กรุงศรี ออโต้ พลิกเกมตลาดรถมือสอง ชู ‘GO Auto Station’ แพลตฟอร์มครบวงจร ดันเศรษฐกิจ-สร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินเพื่อผู้ใช้รถทั่วไทย

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจและภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง กำลังซื้อของผู้บริโภคจึงหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ตลาดรถยนต์มือสอง’ ที่ภาพรวมครึ่งแรกของปี 2568 มียอดขายลดลงราว 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดสินเชื่อรถมือสองปรับตัวลดลงถึง 23%

สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาดและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ และสำหรับ ‘กรุงศรี ออโต้’ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ในฐานะผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสองถึง 1 ใน 3 ของตลาดรวม มองว่านี่คือช่วงเวลาสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ในฐานะ ‘ผู้กำหนดทิศทางตลาด (Market Shaper)’ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้า

ล่าสุด กรุงศรี ออโต้ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ดังกล่าวด้วยการผลักดัน แพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวบรวมโซลูชันเรื่องเงินและเรื่องรถไว้อย่างครบวงจร ตั้งเป้าเป็นกลไกสำคัญในการพลิกฟื้นตลาดรถยนต์มือสองในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมสร้างโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินและเป็นเจ้าของรถได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ถอดรหัส ‘Driving Force’ ที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์กรุงศรี ออโต้

คงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ฉายภาพให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนสำคัญ (Driving Force) ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในอนาคต ซึ่งกรุงศรี ออโต้ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการวางกลยุทธ์ นั่นคือ ‘พฤติกรรมผู้บริโภค’ และ ‘ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ’

  1. พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป (Behavioral Shift): ข้อมูลล่าสุดจาก We Are Social ในเดือนกรกฎาคม 2568 ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูงถึง 94.3% จัดเป็นอันดับที่ 20 ของโลก และที่น่าสนใจคือ 68.2% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทำการซื้อของออนไลน์ทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของโลก ตัวเลขนี้สะท้อนชัดเจนว่าดิจิทัลได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะกระบวนการซื้อขายรถยนต์มือสองที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก จากที่เคยต้องไปดูรถที่เต็นท์ ตอนนี้กว่า 80% ของกระบวนการซื้อขายเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์
  2. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ (Economic Shift): แม้ว่าวิจัยกรุงศรีจะคาดการณ์ว่า GDP ของไทยในปี 2568 จะเติบโตที่ 2.1% แต่แนวโน้มหนี้ครัวเรือนกลับมีทิศทางที่สูงขึ้น และอาจแตะระดับ 90% ของ GDP ได้ภายในสิ้นปี สถานการณ์นี้ส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อและความสามารถในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินขนาดใหญ่อย่างรถยนต์

“กรุงศรี ออโต้ เชื่อว่ากุญแจสำคัญไม่ใช่แค่การพร้อมเผชิญความท้าทาย แต่คือการมองเห็นแรงขับเคลื่อนที่จะส่งผลต่ออนาคต เพื่อให้เราปรับตัวได้ทัน” คงสิน กล่าว “เราจึงนำโอกาสและความท้าทายเหล่านี้มาพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยยึดมั่นในแนวทางการดำเนินงานที่มุ่งสร้างคุณค่าร่วมต่อพนักงาน ลูกค้า สังคม รวมถึงผู้ถือหุ้น (Creating Shared Value through 4WINS) พร้อมแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบที่ยั่งยืน (Krungsri Auto Sustainable Responsible Lending) เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) และสร้างคุณค่าร่วมให้กับทุกฝ่าย”

ภาพรวมตลาดรถมือสอง กับความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม

คงสิน ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสองในปัจจุบันว่า นอกจากยอดขายและยอดสินเชื่อที่ลดลงแล้ว ปริมาณรถยนต์มือสองที่หมุนเวียนในตลาด (Supply) ยังลดลงประมาณ 10% ด้วยสาเหตุหลัก 3 ประการ 

  1. ยอดขายรถใหม่ชะลอตัว: เมื่อคนออกรถใหม่น้อยลง รถเก่าที่เคยเป็นซัพพลายหลักเข้าสู่ตลาดมือสองก็น้อยลงตามไปด้วย
  2. ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ: ผู้บริโภคบางส่วนไม่ผ่านเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนรถได้ รถคันเดิมจึงยังไม่ถูกปล่อยสู่ตลาด
  3. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้: นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น การยืดหนี้ ทำให้จำนวนรถที่ถูกยึดซึ่งเป็นอีกหนึ่งซัพพลายสำคัญของตลาดลดน้อยลง

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ราคารถยนต์มือสองในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะรถที่มีอายุ 3-5 ปี ราคาปรับขึ้นประมาณ 3-5% เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับกำลังซื้อของผู้บริโภค

GO Auto Station โซลูชันเปลี่ยนเกมที่ ‘สะดวก-รวดเร็ว-ครบจบ’

เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายทั้งหมดนี้ กรุงศรี ออโต้ ได้พัฒนา ‘GO Auto Station ตลาดรถมือสอง’ บนแอป โก บาย กรุงศรี ออโต้ (GO by Krungsri Auto Application) ให้เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้ามาปฏิวัติวงการซื้อขายรถยนต์มือสองของไทย

“เราต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ผ่าน ‘GO Auto Station’ ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายรถยนต์มือสองในรูปแบบ One-Stop Solution แห่งแรกของประเทศไทยด้วยนวัตกรรมสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลตั้งแต่ต้นจนจบที่เชื่อมต่อผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ให้บริการสินเชื่อไว้ในที่เดียว” คงสิน กล่าว

จุดเด่นที่ทำให้ GO Auto Station แตกต่างและโดดเด่น มี 3 ประการหลัก

  1. สะดวก (Convenient): ผู้ซื้อสามารถค้นหารถ เปรียบเทียบข้อมูล และกรองตัวเลือกต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ค้นหาและตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก
  2. รวดเร็ว (Fast): ด้วยนวัตกรรมสินเชื่อดิจิทัล ‘พร้อมสตาร์ท’ จากกรุงศรี ยูสด์ คาร์ ลูกค้าสามารถตรวจสอบวงเงินเบื้องต้น คำนวณค่างวด และยื่นขอสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที โดยสามารถทราบผลอนุมัติได้ภายใน 30 นาที ซึ่งเป็นกระบวนการดิจิทัลทั้งหมด
  3. ครบจบ (Complete): แพลตฟอร์มนี้เป็นตลาดรถยนต์มือสองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีรถยนต์คุณภาพที่คัดสรรจากดีลเลอร์พันธมิตรทั่วประเทศหมุนเวียนในระบบกว่า 218,000 คัน หลายคันผ่านการตรวจสภาพและจัดเกรด (Car Grading) จากผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ ที่จำเป็นไว้อย่างครบวงจร ตั้งแต่สินเชื่อ ประกันภัย การดูแลรักษารถ ไปจนถึงบริการสำหรับลูกค้าปัจจุบัน เช่น การชำระค่างวด และสิทธิพิเศษด้านไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ

สร้างโอกาสให้ทุกฝ่าย เติบโตไปพร้อมกัน

GO Auto Station ไม่เพียงแต่สร้างประโยชน์ให้กับผู้ซื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้พันธมิตรดีลเลอร์รถยนต์มือสองเติบโตได้อย่างยั่งยืน

  • สำหรับลูกค้า จะได้รับประสบการณ์การซื้อรถมือสองที่สะดวก รวดเร็ว และมั่นใจได้ในคุณภาพของรถ พร้อมเข้าถึงบริการสินเชื่อที่โปร่งใสและเป็นธรรม
  • สำหรับดีลเลอร์ สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของกรุงศรี ออโต้ ที่มีมากกว่า 5 ล้านคนทั่วประเทศ เพิ่มโอกาสในการขายโดยไม่ต้องลงทุนสร้างแพลตฟอร์มของตัวเอง

ความสำเร็จของแพลตฟอร์มสะท้อนได้จากจำนวนรถในระบบที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 130,000 คันในปี 2567 มาเป็นกว่า 218,000 คันในปี 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของดีลเลอร์ที่มีต่อแพลตฟอร์มของกรุงศรี ออโต้

ยืนหนึ่งผู้นำตลาดและขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือเป้าหมาย

สำหรับเป้าหมายในปี 2568 กรุงศรี ออโต้ ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสอง ด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดที่ 1 ใน 3 โดยคาดว่าภาพรวมตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสองปีนี้จะมีมูลค่ารวมประมาณ 60,000 ล้านบาท

“เราจะยังคงเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ผ่านการเป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อลูกค้าและพันธมิตรดีลเลอร์ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” คงสิน ย้ำ “ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นของกรุงศรี ออโต้ ที่จะช่วยให้ตลาดรถมือสองขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไป”

แม้ว่าในปี 2568 จะยังเป็นปีที่ท้าทาย แต่ก็มีปัจจัยบวกที่น่าจับตา เช่น แนวโน้มการลดลงของอัตราดอกเบี้ย 
และความต้องการใช้รถยนต์ที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวได้ และด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจนบวกกับแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งอย่าง GO Auto Station
กรุงศรี ออโต้ ก็พร้อมแล้วที่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการ ‘เปลี่ยนเกม’ ตลาดรถยนต์มือสองของไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมทั้งเปิดประตูแห่งโอกาสให้คนไทยทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพดีได้อย่างที่ตั้งใจ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา