ก่อนหน้านี้ชื่อ Konami อาจรู้จักแค่ฝั่งผู้ผลิตเกม แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะทางบริษัทเริ่มหันไปรุกตลาดอื่นมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือสินค้าตู้คาสิโนที่จำหน่ายไปทั่วโลก และตู้รุ่นใหม่นั้นทำยอดเติบโตในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง
ต่อยอดการเติบโตในฝั่งธุรกิจอื่นๆ
สำหรับตู้คาสิโนรุ่นใหม่ของ Konami มีชื่อว่า All Aboard ถูกติดตั้งในคาสิโนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ด้วยหน้าจอที่มีลักษณะคล้ายกับตัวอักษร J และความคมชัดระดับ 4K ทำให้ดึงดูดผู้เล่นเป็นจำนวนมาก โดยมีการใช้บริการมากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ/วัน และเฉลี่ยแล้วจะให้รางวัลกับผู้เล่นมากกว่า 1,000 ดอลลาร์/วัน
ถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจ Gaming & Systems ที่มีแนวโน้มเติบโต แม้ในไตรมาส 1 ของปีปฏิทิน 2564 ที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือนมิ.ย. 2563 ตัวธุรกิจดังกล่าวจะได้ระบผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากคาสิโนทั่วโลกต้องปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรค COVID-19
ทั้งนี้รายได้ในไตรมาส 1 ปีปฏิทิน 2564 ของ Konami ปิดที่ 52,900 ล้านเยน ลดลง 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นธุรกิจ Digital Entertainment (เกมต่างๆ) 42,800 ล้านเยน, Amusement 2,900 ล้านเยน, Gaming & Systems 3,000 ล้านเยน และ Sports 4,700 ล้านเยน
ขณะเดียวกันกำไรจากการดำเนินงานของ Konami อยู่ที่ 6,800 ล้านเยน ลดลง 32.4% และยังไม่เปิดเผยการคาดการณ์ทั้งปีปฏิทิน 2564 เพราะความไม่แน่นอนของ COVID-19 ส่วนแผนหลังจากนี้ Konami เตรียมเปิดตัวเกมฟุตบอลภาคเสริมของ PES และตู้คาสิโนในรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติม
สรุป
Konami เริ่มรุกตลาดอื่นๆ ที่ไม่ต้องอาศัยการพัฒนาเกมที่ใช้งบประมาณสูง และสามารถช่วยให้ภาพรวมธุรกิจยังเติบโตได้ ดังนั้นภาพลักษณ์ของ Konami อาจค่อยๆ เปลี่ยนไป แม้ช่วง COVID-19 ธุรกิจเกมยังมีรายได้มากที่สุดอยู่ แต่หลังจากนี้มันอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา