นักวิเคราะห์จาก บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด มีมุมมองถึงเรื่อง LTF ถ้าหากทางกระทรวงการคลังยกเลิก แต่ท้ายที่สุดแล้วคาดว่าจะมีกองทุนใหม่ทดแทน ส่วนทางด้านหุ้นไทยคาดว่าจะกลับมารีบาวด์ได้ และรวมไปถึงเดือนหน้าที่ประเด็นหลายๆ เรื่องดูคลี่คลายลง
ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึงเรื่อง LTF ที่กำลังจะหมดอายุสิทธิทางภาษีในปลายปี 2562 โดยมีมุมมองว่าเหตุผลหลักคือเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล ซึ่งถ้าหากยกเลิกแล้วรัฐจะมีรายได้ทันที 10,000 ล้านบาท / ปี และลดความเหลื่อมล้ำของสังคมลง แต่อย่างไรก็ดี สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เตรียมที่จะเสนอกองทุนใหม่ ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีน้อยลงกว่าเดิม
LTF ใหญ่กว่า 3.8 แสนล้าน
ปัจจุบันมูลค่าของ LTF อยู่ที่ 380,000 ล้านบาท ถ้าหากยกเลิก LTF ไปเลยจะทำให้เม็ดเงินหายไปจากตลาดหุ้นไทยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 60,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้เม็ดเงินไหลเข้า LTF ไปแล้วประมาณ 26,000 ล้านบาท คาดว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายจะมีเม็ดเงินไหลเข้าอีกประมาณไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
ประกิต ยังมองว่า ประเด็นการยกเลิก LTF นั้นจะมีก็ต่อเมื่อมีกองทุนใหม่เข้ามาทดแทน LTF แล้ว คาดว่าเงื่อนไขของกองทุนใหม่จะต้องมีสิทธิการถือครองบางอย่าง เช่น การถือครองที่ยาวขึ้น เพื่อสิทธิทางภาษีที่มากขึ้น สามารถให้ประชาชนทั่วไปลงทุนได้มากขึ้นจากเงินลงทุนขั้นต่ำที่ลดลง เป็นต้น
ถ้าไม่มี LTF เม็ดเงินไหลออกมหาศาล
ประกิต ยังได้เสริมอีกว่าถ้าหากไม่มีกองทุนทดแทน LTF ก็จะเกิดเหตุการณ์เม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยมหาศาล โดยปี 2562 เงินไหลออก 140,000 ล้านบาท ปี 2563-2564 ไหลออกประมาณ 150,000 ล้านบาท และก้อนสุดท้ายที่จะไหลออกในปี 2567-68 อีกประมาณ 90,000 ล้านบาท
ซึ่งท้ายที่สุดแล้วคาดว่าน่าจะมีกองทุนใหม่ออกมาทดแทน LTF เพราะว่าไม่งั้นแล้วจะกลายเป็นว่าไม่มีเม็ดเงินเข้ามาพยุงตลาดหุ้นไทย
SET กลับไปเกิน 1,680 อีกครั้ง
สำหรับมุมมองของหุ้นไทย ประกิต คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ SET Index จะเกิด Technical Rebound กลับไปเกิน 1,680 อีกครั้ง ส่วนพอร์ตการลงทุน บล. กสิกรไทย ยังไม่รีบให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น ซึ่งปัจจุบันให้ถือหุ้น 60% เงินสด 40% โดย บล. กสิกรไทย ขอให้ดูสถานการณ์ปลายๆ ที่มีสัญญาณที่ดีก่อนจะตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักการลงทุนอีกครั้ง
ภาพรวมสำหรับเดือนหน้านั้นคาดว่าปัจจัยหลายๆ เรื่องจะคลี่คลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นต่างๆ เช่น
- เงินเฟ้อมีแนวโน้มบรรเทามากขึ้น
- มองว่าซาอุน่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐมีท่าทีคลี่คลายลง หลังจากประกาศว่าจะขึ้นดอกเบี้ยตลอด ทำให้ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังโดนประธานาธิบดีทรัมป์โจมตีในเรื่องนี้ด้วย
- สงครามทางการค้าสหรัฐ-จีน น่าจะมีข้อคลี่คลายมากขึ้น
- ต่างชาติขายหุ้นไทยลดลง โดยในปีนี้ต่างชาติขายหุ้นไทยไปแล้วกว่า 250,000 ล้านบาท
- ยังมีแรงซื้อหนุนจาก LTF และรวมไปถึง RMF
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ บล. กสิกรไทย แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนคือ ธนาคาร อสังหา สื่อสาร ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา