คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค มองตลาดทิชชูองค์กรยังโต ท่องเที่ยวฟื้น ออฟฟิศเปิด โรงพยาบาลใช้ต่อเนื่อง

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ย้ำตลาดทิชชูสำหรับองค์กรยังเติบโต แต่ไม่โตหวือหวาเหมือนช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาด เหตุการท่องเที่ยวฟื้นตัว ผู้คนไปทำงานที่สำนักงาน และโรงพยาบาลยังใช้งานต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเพียงพอ ย้ำราคายังเป็นปัจจัยหลักในการทำตลาด แต่องค์กรให้ความสำคัญสินค้าที่รักษ์โลก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค มองตลาดทิชชูองค์กรยังไปได้

จรุง กาญจนภูมิ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจองค์กร บริษัท คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมตลาดทิชชู และสินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัยสำหรับลูกค้าองค์กรยังเติบโตได้ดี เนื่องจากภาคธุรกิจเริ่มฟื้นตัวกลับมาจากช่วงวิกฤติโควิด-19 และยังมีความต้องการในสินค้านี้อย่างต่อเนื่อง

“ภาพรวมอุตสาหกรรมนี้เป็นไปตามภาพรวมเศรษฐกิจไทย ช่วงโรคโควิด-19 อาจซบเซาไปบ้าง แต่ทุกอย่างเริ่มกลับมาดีขึ้น เพียงแต่ไม่เหมือนเดิมที่เคยโตก้าวกระโดดเมื่อ 5-10 ปีที่แล้ว เพราะการเติบโตในตอนนี้จะค่อยเป็นค่อยไป และยังแปรผลตามตัว GDP ของประเทศไทย”

ปัจจัยในการเติบโตของตลาดทิชชู และสินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัยสำหรับลูกค้าองค์กรมีความคล้ายกับสินค้าอุปโภคบริโภค หรือ Consumer Goods ที่ต้องอาศัยความมั่นใจในการจับจ่ายของผู้บริโภค แต่ภาคธุรกิจยังมีเรื่องเศรษฐกิจมหภาคที่เข้ามามีผลต่อการใช้จ่ายในองค์กรอีกด้วย

ราคาเป็นจุดหนึ่ง แต่คุณค่าของสินค้าก็สำคัญ

จรุง เสริมว่า จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว, โรงงาน และองค์กรอื่น ๆ ในประเทศไทย ทำให้สินค้าของบริษัทมียอดจำหน่ายมากขึ้น โดยปัจจัยหลักในการเลือกซื้อยังมาจากราคา แต่องค์กรต่าง ๆ ในตอนนี้ยังพิจารณาเรื่องประสิทธิภาพของสินค้า และการตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิม

“เรื่องราคาเป็นจุดหนึ่ง แต่เราเน้นที่คุณค่าที่ลูกค้าได้ ซึ่งตอนนี้ที่มาแรงคือสิ่งแวดล้อม กับประสิทธิภาพในเรื่องสุขอนามัยที่เป็นกระแสต่อเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่กับความคุ้มค่าในการลงทุนที่บริษัทพัฒนาเครื่องจ่ายกระดาษชำระ และวัสดุเช็ดทำความสะอาดให้เพียงพอต่อการใช้งาน 1 ครั้งมากขึ้น”

ปัจจุบัน คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ทำตลาดกับลูกค้าองค์กรผ่าน 4 แบรนด์สินค้าประกอบด้วย Kleenex, Scott, WypAll และ Kimtech โดยสองแบรนด์หลังจะเน้นทำตลาดวัสดุเช็ดทำความสะอาดที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม ส่วนสองแบรนด์แรกจะค่อนข้างคุ้นชื่อเพราะอยู่ในตลาดฝั่งผู้บริโภคมายาวนาน

นโยบายสิ่งแวดล้อมช่วยเปลี่ยนใจลูกค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่องค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพื่อเดินหน้านโยบาย Net Zero หรือ Carbon Neutral ทำให้คู่ค้าระดับองค์กรต้องพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์เรื่องดังกล่าวเช่นกัน เพราะหากทำได้ย่อมสามารถเติบโตไปในนโยบายดังกล่าวได้

อ้างอิงข้อมูลบนเว็บไซต์ คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค พบว่า บริษัทใช้เส้นใยในผลิตภัณฑ์กระดาษชำระที่มาจากแหล่งผลิตที่ผ่านการรับรองเรื่องความยั่งยืน และ 97% ของของเสียจากการผลิตไม่ถูกนำไปฝังกลบ และมีแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากทั่วโลก 50% ภายในปี 2030

คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทยได้ แต่ในระดับโลก คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค มีการเติบโตของธุรกิจองค์กร หรือ K-C Professional ในไตรมาส 1 ปี 2024 ที่ 2% น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เติบโตถึง 11% มีกำไรจากการดำเนินงาน 22.8%

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา