ญี่ปุ่น คือ จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของคนไทยจำนวนมาก และครั้งเดียวไม่พอเพราะเป็นประเทศที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เที่ยวซ้ำก็ยังได้ ดังนั้น กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องญี่ปุ่นอยู่แล้ว ได้จัดแคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” ด้วยการมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งอย่าง มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ยิ่งเสริมความได้เปรียบในการจัดโปรโมชั่นทำการตลาดในญี่ปุ่นให้คนไทยที่ถือบัตรเครดิต ในเครือกรุงศรรี คอนซูมเมอร์ ได้ประโยชน์มากกว่า
สมหวัง โตรักตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด บอกว่า จากการสำรวจพบว่า ญี่ปุ่นคือประเทศที่คนไทยอยากไปเที่ยวมากที่สุด โดยพบว่า ปี 2023 คนไทยเดินทางมาญี่ปุ่น 9.95 แสนคน เมื่อดูข้อมูลลูกค้าบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะพบว่า มีการใช้จ่ายผ่านบัตรในต่างประเทศมีกว่า 183,000 คน มีมูลค่าใช้จ่ายรวม 5,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนมาประเทศญี่ปุ่น 106,000 คน มีมูลค่าใช้จ่ายรวม 2,200 ล้านบาท
แนวโน้มการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาด การจัดแคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้บริษัทได้ขยายความร่วมมือกับเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ MUFG และพันธมิตรทั้งในญี่ปุ่นและไทยเพิ่มเติม รวมกว่า 600 แบรนด์ นำเสนอสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้บัตรที่ดียิ่งขึ้นในฐานะบัตรเครดิตหลักที่ลูกค้านิยมใช้จ่ายที่ญี่ปุ่น เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
สำหรับยอดการใช้จ่ายกว่า 2,200 ล้านบาทในปี 2566 มีหมวดใช้จ่ายสูงสุด เรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1. ห้างสรรพสินค้า 2. โรงแรม ที่พัก 3. สินค้าแฟชั่น เครื่องแต่งกาย 4. เครื่องสำอาง สินค้าเบ็ดเตล็ด 5. สนามบินและสินค้าปลอดภาษี โดยลูกค้าส่วนใหญ่ราว 80% เป็นกลุ่ม Gen X และ Gen Y มียอดใช้จ่ายต่อคน เฉลี่ย 32,000 บาท หรือ เติบโต 10% เทียบกับปี 2565
ส่วนสำคัญของแคมเปญนี้ คือการสร้างประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก กิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง ลูกค้าจะได้รับโปรโมชั่น ส่วนลด เครดิตเงินคืน ฯลฯ ผ่านพันธมิตรกว่า 600 แบรนด์ตลอดการเดินทาง และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของแคมเปญนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะขับเคลื่อนด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
- ขยายความร่วมมือโดยเพิ่มจำนวนพันธมิตร เพิ่มสิทธิประโยชน์ เสริมหมวดหมู่ใหม่ ๆ ภายใต้ระบบนิเวศธุรกิจเพื่อคนรักญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 600 แบรนด์ทั่วประเทศญี่ปุ่น
- นำเสนอทางเลือกในการชำระเงินที่หลากหลาย อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สามารถผ่อนชำระได้ ใช้ U Point ได้ ชำระเงินแบบ Wallet ได้ รวมถึงร่วมกับธนาคารกรุงศรี ด้วยบัตรพรีเพด Krungsri Boarding Card แลกเงินได้เรทที่ดีกว่า
- เสริมประสบการณ์ให้หลากหลาย ครบทุกเรื่องญี่ปุ่น ทั้งในและต่างประเทศ เช่น เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านร้านอาหาร การช้อปปิ้ง และบริการ งานอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น เรียกว่า สร้างประสบการณ์ญี่ปุ่นในไทย แม้ไม่ได้ไปเที่ยวก็สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ผ่านกว่า 2,000 ร้านค้าในไทยได้
- ใช้ข้อมูลและนวัตกรรม เสริมประสิทธิภาพการตลาด ใช้ AI มาคำนวณการนำเสนอโปรโมชั่นเฉพาะบุคคล เฉพาะสถานที่
ทั้งนี้ คาดว่า สิทธิประโยชน์ที่ครบ จบ ทุกประสบการณ์เรื่องญี่ปุ่น และเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เป็นผู้นำธุรกิจในเซกเมนต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น และกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตร โดยบริษัทตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่น 2,950 ล้านบาทในปี 2567 (เติบโต 50% เทียบกับปีก่อน)
สำหรับแคมเปญ เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี มีสิทธิประโยชน์ เช่น จองโรงแรม สายการบิน และบัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นกับแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ เช่น Klook, Traveloka, Trip.com, Agoda, การใช้คะแนนสะสมแลกซื้อซิมเพื่อใช้งานที่ญี่ปุ่นในราคาพิเศษ หรือแลกสิทธิเข้าเลานจ์ภายในสนามบิน, สิทธิพิเศษเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรที่ห้างและร้านค้าพันธมิตรที่ญี่ปุ่น เช่น Takeya, Mitsui Outlet Group, Bic Camera, Keio Department Store, Kintetsu Department Store
ทั้งนี้ ทุกยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นตามเงื่อนไข ยังสามารถสะสมยอดเพื่อรับเครดิตเงินคืนเพิ่มสูงสุด 5,200 บาท และสำหรับบัตรเครดิตกรุงศรี เจซีบี แพลทินัม และบัตรเครดิตสยาม ทาคาชิมายะ เจซีบี ยังได้รับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นตามเงื่อนไข (ระยะเวลาและเงื่อนไขของแต่ละโปรโมชันขึ้นอยู่กับร้านค้าและประเภทของบัตรที่ร่วมรายการ)
นอกจากนี้ เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติม ลูกค้าที่สนใจใช้บัตร Travel Card ยังสามารถเลือกใช้บัตร Krungsri Boarding Card จากธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งเป็นบัตร VISA Prepaid Card Multi-Currency ที่มีกระเป๋าเงิน e-Wallet 16 สกุลเงินต่างประเทศ และ 1 Wallet สกุลเงินบาท ตอบโจทย์ในด้านความคุ้มค่าของเรทเงิน และความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ผู้ถือบัตรควรใช้แต่พอดีตามความจำเป็น และชำระเงินเต็มจำนวนตามเวลาที่กำหนด เพื่อสร้างวินัยทางการเงินที่ดี
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา