ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเผยแผนธุรกิจ 3 ปีตั้งแต่ปี 2021-2023 กับ 5 กลยุทธ์ ตั้งเป้าสถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า ขณะเดียวกันก็พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าท่ัวทั้งภูมิภาคอาเซียน
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ปี 2564 – 2566 โดยแผนดังกล่าวตั้งเป้าที่จะมุ่งสู่การเป็น สถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าท่ัวทั้งภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังพร้อมดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญของ MUFG พร้อมจุดแข็งของกรุงศรีเพื่อความยั่งยืน
สำหรับกลยุทธ์ของกรุงศรีใน 3 ปีข้างหน้านี้ ประกอบไปด้วยกลยุทธ์
- การปฏิรูปธุรกิจลูกค้ารายย่อยให้เป็นหนึ่งเดียว โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อให้กับลูกค้าของกรุงศรี
- การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้านลูกค้าธุรกิจ ใช้ศักยภาพของเครือ MUFG ช่วยคว้าโอกาสใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในห่วงโซ่อุปทานต่างๆ
- การสร้างระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจ ใช้ประโยชน์ของการมีลูกค้าในการสร้างระบบนิเวศต่างๆ เช่น ความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ หรือแม้แต่ผ่านการลงทุนของธนาคาร
- การขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจในฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา และสร้างโอกาสให้กับลูกค้าในธุรกิจต่างประเทศ
- การสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ
สำหรับแผนธุรกิจ 3 ปีนั้นธนาคารได้พิจารณาจากความสำเร็จของแผนธุรกิจระยะกลางฉบับที่ผ่านมา โดยยึดหลักแนวทางที่ทำ Banking ให้เป็นเรื่องง่าย และเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของลูกค้า รวมถึงแนวโน้มเมกะเทรนด์ของโลก ไม่ว่าจะเป็น
- การรวมกลุ่มระหว่างประเทศภายในภูมิภาคเดียวกัน
- การเปลี่ยนขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลก
- การเปลี่ยนแปลงลักษณะทางประชากร (เช่น กรณีของสังคมผู้สูงอายุ)
- การเติบโตที่รวดเร็วของสังคมเมือง
- ปัจเจกบุคคลมีอำนาจมากขึ้น
- การตระหนักถึงสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
- การเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศ
- การเปิดรับเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว
ในปี 2021 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่าเงินให้สินเชื่อจะเติบโตในระดับ 3-5% และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ 3.1-3.3% การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา และอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.7%
ก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาธนาคารได้กล่าวถึงแผนระยะกลางนี้จะเน้นเรื่อง Megatrend เป็นหลัก ขณะเดียวกันธนาคารเองได้เน้นย้ำถึงเรื่องการปรับตัวในระยะสั้นต้องมีความรวดเร็ว แม้ว่าจะมีแผนระยะกลางแล้วก็ตาม รวมถึง 3 เรื่องที่ยังต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็น ความสำคัญของลูกค้า การใช้เทคโนโลยี รวมถึงการต่อยอดให้กับลูกค้าของธนาคาร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา