ตอนนี้ใครๆ ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องมีหยิบ Kit Kat รสชาติแปลกๆ กลับมาฝากเพื่อนฝูง และญาติพี่น้องกันบ้าง ซึ่งเหตุนี้เองทำให้ Nestle ตัดสินใจขยายโรงงานผลิต Kit Kat แห่งใหม่ เพื่อรับกับความต้องการ และสร้างการเติบโตของยอดขาย
เปิดโรงงาน Kit Kat แห่งที่สองในรอบ 26 ปี
แม้จะเข้ามาทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นกว่า 4 ทศวรรษ แต่ Kit Kat ก็เพิ่งมีโรงงานในแดนอาทิตย์อุทัยเมื่อ 26 ปีก่อน และโรงงานดังกล่าวก็ผลิต Kit Kat ทั้งรสชาติธรรมดาที่เป็นขนมเวเฟอร์เคลือบช็อคโกแลต และรสชาติอื่นๆ ที่มปัจจุบันมีกว่า 300 รสชาติ ทั้งวาซาบิ, ชาเขียว, เหล้าสาเก และล่าสุดกับรส Custard Pudding รวมถึงรสขิง
แต่ด้วยความต้องการขนม Kit Kat รสชาติต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการบริโภคในประเทศ และนักท่องเที่ยวซื้อกลับไปเป็นของฝาก ทำให้ Nestle เจ้าของ Kit Kat ลงทุนสร้างโรงงานผลิต Kit Kat แห่งที่สองขึ้นมาในเมืองฮิเมจิ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มผลิตได้ตั้งแต่เดือนส.ค. และจะเน้นผลิต Kit Kat กลุ่มพรีเมียม รวมถึงสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง
ตัวอย่างเช่นขนม Kit Kat ที่จำหน่ายใน Kit Kat Chocolatory ที่ตั้งอยู่ใต้ดินของสถานทีรถไฟโตเกียว เพราะที่นั่นจะจำหน่าย Kit Kat เป็นกล่องอย่างดี พร้อมกับตั้งราคาสูงถึง 3,500 เยน หรือราว 1,000 บาท ซึ่งสูงกว่าแพ็คเกจปกติของ Kit Kat ถึง 10 เท่าตัวเลยทีเดียว
ทั้งนี้การจับจ่ายของนักท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั้นพุ่งสูงเป็นประวัติศาสตร์ถึง 2.5 ล้านล้านเยน หรือราว 7.5 แสนล้านบาท ในระยะเวลาเพียงครึ่งแรกของปี 2560 และการซื้อขนมต่างๆ ก็เติบโตถึง 3 เท่าตัวในรอบ 4 ปี ไปอยู่ที่ 1.3 แสนล้านเยน หรือราว 38,000 ล้านบาทในปี 2559
สรุป
Kit Kat แทบจะเป็นของฝากประจำประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว และเชื่อว่า Nestle เองก็คงคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ดังนั้นการสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่น่าจะเป็นแผนธุรกิจที่ชัดเจนของยักษ์ใหญ่สินค้าบริโภครายนี้ และคงสร้างการเติบโตได้อย่างไม่ยาก เพราะปัจจุบันการบริโภค Kit Kat ในประเทศญี่ปุ่นก็ถือเป็นอันดับที่สองของโลกแล้ว
อ้างอิง // Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา