กรุงไทยเปิดกำไรสุทธิ 9 เดือนแรก ปี 66 แตะ 30,505 ล้านบาท เติบโต 19% จากรายได้-สินเชื่อโต

ธนาคารกรุงไทย เผยผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่ง ช่วง 9 เดือนปี 66 มีกำไรสุทธิ 30,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานโต-คุมค่าใช้จ่ายและบริหารสินทรัพย์ได้ดี 

ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น  โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 2.5 เท่าตัว ซึ่งส่งผลดีต่อการจ้างงานและรายได้ของครัวเรือน ขณะที่ภาคการส่งออกและการลงทุนของภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนการลงทุนภาครัฐในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. อาจได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในกระบวนการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 

อย่างไรก็ตามทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ยังเผชิญกับความท้าทายจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพิ่มความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุน และผลักดันให้ราคาพลังงานในตลาดโลกปรับสูงขึ้น ขณะที่ในประเทศมีความท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ระดับสูง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจกระทบผลผลิตและรายได้ในภาคเกษตร และภาคครัวเรือนที่ยังมีภาระหนี้สูง ธนาคารกรุงไทยจึงดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด โดยรักษาระดับของ Coverage Ratio ในระดับสูง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มให้สามารถปรับตัวรองรับกับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2566 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเท่ากับ 10,282 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 22% โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 28.2% และทั้งการเติบโตด้านสินเชื่อ รวมถึงมีรายได้ดอกเบี้ยพิเศษจากลูกค้ารายใหญ่ อีกทั้งรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้น

ผลประกอบการของธนาคารฯ 9 เดือนแรกของปี 2566 มีจุดสำคัญดังนี้

  • กำไรสุทธิอยู่ที่ 30,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 83,058 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ: NIM เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.19% จาก 2.51% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน)
  • รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิอยู่ที่ 15,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • รายได้จากการดำเนินการอื่นๆ อยู่ที่ 11,379 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ อยู่ที่  44,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 98,309 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย จากไตรมาสก่อนหน้า (ณ สิ้น มิ.ย. 66) ที่อยู่ราว 98,810 ล้านบาท โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.10% ลดลงเล็กน้อยจาก ณ สิ้นเดือน มิ.ย..ที่อยู่ระดับ 3.11%

ณ 30 ก.ย. 2566 ธนาคาร (งบเฉพาะธนาคาร) มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 17.28% และมีเงินกองทุนทั้งสิ้น 20.47% 

ที่มา ธนาคารกรุงไทย, SET

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา