – World Economic Forum, Smithsonian Magazine, The New York Times, Xinhua, Alipay
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา