สิงคโปร์ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในภูมิภาคนี้ มีแผนส่งเสริมการลงทุนที่ก้าวหน้าก้าวประเทศโดยรอบ ผลดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการบริหารงานของ ลี เซียนลุง (Lee Hsien Loong) นายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของสิงคโปร์ ที่ชนะการเลือกตั้งและทำงานในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2547
ล่าสุด นายลี ที่มีอายุ 65 ปี ได้ประกาศว่า เขาพร้อมที่จะลงจากตำแหน่งผู้นำการบริหารประเทศ และผู้ที่จะมาทำหน้าที่ต่อจากเขา “น่าจะ” อยู่ในคณะรัฐมนตรีตอนนี้แล้ว โดยเขาเน้นหลายครั้งว่า คนที่จะมาทำหน้าที่แทน จะต้องพร้อม หลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
“ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ผมพร้อมที่จะลงจากตำแหน่ง ตอนนี้สิ่งเดียวที่ต้องทำคือ ทำให้มั่นใจว่า คนที่จะมาแทน พร้อมแล้วหรือไม่”
อนาคตของสิงคโปร์ยังไปในทางที่ดี
นายลี บอกว่า GDP ของสิงคโปร์ถึงไตรมาส 3 เติบโตขึ้น 4.6% ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ดีมากนับตั้งแต่ปี 2014 และจากไตรมาส 2 ที่เติบโตขึ้น 2.9% จากเดิมมีการคาดการณ์ว่า GDP ของสิงคโปร์จะเติบโตอยู่ระหว่าง 2-3% ต่อปี ซึ่งถือเป็นการเติบโตตามปกติของประเทศพัฒนาแล้ว
สิงคโปร์ตั้งเป้าว่าจะรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 2-3% ไปอีก 10-15 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการเติบโตแบบยั่งยืน สร้างมาตรฐานคุณภาพชีวิตให้กับชาวสิงคโปร์ และทำให้สิงคโปร์ รักษาตำแหน่งประเทศผู้นำในภูมิภาคนี้
เร่งพัฒนาทักษะธุรกิจ-แรงงานสิงคโปร์
สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาสิงคโปร์ คือ การพัฒนาทักษะที่จำเป็นให้กับชาวสิงคโปร์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนประเทศไปสู่การใช้นวัตกรรมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วต้องเผชิญ เช่น การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว การ disrupt ของเทคโนโลยี
นายลี บอกว่า เราต้องทำให้ประชาชนพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งเยาวชนที่เรียนอยู่ วัยทำงาน และกลุ่มวัยกลางคน ต้องพร้อมรับทั้งหมด
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ การทำให้อุตสาหกรรมและภาคต่างๆ ของระบบเศรษฐกิจมีความรวดเร็วและสามารถรับมือการเปลี่ยนแปลง โดยได้ดำเนินการผ่านโครงการการแปรรูปอุตสาหกรรม มูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ มีแผนงานสำหรับ 23 อุตสาหกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยให้ บริษัทต่างๆ สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและการผลิตได้
สรุป
เพิ่งผ่าน Lee Kuan Yew Days หรือ วันรำลึกถึงลี กวนยู (พ่อของ ลี เซียนลุง และนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ที่อยู่ในตำแหน่ง 30 ปี) นายลี บอกว่า คนสิงคโปร์ต้องก้าวต่อไปข้างหน้า ถ้ายังอยู่กับสิ่งที่ ลี กวนยูสร้างหรือวางแผนไว้ ก็เท่ากับอยู่กับที่และทำให้เขาผิดหวัง ดังนั้นสิ่งที่คนสิงคโปร์จะทำคือ ไม่ต้องมองกลับไปข้างหลัง จดจำสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจว่ามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และมุ่งหน้าต่อไป
source: channelnewsasia.com
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา