ในการแข่งขันก็ต้องมีที่ 1 และที่ 2 แต่ถ้าคุณถูกมองว่าเป็นรองคนอื่นมาตลอด คุณจะยอมแพ้ไหม?
จากข้อมูลในงาน MITCON 2024 ‘Shopee’ คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ขวัญใจชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมูลค่ารวมในตลาดกว่า 1 ล้านล้านบาท
ด้าน ‘Lazada’ เองก็ติดอันดับเหมือนกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 มากกว่า แต่ไม่ครองแชมป์ในประเทศไหนของ SEA เลย
แต่อย่างที่เรารู้กันว่าถ้า ‘ไม่แข่งก็ยิ่งแพ้’ ล่าสุด Alibaba บริษัทแม่ของ Lazada ประกาศแนวทางใหม่ เอาไว้งัดข้อกับคู่แข่ง บอกเลยว่า จะนำสินค้าแบรนด์หรูมาขายบนแพลตฟอร์มให้มากขึ้น โดยหวังจะไปเพิ่มยอดตลาดให้ทะลุ 3 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030
ไม่นานมานี้ ทีมผู้บริหารของ Lazada ได้เดินทางไปพบปะกับผู้ก่อตั้งและผู้จัดการของแบรนด์อิตาเลียนนับร้อยเจ้า เช่น Armani, Dolce & Gabbaba และ Ferragamo เพื่อหารือกันในเรื่องของการตีตลาดอาเซียน
เอาจริง Lazada มีหลายแผน แต่แผนดึงแบรนด์หรูมาสู้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สู้กับคู่แข่งเท่านั้น
ผู้บริหาร Alibaba ยานแม่ของ Lazada บอกว่า “Lazada พร้อมแล้วที่จะสู้ในตลาดอีคอมเมิร์ซยุคใหม่ โดยสิ่งที่ทางบริษัทโฟกัส คือผลประกอบการ การค้าขาย และผลประโยชน์ระยะยาว”
ตลาดหรูจะนำไปสู่ความสำเร็จ… จริงหรือ?
ปัจจุบัน Alibaba กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจออกไปในโซนเอเชีย และตลาดอีคอมเมิร์ซในอาเซียนก็ล่อตาล่อใจหลายๆ บริษัทมาก เนื่องจากถูกคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2025 มูลค่าตลาดจะพุ่งเกิน 6 ล้านล้านบาท
Alibaba มองว่าความต้องการในตลาดแบรนด์หรูจะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และอินเดียถือเป็นแหล่งรวมลูกค้าผลิตภัณฑ์ลักชูรีที่โตไวสุดด้วย
นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lazada คือบริษัทสามารถควบคุมราคาและการตลาดแบรนด์ดังได้ โดยมี ‘Tmall Luxury Pavilion’ แพลตฟอร์มสินค้าลักชูรีของ Alibaba เป็นแนวทาง ซึ่งเชื่อว่าไม่มีคู่แข่งคนไหนทำตามได้
จับตามองตัวละคร (ไม่) ลับอย่าง TikTok ให้ดี
หากคุณคิดว่าในตลาดอีคอมเมิร์ซมีผู้เล่นรายใหญ่แค่สองเจ้าคือ Lazada และ Shopee ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะจริงๆ แล้วยังมีคู่แข่งอีกมากมาย รวมถึง ‘TikTok’ แพลตฟอร์มวิดีโอชื่อดัง ที่กลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งชั้นนำของใครหลายๆ คนไปแล้ว
ในปี 2023 ยอดขายสินค้ารวมของ TikTok Shop อยู่ที่ราวๆ 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2022 เกือบ 4 เท่า และนับเป็นอัตราการเติบโตที่ไวที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ารวมสัดส่วนการครองตลาดกับ ‘Tokopedia’ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังในอินโดนีเซีย ซึ่งทาง TikTok ก็ถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว TikTok Shop จะแซงหน้า Lazada กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับ 2 ของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเลย
ฟีเจอร์การไลฟ์สดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ TikTok Shop เติบโตอย่างทุกวันนี้ เพราะร้านค้าและอินฟลูเซอร์ต่างพากันมาโชว์สินค้าหลากหลายชนิด ในขณะที่ลูกค้าก็สามารถซื้อของแบบเรียลไทม์ได้
ด้าน Shopee เมื่อเห็นคู่แข่งอย่าง TikTok ได้ดิบได้ดีจากการไลฟ์ แถมยังตีตื้นขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ทางบริษัทก็ไม่ยอมน้อยหน้า ทุ่มเงินลงทุนไปกับการไลฟ์สตรีมมิงและการขนส่ง เพื่อหวังจะป้องกันไม่ให้ TikTok Shop แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไป
ในเมื่อคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Shopee เริ่มหากลยุทธ์มาสู้กับ TikTok แล้ว คงต้องมาดูกันต่อว่าฝ่าย Lazada จะมีทีเด็ดอะไรมาต่อกรไหม หรือเทคนิคการตีตลาดด้วยแบรนด์หรูนี้จะเพียงพอแล้ว?
ที่มา: Bloomberg / Nikkei Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา