LaundryBar แบรนด์ร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมงสัญชาติมาเลเซีย บุกทำตลาดประเทศไทย ประเดิม 10 สาขา มีราคาเริ่มต้น 40 บาท พ่วงน้ำยาซักผ้าฟรี พร้อมเปิดแฟรนไชส์สำหรับนักลงทุน
LaundryBar คือใคร มาจากไหน?
ธุรกิจซักอบรีดเป็นอีกหนึ่งธุรกิจยอดนิยมในยุคนี้ เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการอยู่อาศัยของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ต้องการความสะดวกสบาย หรือมีการอยู่แบบครอบครัวเดี่ยว หรืออยู่คอนโด ทำให้แม่บ้านยุคนี้ไม่สะดวกที่จะทำงานบ้านเอง จึงมีการใช้บริการซักอบรีดกันมากขึ้น ซึ่งร้านเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นเล็กๆ ที่เปิดในชุมชน หรือเปิดในคอนโดเสียมากกว่า
ตอนนี้ LaundryBar (ลอนดรี้บาร์) เป็นแบรนด์ร้านสะดวกซักครบวงจรแบบบริการตนเอง 24 ชั่วโมงสัญชาติมาเลเซียได้เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยแล้ว น่าจะทำให้ตลาดซักอบรีดมีสีสันขึ้น ภายใต้การบริหารและการดำเนินงานโดย บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุ่นระหว่างลอนดรี้บาร์ มาเลเซีย และกลุ่มนักธุรกิจชาวไทย
LaundryBar มีต้นกำเนิดในประเทศมาเลเซียตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันได้ขยายตลาดไปแล้วกว่า 520 สาขาในมาเลเซีย บรูไน ตุรกี ประเทศไทย และในอนาคตมีแผนขยายไปยังประเทศกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ภายใต้สิทธิ์ของบริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด ด้วยเช่นกัน
ลักษณะธุรกิจของ LaundryBar เป็นการให้บริการ ร้านซัก-อบผ้าแบบบริการตนเอง (Self-Service Laundry) โดยมีนวัตกรรมเครื่องจ่ายน้ำยาอัตโนมัติเพื่อส่งผ่านน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำยาฆ่าเชื้อลงเครื่อง เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งาน และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับร้านแฟรนไชส์อีกด้วย
ทำเลที่ตั้งส่วนใหญ่ของ LaundryBar จะเลือกอยู่ในบริเวณชุมชน แหล่งผู้อาศัย และเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ภายในร้านมีเครื่องแลกเหรียญโทเคนแบบรับธนบัตร และเครื่องรับชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น และระบบ E-Payment ไว้ให้บริการ พร้อมกับมีพื้นที่ส่วนกลางให้ทำงาน พูดคุยระหว่างรอผ้า รวมทั้งมี Wi-Fi ให้บริการฟรี 24 ชั่วโมงด้วย
LaundryBar บุกไทย ราคาเริ่มต้น 40 บาท
อัตราค่าใช้บริการซักผ้าเริ่มต้นที่ 40 บาท ต่อการซักพร้อมน้ำยาฟรี และค่าบริการอบผ้าเริ่มต้นที่ 40 บาท โดยภายในร้านจะมีพื้นที่ส่วนกลางให้นั่งทำงาน (Co-Working Space) และนั่งพักคอยระหว่างรอผ้า รวมทั้งมีบริการฟรีWi-Fi 24 ชั่วโมง
พิมลวรรณ ชีวเกรียงไกร ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด เล่าว่า
“เราเห็นช่องว่างในตลาดชัดเจนจึงตัดสินใจลงทุนเพื่อนำแบรนด์ LaundryBar เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยเนื่องจากเป็นแบรนด์ร้านสะดวกซักอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นแบรนด์ร้านสะดวกซักที่มีมาตรฐาน โดยจุดเด่นคือ การใช้เครื่องซักผ้า-อบผ้าเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมแบบสแตนเลสฝาหน้าจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้วยมาตรฐาน ISO- 9001 ใช้งานง่ายและทนทาน เครื่องมีอายุการใช้งานเฉลี่ยนานถึง 18 ปี”
สำหรับในประเทศไทย LaundryBar ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ปัจจุบันมีทั้งหมดกว่า 10 สาขา ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก พิษณุโลก สุรินทร์ อุบลราชธานีชลบุรี โดยสาขาซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ซ. 40 ตรงข้ามซีคอนสแควร์ กรุงเทพฯ เป็นสาขาแฟล็กชิพ ขนาดใหญ่
โดยคาดว่าภายในปี 2562 จะเปิดครบ 30 สาขา ในกรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต พัทยา อยุธยา นครราชสีมา เป็นต้น และมีแผนผุด 300 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 3 ปี
ใช้บริการซักผ้า พ่วงน้ำยาฟรี!
อีกหนึ่งจุดแข็งของ LaundryBar ที่สำคัญที่สุดก็คือ เป็นแบรนด์แรกในธุรกิจร้านสะดวกซักที่ให้บริการน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำยาฆ่าเชื้อแบบฟรีๆ เป็นการให้บริการผ่านเครื่องจ่ายน้ำยาอัตโนมัติลงในถังซัก มีการคำนวณการจ่ายน้ำยาในการซักผ้าต่อครั้งในปริมาณเหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย
ทั้งนี้เพราะ LaundryBar มีโรงงานผลิตน้ำยาของตัวเอง เพื่อผลิตน้ำยาสูตรเฉพาะ ทำให้มีต้นทุนที่ถูก พร้อมมีระบบการทำความสะอาดถังซักทุกรอบซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99% เรียกว่าลูกค้าสามารถมาแต่ตัวพร้อมกับเสื้อผ้า ไม่ต้องขนน้ำยาซักผ้ามาให้เปลืองแรง เพราะที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนต้องมีปัญหาเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าไม่ตรงกับเครื่องซักผ้าแน่นอน
“จากประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องซักผ้า มีการสำรวจตลาดร้านสะดวกซักทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 4 ปี ทำให้เข้าใจปัญหาทั้งของลูกค้า และปัญหาของผู้ลงทุนเปิดร้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องตัวเครื่องซักผ้า เรื่องการใช้ปริมาณน้ำยาผิดสัดส่วน เรื่องความสะอาดของเครื่องรวมถึงเรื่องระบบบริหารจัดการต่างๆ ภายในร้านเรา จึงมั่นใจว่า LaundryBar เป็นเจ้าแรกในตลาดที่สามารถตอบโจทย์ Pain Point ของลูกค้า และนักลงทุนได้”
พร้อมขยายแฟรนไชส์ธุรกิจ
ในการขยายธุรกิจของ LaundryBar นอกจากบริษัทลงทุนเองแล้ว ยังขยายโมเดลแฟรนไชส์ด้วย ทาง ชานนท โตวิกกัย กรรมการบริหาร ของบริษัทฯ กล่าวว่า เชื่อว่าการลงทุนร้านสะดวกซัก LaundryBar จะเป็นทางเลือกใหม่ของนักลงทุนที่กำลังมองหาการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า ดีกว่าการฝากเงินในธนาคารเฉยๆ เป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ คืนทุนไว โดยเฉลี่ยประมาณ 3 ปี และยังได้รับผลตอบแทนสูงในอนาคตโดยสามารถเลือกลงทุนตามความต้องการของผู้ลงทุน แบ่งเป็น 3 แพ็กเกจเบื้องต้น ได้แก่
- แพ็กเกจ BRONZE
เริ่มต้น 2.1 ล้านบาท ให้บริการด้วยเครื่องซัก 4 เครื่อง เครื่องอบ 4 เครื่อง บนพื้นที่ 40-60 ตารางเมตร
- แพ็กเกจ SILVER
เริ่มต้น 2.4 ล้านบาท ให้บริการด้วยเครื่องซัก 5 เครื่อง เครื่องอบ 4 เครื่อง บนพื้นที่ 50-70 ตารางเมตร
- แพ็กเกจ GOLD
เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท ให้บริการด้วยเครื่องซัก 7 เครื่อง เครื่องอบ 6 เครื่อง บนพื้นที่ 60-90 ตารางเมตร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา