พูดถึง Mobile Banking ที่กำลังแข่งขันกันหนักหน่วง หนีไม่พ้น 2 ธนาคารใหญ่ SCB และ KBank ตามมาด้วย กรุงศรี แต่ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ที่แม้จะเป็นแบงก์รัฐ แต่ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดต้องจับตามอง เพราะเป็นการยกเครื่อง Mobile Banking ใหม่หมด จาก KTB netbank กลายเป็น Krungthai NEXT (กรุงไทย NEXT)
KTB บอกว่า นี่จะเป็น The Next Real Change ครั้งสำคัญ
KTB ประกาศสิ่งใหม่ใน “กรุงไทย NEXT”
- เมนูลัด โอน จ่าย เติม สแกน ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมได้ตั้งแต่กดเปิดแอพเพียงครั้งเดียว โดยที่ โอน จ่าย เติม ถือเป็นเมนูที่มีการใช้งานบ่อยที่สุด รวมกับ สแกน QR Code ที่ช่วยให้การจ่ายง่ายขึ้น และสามารถตั้งค่า ขั้นต่ำ ให้สามารถกดได้ทันที โดยไม่ต้องใส่พาสเวิร์ด เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
- เติมเงิน จ่ายบิล ได้มากกว่าทุกธนาคาร เพราะ KTB ไม่ได้เน้นเพียงเรื่องพาณิชย์ แต่คำนึงถึงบริการที่ประชาชนต้องการ ดังนั้นนอกจากบิลค่าสาธารณูปโภคแล้ว สิ่งที่แตกต่างจากธนาคารอื่นคือ จ่ายค่าปรับจราจร ค่าเรียน กยศ. และบิลภาครัฐต่างๆ มากกว่า 1,000 รายการ
- เชื่อมต่อ Travel Card และผนวก KTC บัตร Travel Card ของ KTB อำนวยความสะดวกเรื่องการเงินระหว่างท่องเที่ยว แลกเงินผ่านแอพได้กว่า 10 สกุลเงิน และใช้ได้ในกว่า 10 พื้นที่ โดยไม่ชาร์จอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่ม และล่าสุดได้ผนวกบัตร KTC ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้ามาไว้ในแอพ กรุงไทย NEXT เพื่อความสะดวกของผูัใช้ยิ่งขึ้น
- ซื้อ-จอง สลากกินแบ่งรัฐบาล (หรือหวยรัฐบาล) ได้ ไม่ต้องไปต่อคิวที่ธนาคาร หรือตู้ ATM เพียงกดเข้าเมนูซื้อ-จองสลากกินแบ่งรัฐบาลล่วงหน้า อำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายหวย สามารซื้อ-จองได้ พร้อมตามเวลาที่กำหนดพร้อมกับช่องทางอื่นๆ
- ล็อกอินผ่านระบบ Finger Print และ Face Recognition ได้ รวมถึงอนาคตจะสามารถเปิดบัญชีผ่านแอพ โดยใช้ระบบ e-KYC ได้ด้วย
มีครบเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใช้ง่าย ตั้งเป้าผู้ใช้ 10 ล้านในปลายปีหน้า
ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย บอกว่า Mobile Banking เดิมคือ KTB netbank เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2010 ถือว่านานมากแล้ว แม้จะมีการอัพเดทมาโดยตลอดแต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องมีการยกเครื่องใหม่ กลายเป็น กรุงไทย NEXT ที่สื่อความหมายว่า ต้องการไปข้างหน้าแบบก้าวกระโดด
สำหรับ กรุงไทย NEXT มีทุกอย่างครบเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความง่าย และเพิ่มบริการใหม่ๆ ที่ผู้ใช้ต้องการ มีการจัดวางเมนูใหม่ให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม โดยปัจจุบันมีผู้ใช้ KTB netbank กว่า 5 ล้านราย หลังจากยกเครื่องใหม่เป็น กรุงไทย NEXT ตั้งเป้าจะเพิ่มผู้ใช้เป็น 10 ล้านรายในปลายปี 2562
“ระหว่างนี้ทั้งแอพ KTB netbank จะยังใช้งานได้ควบคู่ไปกับ กรุงไทย NEXT แต่จะมีพนักงาน digital migration กว่า 1,500 คนทั่วประเทศ แนะนำให้ผู้ใช้อัพเดทแอพมาเป็น กรุงไทย NEXT ทั้งหมด และเพื่อความมั่นใจในทุกธุรกรรมที่จะเกิดขึ้นบนแอพ กรุงไทยเตรียมระบบหลังบ้านไว้อย่างดี สามารถรองรับกว่า 25,000 ธุรกรรมต่อนาที”
ภาพของ กรุงไทย NEXT จะต้องเป็นสาขาใหม่ของกรุงไทย ที่สามารถทำธุรกรรมที่ไม่ใช้เงินสดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เปิดข้อมูลคนไทยใช้ Mobile Banking น้อยกว่า Facebook, LINE และ YouTube
ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย บอกว่า ผู้ใช้ Mobile Banking ในไทยมีประมาณ 37.9 ล้านบัญชี คิดเป็นอัตราส่วน 56% จากกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทย หรือคิดเป็น 31 ล้านคนจากประชากรประมาณ 70 ล้านคน และผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่เขตกรุงเทพ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่เท่านั้น
ตัวเลขนี้น้อยกว่าผู้ใช้ Facebook 51 ล้านคน, LINE 42 ล้านคน และ YouTube 40 ล้านคน
คนไทยตามจังหวัดต่างๆ คือเป้าหมายสำคัญ ซึ่งกรุงไทย NEXT ต้องการทำให้ธุรกรรมต่างๆ ง่ายและให้บริการได้ครอบคลุมมากที่สุด โดยเฉพาะบริการของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่ธนาคารอื่นไม่มี สร้างความคุ้นเคยให้ผู้ใช้ โอน เติม จ่าย ได้โดยไม่ต้องไปที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็ม
สรุป
กรุงไทย NEXT เปิดให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด หรือ อัพเดทจาก KTB netbank เดิมได้แล้ว หน้าตาทันสมัยขึ้น ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นอีกธนาคารที่มีการยกเครื่องแอพใหม่ และดูเหมือน กรุงไทยจะเข้าใจตัวเองว่า กลุ่มลูกค้าหลักคือ ข้าราชการ, รัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีบัญชีเงินเดือนอยู่แล้ว และยังเน้นไปที่ พ่อค้าแม่ค้าหวย ให้สามารถสั่งซื้อ-จองสลากกินแบ่งได้ด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา