เพชร หรืออัญมณีต่าง ๆ ล้วนใช้เวลาหลายพันล้านปีกว่าธรรมชาติจะสร้างขึ้นได้ แต่ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ที่มนุษย์สามารถสร้างสิ่งดังกล่าวได้ ซึ่งปัจจุบันตลาดเพชรที่สร้างโดยมนุษย์ หรือเพชรจากแล็บกำลังเติบโตก้าวกระโดด
เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็สร้างขึ้นได้ ไม่มีการใช้แรงงานเด็กในเหมืองตามที่เป็นข่าว รวมถึงราคาประหยัด และใช้สายตามนุษย์แยกไม่ออกว่าเป็นเพชรธรรมชาติ หรือเพชรที่มนุษย์สร้างขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่ยินดีที่จะซื้อ
Brand Inside อยากพามารู้จัก เพชรจากแล็บ นวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมอัญมณีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างของธุรกิจดังกล่าวดังนี้
ยอดขายแหวนเพชรจากแล็บโตเร็ว
การซื้อเพชรของคนทั่วไปคงไม่ซื้อเป็นเม็ด ๆ แต่จะซื้อเพชรที่ติดตั้งไว้บนเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น แหวน หรือสร้อย ซึ่งในเดือน มี.ค. 2022 ยอดขายแหวนหมั้นที่ใช้เพชรจากแล็บในสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้นถึง 63% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนแหวนหมั้นที่ใช้เพชรจากธรรมชาติยอดขายกลับลดลง 25%
“แหวนหมั้นที่ใช้เพชรจากแล็บยังโตต่อเนื่อง เช่น ก.พ. 2022 ยอดขายแหวนหมั้นที่ใช้เพชรจากแล็บเพิ่มขึ้น 80% และแหวนหมั้นที่ใช้เพชรธรรมชาติลดลง 13% ถือเป็นสิ่งที่ตลาด และผู้ทำธุรกิจอัญมณีกลัว เพราะจากใช้คุณค่าความหายากเป็นจุดขาย ผู้ซื้อในตอนนี้กลับเพิกเฉยในสิ่งดังกล่าว” Edahn Golan นักวิเคราะห์ตลาดอัญมณี กล่าว
เพชรที่เกิดจากธรรมชาติต้องใช้เวลา 800-3,000 ล้านปีกว่าจะเกิดขึ้น และต้องอาศัยแรงงานในการค้นหาอีกระยะหนึ่ง แต่เพชรจากแล็บใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็สร้างเสร็จ นอกจากนี้ภาวะสงครามทำให้ Alrosa บริษัทอัญมณีที่มีรัฐบาลรัสเซียถือหุ้นอยู่ และเป็นอันดับ 1 ของโลก ผ่านส่วนแบ่งการผลิต 28% ทำธุรกิจได้ยากขึ้น
ราคาที่ต่างกันหลายเท่าตัวช่วยจูงใจ
เมื่อเบอร์ 1 เรื่องเพชรประสบปัญหาธุรกิจ ส่งผลให้ราคาเพชรจากธรรมชาติมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยช่วงต้นปี 2022 ราคาเพชรจากธรรมชาติ 1 กะรัต น้ำดีที่สุด จำหน่ายที่ 8,730 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3 แสนบาท แต่เพชรจากแล็บ 1 กะรัต คุณภาพเดียวกัน กลับขายที่ 2,318 ดอลลาร์ หรือราว 80,000 บาท ถูกกว่ากัน 70%
“ราคาที่ถูกกว่า และคุณภาพไม่ต่างกัน ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเพชรที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และน่าจะเป็นการยากที่ผู้จำหน่ายเพชรจากธรรมชาติจะจูงใจพวกเขาให้ไปซื้อเพชรแบบดั้งเดิม แต่ก็เป็นโอกาสของผู้ขายเพชรจากแล็บที่น่าจะจูงใจคนรุ่นใหม่ได้ง่ายกว่า”
จากข้อมูลพบว่า ผู้ซื้อเพชรจากแล็บมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่า 40 ปี และค่อนข้างเข้มงวดกับการจับจ่ายซื้อสินค้า ทั้งมีความรู้เกี่ยวกับเพชรจากแล็บ ที่สำคัญคือปัจจัยที่พวกเขาซื้อเพชรจากแล็บเพราะไม่อยากสนับสนุนการใช้แรงงานผิดกฎหมายในเหมืองเพชรต่าง ๆ
ถึงจะเติบโต แต่ตลาดยังเล็กมาก
อย่างไรก็ตามถึงเพชรจากแล็บจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่หากเทียบกับภาพรวมตลาดเพชรระดับโลกจะพบว่า ปี 2021 ยอดขายเพชรจากแล็บเป็นเพียง 7% ของตลาดรวม แต่ถึงจะเล็ก ภาพรวมการจับจ่ายเพชรจากแล็บกลับเพิ่มขึ้นจาก 3% เมื่อปี 2020
ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยมีปัจจัยหลักคือ บริษัทผลิตเครื่องประดับชั้นนำของโลกหันมาใช้งานเพชรจากแล็บมากขึ้น เช่น Pandora ที่ประกาศเลิกใช้เพชรจากธรรมชาติตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป ซึ่งฝั่งลูกค้าเองยินดีที่จะซื้อเครื่องประดับที่ใช้เพชรจากแล็บเหล่านั้นด้วย
ทั้งนี้ข้อเสียของเพชรจากแล็บคือ ราคาขายต่อที่แทบไม่มีมูลค่า ต่างกับเพชรจากธรรมชาติที่ราคาค่อนข้างแข็ง และพร้อมเปลี่ยนมือเมื่อมีผู้ต้องการ ทำให้ผู้ซื้อต้องตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวเมื่อซื้อเพชรจากแล็บด้วย และอยู่ที่ว่าผู้ซื้อจะให้คุณค่ากับเพชรจากแล็บมากแค่ไหน
สรุป
เพชรจากแล็บกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ธุรกิจเครื่องประดับ และผู้บริโภคต้องรับรู้ เนื่องจากแทบไม่มีความแตกต่างจากเพชรธรรมชาตินัก (ต้องเป็นคนที่ถูกฝึกมาถึงจะมองออก) และในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเขย่าตลาดเครื่องประดับแน่ ๆ แต่สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ผู้บริโภคจะยินดีที่จะซื้อมันหรือไม่
อ้างอิง // CNN
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา