ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ถอดถอน Park Geun-hye พ้นประธานาธิบดี เตรียมเลือกตั้งใหม่ 9 พ.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้ มีมติเป็นเอกฉันท์ วันที่ 10 มี.ค. 2560 ให้ถอดถอน Park Geun-hye ประธานธิบดีคนที่ 17 ของเกาหลีใต้ พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต คอรัปชั่นที่ส่งผลเสียต่อเกาหลีใต้มาหลายเดือน

ขอบคุณภาพจาก koreaherald.com

ประธานาธิบดีหญิงคนแรก-ถูกถอดถอนครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ถือเป็นคดีถอดถอนประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ แต่เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกถอดถอนสำเร็จ ซึ่งจากการละเมิดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย มีความเป็นไปได้ที่ Park Geun-hye อาจถูกเนรเทศออกนอกประเทศอย่างถาวร

โดยคำตัดสินดังกล่าว ถือเป็นที่สุดและไม่สามารถยื่นอุทธรณ์หรือ เปลี่ยนแปลงได้แล้ว จากนี้จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ภายใน 60 วัน หรือจะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. 2560

สำหรับการถอดถอนครั้งนี้ เริ่มจากที่มีประเด็นอื้อฉาวระหว่าง Park Geun-hye กับ Choi Soon-sil ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากนั้น รัฐสภา ได้ลงมติให้มีการฟ้องร้องเพื่อถอดถอนเธอในวันที่ 9 ธ.ค. 2559 หลังจากที่มีการชุมนุมเดินขบวนครั้งใหญ่นานหลายสัปดาห์ เรียกร้องให้เธอลาออกจากตำแหน่ง

ประเด็นการคอรัปชั่นและเรื่องอื้อฉาวที่เป็นส่วนสำคัญคือ การให้เพื่อนสนิท (Choi Soon-sil) ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องและแทรกแซงการทำงานของรัฐ รวมถึงทั้ง 2 ได้ร่วมกันรีดไถเงินบริจาคจากบริษัทเอกชนเพื่อแลกกับนโยบายต่างๆ

ผลการวินิจฉัยและมีคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ส่งผลให้ Park Geun-hye พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีในทันที และต้องเก็บของย้ายออกจาก Blue House หรือ ชองวาแด ทำเนียบของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในทันทีเช่นกัน

รวมถึงเธอจะไม่ได้รับผลประโยชน์หรือเงินบำนาญใดๆ ทั้งสิ้น จากปกติตามกฎหมายแล้ว หลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจะได้เงินบำนาญ 95% ของรายได้ทั้งปี ซึ่งกรณีของ Park Geun-hye จะได้รับประมาณ 12 ล้านวอน หรือ 10,300 ดอลลาร์ต่อเดือน รวมถึงสิทธิ์อื่นๆ เช่น รักษาพยาบาลฟรี ผู้ช่วย 3 คนและคนขับรถ และหากเสียชีวิตจะมีพิธีศพที่สุสานแห่งชาติ

ขอบคุณภาพจาก koreaherald.com

อาจโดนคดีอาญาต่อ

หลังจากนี้ Park Geun-hye อาจถูกสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวต่างๆ และนำไปสู่การฟ้องร้องทางคดีอาญา จากก่อนหน้านี้ ที่เธอปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์หรือให้ปากคำใดๆ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ถ้ามีการออกหมายจับ ก็จะไม่สามารถปฏิเสธได้อีก

เธอยังถูกกล่าวหาว่า เป็นส่วนสำคัญในการเรียกเงินสินบนจากกลุ่มบริษัท Samusng ที่มีการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลให้มีการสนับสนุนการควบรวมกิจการในเครือ 2 แห่ง เมื่อปี 2015

นอกจากนี้ อัยการ ยังได้จับกุมและฟ้องร้องบุคลที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน รวมถึง Choi Soon-sil เจ้าหน้าที่และเพื่อนสนิทของ Park Geun-hye และก่อนหน้านี้ได้จับกุม Lee Jae-yong ทายาทของซัมซุง

กลุ่มขบวนการขับไล่ Park Geun-hye ที่ประกอบด้วย 82 องค์กรเอ็นจีโอ ยืนยันว่า ขั้นต่อไป Park Geun-hye จะต้องรับโทษโดยการเข้าคุก ดูจากคำวินิจฉัยและคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เป็นสิ่งที่สะท้อนความต้องการของประชาชนได้อย่างชัดเจน

ภาพผู้เดินขบวนประท้วง จาก Wikipedia

Queen of Elections

สำหรับ Park Geun-hye ชนะการเลือกตั้งทั่วไป รับตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เดือน ก.พ. 2013 ถือเป็นผู้นำหญิงจากเอเชียตะวันออกคนแรก แต่ก็ไม่ได้รับการคาดหวังอะไรมากนักเกี่ยวกับบทบาทในการเพิ่มบทบาทของผู้หญิง และความเท่าเทียมกันทางสังคมในเกาหลีใต้

ยิ่งกว่านั้นคนเกาหลีใต้หลายคนยังตั้งคำถามเกี่ยวกับ การที่ Park Geun-hye เป็นลูกสาวของนายพล Park Chung-hee ประธานาธิบดีที่ใช้อำนาจแบบเผด็จการยาวนานกว่า 18 ปี

สำหรับเส้นทางการเมือง Park Geun-hye เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค GNP ในปี 2541 และได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากคนที่ชื่นชอบพ่อของเธอ จากนั้น Park Geun-hye ยังสามารถนำพาพรรค GNP คว้าที่นั่งในสภาคะแนนเสียง 121 จาก 299 ที่นั่งในรัฐสภา และทำให้เธอได้ฉายาว่า “Queen of Elections” ขณะที่พรรค Uri ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 152 ที่นั่ง แต่ก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะคว้าได้ 200 ที่นั่ง

ที่มา: http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20170310000352

http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20170310000167

http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20170310000500

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา