ยุคนี้ต้องฉีกถึงจะรอด? ‘ลาซาด้า’ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่อยู่ในไทยมานานกว่า 13 ปีตัดสินใจ “ฉีก” จากตลาดอีคอมเมิร์ซมาเก็ตเพลส ไม่เน้นชูขายของถูก แต่หันมาชู ‘ความพรีเมี่ยม-มีแบรนด์’ แทน เพราะบอกว่าลูกค้าไทยตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว
‘วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย อธิบายว่า เมื่อก่อนลูกค้าไทยอาจจะให้ความสำคัญกับราคา แต่ตอนนี้หันมาให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากขึ้น ความหมายคือจะต้องได้ของดีของแท้ เวลาเลือกซื้อสินค้าก็จะเน้นความน่าเชื่อถือเป็นหลัก และมักรอบคอบมากขึ้นเวลาจะซื้อของออนไลน์
ว่าง่ายๆ คือความหมายของ ‘ความคุ้มค่า’ เปลี่ยนไป ลูกค้าไม่ได้มองหาแค่ ‘ของถูก’ แต่เป็นความคุ้มค่าในรูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิม สาเหตุเพราะลูกค้าต้องการมี peace of mind หรือซื้อของได้แบบใจสงบ ไม่ต้องมาคอยกังวลกับสินค้าที่อาจจะไม่ตรงปกหรือมีปัญหาอื่นๆ
ทำให้ปีนี้ยอดคำสั่งซื้อบน LazMall เพิ่มขึ้นกว่า 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน แล้วยอดขายก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 1,000 บาทต่อตะกร้า เพราะลูกค้าหันมาเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างยาวนานและมั่นใจว่าเป็นแบรนด์แท้ 100%
จึงเป็นเหตุให้แผนใหม่ของ ‘ลาซาด้า’ ที่ชื่อ Next Level Forward หันมามุ่งเน้นความเป็น ‘แพลตฟอร์มพรีเมียมและศูนย์รวมแบรนด์ชั้นนำ’ มากขึ้น โดยอธิบายว่าจะเน้น 3 องค์ประกอบหลัก อย่างสินค้าคุณภาพครบทุกหมวดหมู่ ประสบการณ์คุณภาพ และแคมเปญคุณภาพ
แน่นอนว่าไม้เด็ดของลาซาด้าย่อมเป็น LazMall ศูนย์รวมสินค้าแท้ 100% ที่ตอนนี้มีแบรนด์สินค้าชั้นนำมากกว่า 32,000 แบรนด์ ที่อนาคตจะมี Exclusive Brand เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการทำแคตอกอรี่ที่มีอยู่แล้วอย่าง LazBEAUTY, LazLOOK และ Lazada ELECTRONICS ให้แข็งแกร่งขึ้นอีก
รวมถึงการขยายโมเดล B2B สำหรับภาคธุรกิจ รวมสินค้ากว่า 15,000 รายการจาก 3 หมวดหมู่อย่างท่อน้ำและอุปกรณ์ สินค้าเกษตรกรรม และอุปกรณ์ไฟฟ้า
ด้านประสบการณ์ ลาซาด้าจะเน้น ‘การันตี 4 อย่าง’ อย่างรับประกันของแท้ 100% รับประกันจัดส่งตรงเวลา รับประกันการคืนสินค้า และรับประกันสต็อกพร้อม รวมถึงบริการจัดส่งภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหลัก
นอกจากนั้น ยังเติมความแข็งแกร่งด้วยบริการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์ เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น หรือทีวี บริการเครื่องเก่าแลกเครื่องใหม่ในราคาลดพิเศษ และการนำ AI มาใช้ยกระดับประสบการณ์ ทั้งผู้ช่วยอย่าง Lazzie, Try-On Models ฯลฯ
“แต่ก่อนลูกค้าอาจจะให้ความสำคัญกับการส่งฟรี แต่เมื่อการซื้อของออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันแล้ว ลูกค้าก็ต้องการบริการที่ตรงกับการซื้อสินค้าประจำวันมากขึ้น เลยหันมาให้ความสำคัญกับการขนส่งโลจิสติกส์มากขึ้นด้วย”
อีกฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวคือ Lazada Membership ให้ลูกค้าสามารถสะสมคะแนน รับบริการพิเศษ และแลกรับสิทธิพิเศษอื่นๆ ได้ด้วย
ฝั่งแคมเปญนั้นลาซาด้าบอกว่า ปัจจุบันลาซาด้ามี 13 แคมเปญใหญ่ตลอดปี โดยยอดขายในช่วงแคมเปญคิดเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งสินค้าที่มีราคาสูงจะเป็นสินค้าที่ขายดีมากๆ ในช่วงแคมเปญ ขณะที่ของใช้ในชีวิตประจำวันจะขายดีไม่ว่าจะวันไหนก็มีความต้องการอยู่เสมอ
พอสอบถามว่า การตัดสินใจเลือกชูตลาดพรีเมียมและแบรนด์ชั้นนำที่เป็นกลยุทธล่าสุดของลาซาด้า มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วและรุนแรงของคู่แข่งอย่าง Shopee และ TikTok Shop ในตลาดสินค้าราคาถูกเน้นคุ้มค่าหรือไม่
‘วาริสฐา’ ตอบว่า ตอนนี้ผู้เล่นในตลาดอีคอมเมิร์ซต่างอยู่คนละสเตจ แต่ละเจ้ามีจุดอ่อนและจุดแข็งแตกต่างกัน ทำให้มีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจแตกต่างกันด้วย แต่ลาซาด้าก็ยังคงเป็นผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซอยู่
พร้อมยืนยันว่า ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ยังไงลาซาด้าก็ต้องมีสินค้าทุกระดับราคา แต่จุดแข็งของลาซาด้า คือ ‘สินค้าพรีเมี่ยม’ ที่ทำยาก แต่ลาซาด้าสามารถทำได้ เพราะสร้างความเชื่อมั่นในตลาดนี้มานาน จึงกลายเป็นมีฐานแน่นกว่าเจ้าอื่น
- Lazada ขิง! มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายใน ‘ทุกประเทศ’ แล้วกลางปีที่ผ่านมา
- สินค้าต่างชาติทะลักแสนล้าน ไปรษณีย์ไทยบอก 70% บนอีคอมเมิร์ซ ไม่ใช่สินค้าไทย
- ประเทศอาเซียนใช้ ‘อีคอมเมิร์ซ’ เจ้าไหน Shopee ครองตำแหน่งผู้นำทุกตลาด
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา