หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บรรดาแฟนคลับสายซัพพอร์ตศิลปินเกาหลีซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ออกมาประท้วงในปัจจุบัน ตามข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและองคาพยพลาออก ตลอดจนแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปการศึกษา การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ ฯลฯ พวกเขาคือหนึ่งในกลุ่มคนที่ประสบปัญหาขณะเดินทางเพื่อไปชุมนุมประท้วง เนื่องจาก รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ทั้งรถไฟฟ้าลอยฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ต่างระงับการให้บริการหลังรัฐบาลขอความร่วมมือ ทำให้เกิดความไม่สะดวกขณะเดินทาง
ล่าสุด กลุ่มแฟนคลับเหล่านี้เริ่มหันหลังให้รถไฟฟ้า ที่เคยเป็นแหล่งโปรโมตศิลปินเกาหลีจำนวนมาก ด้วยการหันมาโปรโมตศิลปินผ่านรถโดยสารประเภทตุ๊กตุ๊กแทน โดยข้อมูลจากผู้ใช้ Twitter แอคเคาท์ @ferorina36 ระบุข้อมูลการรวบรวมราคาป้ายโปรโมตศิลปินท้ายรถตุ๊กตุ๊ก เพื่อเปลี่ยนมือจากการสนับสนุนนายทุนใหญ่ เป็นการกระจายรายได้สู่รายย่อยแทน โดยมีอัตราค่าบริการคร่าวๆ ดังนี้
วินรถตุ๊กตุ๊ก สถานีหัวลำโพง
- ราคาอยู่ที่ 300-400 บาทต่อคัน (รวมค่าติดป้าย)
- ไม่มีหัวคิว ป้ายให้ทำมาเอง
- เช่าเป็นระยะเวลา 1 เดือน
- ไม่มีขั้นต่ำในการติดป้าย จะติดกี่คันก็ได้ มีรถให้ติดป้ายประมาณ 30 คัน
วินข้าง MBK
- ผ่านหัวหัวหน้าวิน (เป็นคนจัดการ)
- ทำป้ายมาติดเอง ขนาด 1 x 0.50 เมตร
- อัตราค่าติดป้ายอยู่ที่ 600 บาท (รวมค่าติดป้าย)
- เช่าเป็นระยะเวลา 1 ดือน
- ไม่มีขั้นต่ำในการติดป้าย
- มีรถติดป้ายจำนวนมากกว่า 100 คัน
วินรถสองแถว BTS อุดมสุข
- ผ่านหัวหน้าวิน
- อัตราราคาอยู่ที่ 300 บาท
- เช่าเป็นระยะเวลา 1 เดือน
- ไม่มีขั้นต่ำในการติด
- มีรถจำนวน 15 คัน
- เป็นป้ายติดร่วมกับป้ายอื่น ไม่สามารถจองติดเดี่ยวทั้งคันได้
- ขนาด 1.80 x 0.40 เมตร
- อาจเรียกเก็บเพิ่ม*
เธรทนี้จะรวบรวมราคาป้ายโปรโมตศิลปินติดท้ายรถตุ๊กๆที่เราไปสำรวจมาวันนี้ เงื่อนไข ราคา และข้อกำหนดต่างๆ
เปลี่ยนจากสนับสนุนนายทุนใหญ่ มากระจายรายได้สู่รายย่อยกัน ป้ายเราจะได้วิ่งไปทั่วเมือง สยาม สามย่าน ฯลฯ
สนใจเจ้าไหน DM มาขอ Contact ได้ค่ะ#วันนี้เมนนั่งตุ๊กๆไปไหน pic.twitter.com/RRrttZYrFQ— Kang?Orm (@ferorina36) December 5, 2020
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจเคยรายงานไว้ในช่วงกลางปี 2561 ที่กำลังเป็นช่วงที่แฟนคลับมีความนิยมลงขันเช่าป้ายในพื้นที่รถไฟฟ้าใต้ดินนั้น ระบุว่า อัตราค่าใช้จ่ายจัดทำป้ายโฆษณาหรือค่าเช่าโฆษณาต่อเดือนของป้าย 3 ขนาด มีราคาดังนี้
- ขนาดใหญ่มีความกว้าง 6.12 x 2.12 เมตร ราคาอยู่ที่ 54,000 บาท
- ขนาดกลางมีความกว้างอยู่ที่ 3.06 x 1.56 เมตร ราคาอยู่ที่ 48,500 บาท
- ขนาดเล็กมีราคาอยู่ที่ 15,000 บาท
ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับทำเลของสถานี จองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 2 เดือน เช่าป้ายมีระยะเวลา 1 เดือน
รายได้สื่อโฆษณา MRT คิดเป็นสัดส่วน 5% ของธุรกิจหลัก แต่รายได้หลักมาจากการบริหารค่าทางด่วน
ถ้าพูดถึงรายได้สื่อโฆษณา MRT หรือรถไฟฟ้าใต้ดินนี้ เป็นรายได้ส่วนย่อยที่อยู่ภายใต้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM (Bangkok Expressway and Metro) ซึ่ง BEM ก่อตั้งในปี 2015 เป็นการควบรวมกิจการของบริษัททางด่วนกรุงเทพจำกัด (บริษัทร่วมของ บมจ. ช.การช่าง) และ บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ
ธุรกิจของ BEM มี 4 ประเภท คือ ทางพิเศษในเขต กทม. และปริมณฑลระยะทางรวม 88 กิโลเมตร, บริการรถไฟใต้ดิน (MRT) มีระยะทางรวม 70 กิโลเมตร จำนวน 54 สถานี, การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และสื่อโฆษณาในสถานี MRT ในเครือข่ายรถไฟฟ้ากรุงเทพหรือ BMN และการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค คือ บมจ. TTW และ บมจ. CK Power
รายได้ของ BEM แบ่งได้ดังนี้
- BEM เป็นผู้ให้บริการทางพิเศษครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เส้นทางเหล่านี้คิดเป็น 65% ของรายได้หลักทั้งหมดของบริษัท
- ธุรกิจรถไฟฟ้าใต้ดินคิดเป็น 30% ของรายได้ทั้งหมด ปัจจุบันให้บริการ 2 เส้นทางคือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เอกชนรับสัมปทานจัดเก็บรายได้จากการบริการทั้งหมดและจ่ายตอบแทนคืนรัฐตามที่ตกลง
- บริษัทและบริษัทย่อย (BMN) ปล่อยพื้นที่ให้เอกชนใช้ในการพาณิชย์และการโฆษณาในพื้นที่ โดยการให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Commercial Development: CD) สร้างรายได้เป็นสัดส่วน 5% (ปี 2018)
รายได้หลักของบริษัท BEM มาจากการดำเนินงานทางพิเศษภายใต้สัมปทาน 30 ปี สิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 จากรายงาน BEM: ผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนที่กำลังจะเติบโต ระบุไว้ว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงการบริหารของพรรคการเมืองที่รับผิดชอบอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งจะมีผลต่อการสัมปทาน
ผลการประชุมของ ครม. ชุดปัจจุบันในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็สรุปว่าเห็นชอบให้มีการต่อสัมปทาน BEM บริหารค่าผ่านทางด่วน 3 ฉบับเป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน สิ้นสุด 31 ตุลาคม 2578 ทั้งนี้เพื่อเป็นการแลกกับการยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นทั้งหมดรวม 17 คดี
รายได้สื่อโฆษณาใน BTS เป็นอย่างไร?
เมื่อพูดถึงรายได้สื่อโฆษณา BTS ก็เป็นธุรกิจที่แตกออกมาจากการก่อตั้งบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสรายแรกในไทยเมื่อปี 2533 มีผู้ก่อตั้งคือคีรี กาญจนพาสน์
จากนั้นในปี 2541 กวิน กาญจนพาสน์ ลูกชายของคีรีก็สร้างธุรกิจสื่อโฆษณาสำหรับรถไฟฟ้า BTS จึงก่อตั้งบริษัท วีจีไอ (VGI) ซึ่งปี 2542 วีจีไอได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการบริหารพื้นที่โฆษณาและพื้นที่เชิงพาณิชย์บนเครือข่ายบีทีเอสทั้งหมด สิทธิ์นี้หมดอายุเดือนธันวาคม 2572 จากนั้นจึงขยายธุรกิจสื่อโฆษณาไปยังรถโดยสารประจำทาง BRT ทั่ว กทม. ในปี 2553
รายได้ของ VGI แบ่งได้ดังนี้
-
- ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ที่แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
- สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน
- สื่อโฆษณากลางแจ้ง
- สื่อโฆษณาในอาคารและสำนักงานอื่นๆ
- ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ที่แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
- ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล
ปี 2560/61 | ปี 2561/62 | ปี 2562/63 | |
รายได้จากบริการ | 3,936 ล้านบาท | 3,611 ล้านบาท | 4,000 ล้านบาท |
ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน | |||
สื่อโฆษณาขนส่งมวลชน | 2,262 ล้านบาท | 2,405 ล้านบาท | 2,184 ล้านบาท (-9.2% YOY) |
สื่อโฆษณากลางแจ้ง | 958 ล้านบาท | 265 ล้านบาท | 294 ล้านบาท (+11.1% YOY) |
สื่อโฆษณาในอาคารฯ | 338 ล้านบาท | 412 ล้านบาท | 371 ล้านบาท (-9.9% YOY) |
ธุรกิจบริการดิจิทัล | 378 ล้านบาท | 529 ล้านบาท | 1,151 ล้านบาท (+117.5% YOY) |
บริษัท VGI พลิกธุรกิจในช่วงปี 2560 จากการให้เช่าพื้นที่สื่อโฆษณา กลายเป็นผู้ให้บริการ Offline-to-Online (O2O) ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา บริการชำระเงินและโลจิสติกส์แบบ ecosystem ทำให้ปี 2562/2563 สร้างรายได้อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 1,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% YOY
อย่างไรก็ดี แนวโน้มสำหรับปี 2563/2564 คาดว่าธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI จะได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด สื่อออนไลน์จะได้รับผลบวกมากขึ้น ธุรกิจชำระเงินทั้งออฟไลน์และออนไลน์จะได้รับผลกระทบที่มีผู้โดยสาร BTS ลดลง ขณะที่ธุรกิจโลจิสติกส์ผ่านการบริหารของ Kerry Express คาดว่าจะเติบโตหลังคนหันมาใช้บริการอีคอมเมิร์ซมากขึ้น
สรุป
รายได้บริษัทแม่ที่ดูแล MRT ส่วนใหญ่รายได้หลักมาจากการบริหารการทางพิเศษไม่ใช่รายได้จากสื่อโฆษณา ขณะเดียวกัน BTS ก็มีรายได้สื่อโฆษณาขนส่งมวลชนมีทิศทางลดลง เหตุผลสำคัญมาจากโควิดระบาด อีกทั้งคนลดการใช้งานลงด้วย แต่รายได้ใหม่ที่เป็นธุรกิจดิจิทัลก็พลิกมาเป็นบวกเติบโตอย่างก้าวกระโดดเกิน 100% ทำให้ได้กำไรและมีรายได้สูงกว่าที่เคยมีมา
การกระจายรายได้ของกลุ่มแฟนคลับศิลปินเกาหลีน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจรายย่อยที่มีรายได้ไม่มากนักหากเทียบกับการเช่าพื้นที่ใน MRT และ BTS ที่ต้องเสียค่าเช่าในจำนวนมาก อีกทั้ง รถตุ๊กตุ๊กยังถือเป็นสัญลักษณ์หลักที่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึงเมืองไทยเสมอ เหมือนที่เรามักจะคุ้นตากับสัญลักษณ์รถตุ๊กตุ๊กที่ส่วนใหญ่คนนำมาขายเป็นของที่ระลึกว่ามาจากเมืองไทย และครั้งหนึ่งที่มีการประกวด Miss Universe ประจำปี 2015 ก็เคยได้รางวัลชนะเลิศชุดแต่งกายประจำชาติเป็นชุดตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์มาแล้ว
ที่มา – BEM, ประชาชาติธุรกิจ, กรุงเทพธุรกิจ, VGI (1), (2)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา