องค์กรหลายแห่งรู้ว่าการจัดการด้านบัญชีคือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจ อย่างน้อยที่สุดคือ ช่วยให้รู้ข้อมูล มองเห็นภาพรวมก่อนตัดสินใจ เช่น รู้ว่าต้นทุนของบริษัทมีอะไรบ้าง เป็นมูลค่าเท่าไร การตั้งราคาขายสมเหตุสมผลหรือไม่ ปัจจุบันกำไรหรือขาดทุน ทำให้สามารถมองเห็นอดีตและคาดการณ์อนาคตได้
นอกจากนี้ในด้านกฎหมาย การจัดการด้านบัญชีเป็นข้อมูลสำหรับนิติบุคคลที่ต้องนำส่งหน่วยงานภาครัฐ นำเสนอต่อนักลงทุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เรียกว่าถ้าบริษัทมีการจัดการบัญชีที่ดี การทำรายงานทางการเงินก็จะดีไปด้วย
แต่ต้องยอมรับความจริงว่า องค์กรธุรกิจในไทยทุกระดับ ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการทำบัญชีและรายงานทางการเงินอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ บริษัทเคพีเอ็มจี ประเทศไทย หรือ KPMG เน้นย้ำว่า การจัดการด้านบัญชีมีความสำคัญอย่างมากในการฝ่าวิกฤตโควิด-19
ทุกงานในองค์กรธุรกิจ KPMG พร้อมให้บริการ
เจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของ KPMG ประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว บอกว่า KPMG หลายคนรู้จักดีว่าเป็นหนึ่งใน Big 4 Audit Firms ระดับโลก ถือเป็นบริษัทระดับ Global Brand มีเครือข่ายอยู่ 147 ประเทศ พนักงานกว่า 227,000 คนทั่วโลก และไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยมีพนักงานกว่า 2,100 คน
หลายคนจะคิดว่าต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่ถึงจะใช้บริการ KPMG ได้ แต่ความเป็นจริง SME ก็สามารถใช้บริการของ KPMG ได้ โดย KPMG มี 4 รูปแบบริการ ประกอบด้วย
- งานสอบบัญชีและงานการให้ความเชื่อมั่นอื่น (Audit and Assurance Services) สำหรับงานด้านการสอบบัญชี ยกตัวอย่างเช่น การสอบงบการเงินประจำปี เป็นงานที่หลายคนคุ้นเคยอยู่แล้ว เพื่อส่งให้หน่วยงานราชการ (กรมสรรพากร, กระทรวงพาณิชย์) ตลาดหลักทรัพย์ หรือสถาบันการเงินต่างๆ สำหรับงานการให้ความเชื่อมั่นอื่น เช่น บริษัทที่ได้รับสิทธิพิเศษจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) KPMG สามารถให้บริการการสอบทานว่าบริษัทที่ได้รับการส่งเริมการลงทุนได้ปฏิบัติตามข้อบังคับที่ทาง BOI กำหนดไว้หรือไม่
- งานให้บริการด้านภาษีครบวงจร (Tax Services) KPMG จะเข้ามาช่วยดูแล ให้คำปรึกษา และจัดการด้านภาษีให้มีความถูกต้องและตอบสนองประโยชน์ในการทำธุรกิจขององค์กร
- งานให้บริการด้านกฎหมาย (Legal Services) เป็นอีกหนึ่งบริการที่ KPMG ให้ความสำคัญ และต้องการเข้าไปช่วยเหลือลูกค้ามากขึ้น
- งานให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ (Advisory Services) มี 3 บริการหลัก คือ Risk Consulting, Deal Advisory และ Management Consulting
“ไม่อยากให้มองงานบัญชีเป็นเรื่องเอกสารและตัวเลขเท่านั้น ในช่วงวิกฤตโควิด การรู้ภาพรวมของบริษัทเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง นอกจากรับมือวิกฤตที่เกิดขึ้นแล้ว ยังสามารถสร้างโอกาสในอนาคตได้ด้วย”
ปรับตัวรับสถานการณ์ สร้างความเชื่อมั่นในบริการ
เจริญ บอกว่า ปี 2563 ที่ผ่านมา เมื่อลูกค้าองค์กรธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด KPMG ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เช่น องค์กรของลูกค้ามีผลกระทบจากโควิด ทำให้รายการทางธุรกิจของลูกค้าลดลงอย่างมีสาระสำคัญ และเพื่อช่วยเหลือลูกค้า KPMG จำเป็นต้องมีการพิจารณาค่าสอบบัญชีใหม่ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่ง KPMG มีแผนในการรับมือทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และพร้อมจะช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าแบบหนึ่ง
สำหรับหลักในการทำงานของ KPMG จะเน้นให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงานตั้งแต่เริ่มต้น มีการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่ผลสำเร็จของงาน และต้องอยู่บนความเป็นอิสระ คุณภาพต้องได้มาตรฐาน หรือที่เรียกว่า KPMG Experience เช่น ลูกค้าของ KPMG จะใช้บริการที่ใดใน Network Firm ทั่วโลกต้องได้รับความพึงพอใจ ประทับใจ งานที่น่าเชื่อถือ เหมือนกันทุกประเทศ โดยมีหลักการทำงาน 4 ส่วน ได้แก่
- Flexible ถ้าลูกค้าต้องการทำธุรกรรมใหม่ๆ ต้องให้การสนับสนุน และตอบสนองความต้องการลูกค้า
- Everyone Centric ให้ความสำคัญกับลูกค้า ที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน
- Be Human ยิ่งเทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้น KPMG ต้องเพิ่มความเป็นมนุษย์ ความเข้าอกเข้าใจมากขึ้น
- Listen and Respond ต้องรับฟังลูกค้า รับรู้ความต้องการ และตอบสนองให้ตรง
จะเห็นได้ว่า แม้จะเกิดโควิด-19 ไปทั่วโลก แต่การให้บริการและประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจาก KPMG จะต้องดีขึ้น
ให้ความสำคัญกับพนักงานเหมือนเป็นลูกค้าคนสำคัญ
KPMG เชื่อว่าการดูแลพนักงานคือสิ่งสำคัญ โดยเรียกว่า Consumer-grade experience คือการดูแลพนักงานทุกคนเหมือนเป็นลูกค้าคนสำคัญ เพราะเมื่อ KPMG ดูแลพนักงานดี พนักงานก็จะดูแลลูกค้าได้ดีเช่นเดียวกัน
อีกทั้ง บริษัทต้องมีเส้นทางอาชีพ หรือ Career Path ที่รองรับการเติบโตในอนาคต มีความชัดเจนว่าหากมีความรู้ความสามารถสามารถเติบโตในสายอาชีพนี้ได้แน่นอน โดยมีการฝึกอบรมพนักงานเพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็น เรียกว่า 16 Future Skill Set โดยแบ่งเป็น 4 ด้าน
- Human Centric เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข
- Growth Mindset พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้องค์กรเติบโตไปข้างหน้า
- Cognitive Flexibility สร้างทักษะ การวางแผน การวิเคราะห์
- Digital and Data พัฒนาเรื่องเทคโนโลยีและการใช้ข้อมูล
อาชีพบัญชียังสำคัญและจำเป็น
เจริญ บอกว่า KPMG มีการวางแผนเรื่องคนอยู่ตลอด การจะรับคนเข้าทำงานจะเน้นเรื่องของ 3A คือ
- Attitude ทัศนคติต้องดี สิ่งนี้สำคัญที่สุด
- Agility ความคล่องตัว ปรับตัวได้กับสถานการณ์
- Ability ความรู้ความสามารถ เป็นอับดับสุดท้าย เพราะเชื่อว่า KPMG มีระบบการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและสามารถพัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถมากขึ้น
อีกทั้งยังมีเรื่องของ Strengths Finder ช่วยให้พนักงานค้นหาจุดแข็งของตัวเอง และจะพัฒนาจุดแข็งนั้นให้ดียิ่งขึ้น และต้องรู้จุดแข็งของเพื่อนร่วมงานด้วย เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ได้แนะนำนักบัญชี หรือคนที่สนใจในงานบัญชีว่า อาชีพนักบัญชียังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกมาก แต่ต้องรู้จักปรับตัวใน 3 เรื่อง นั่นคือ ต้องมีความคล่องตัว หรือ Agility พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ต้องมี Analytical Skill สามารถวิเคราะห์ได้ และสุดท้ายคือ ต้องเข้าใจและใช้เทคโนโลยีได้
KPMG เปิดโอกาสให้กับทุกคนที่มีความสามารถ
เจริญ เล่าว่า การมารับตำแหน่ง CEO ของ KPMG ดูแลทั้งไทย เมียนมาร์ และ ลาว ต้องยอมรับว่ามี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกโชคดีที่ได้รับโอกาสในการทำงานสำคัญ ได้พัฒนาทักษะต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และส่วนที่สอง ได้รับการสนับสนุนให้มาทำหน้าที่นี้ ซึ่ง ส่วนตัวไม่ได้จบมหาวิทยาลัยระดับท็อปหรือจบจากต่างประเทศ
นั่นแสดงให้เห็นว่า KPMG ให้โอกาสทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นสิ่งยืนยันว่าลูกค้าทุกรายจะได้รับบริการที่ดีที่สุด
ปัจจุบัน KPMG ให้บริการมาเป็นปีที่ 81 แล้ว มองย้อนอดีตไป นี่คือ องค์กรที่อยู่อย่างยั่งยืน ได้รับการยอมรับ มีความน่าเชื่อถือ ด้วยบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ พร้อมทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูกค้ามาโดยตลอด
ถ้าลูกค้าคือคนขับรถ ต้องการไปให้ถึงจุดหมาย KPMG คือ Navigator ที่พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้ลูกค้าไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา