ไม่ว่าจะสบายดี หรือเจ็บป่วย เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก และเคยได้ยินชื่อของ ยากฤษณากลั่น, ยาธาตุ ๔, อุทัยทิพย์, โบตัน และทัมใจ ไม่มากก็น้อย แต่รู้หรือไม่ว่าย าเหล่านี้ทำตลาดภายใต้แบรนด์เดียวกันคือ ตรากิเลน
ตรากิเลน เป็นแบรนด์สินค้าสมุนไพรไทยจีนที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 132 ปี มีเจ้าของคือ เต๊ก เฮง หยู หรือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ที่สำคัญยาสมุนไพรดังกล่าวแทบไม่มีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์นับตั้งแต่เริ่มจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน
แม้จะได้รับความนิยมต่อเนื่อง แต่ด้วยกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ตรากิเลน จึงขอลุกขึ้นมารีแบรนด์ครั้งใหญ่เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ให้เข้าถึง และเติบโตในโลกยุคใหม่ได้ดีขึ้น ส่วนจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ติดตามกันได้ในบรรทัดถัดไป
ตรากิเลน แบรนด์ยาเก่าแก่คู่คนไทยมา 132 ปี
เริ่มที่การทำความรู้จักกับ ตรากิเลน กันก่อน ยาสมุนไพรไทยจีนแบรนด์นี้มีเกิดขึ้นเมื่อปี 2434 หรือ 132 ปีก่อน ที่เวลานั้น แป๊ะ แซ่ลิ้ม (ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัท โอสถสภาฯ) เวลานั้นตรงกับช่วงปัญหาโรคท้องร่วง (อหิวาต์) ที่มักระบาดช่วงฤดูแล้งเป็นประจำ เขาจึงนำตำรายาของบรรพบุรุษมาทำยาแก้ท้องร่วงให้ญาติ และคนจนละแวกเดียวกัน
ปรากฏว่าสามารถบำบัดอาการโรคท้องร่วงของผู้ป่วยได้ทุกรายทำให้ตัวอย่างดังกล่าวได้รับความนิยมจนถึงขั้นทำแจกไม่ไหว มีผู้ขอร้องให้ทำออกจำหน่าย เขาจึงตัดสินใจผลิตยาแก้ท้องร่วงตัวนี้เพื่อจำหน่าย พร้อมตั้งชื่อว่า ยากฤษณากลั่น มี ตรากิเลน เป็นเครื่องหมาย ซึ่งผู้คนสมัยนั้นเรียกว่า ยากฤษณากลั่น ตรากิเลน รวมถึงเปิดตึกเล็ก ๆ เพื่อทำเป็นร้านขายยาที่ใช้ชื่อว่า เต๊ก เฮง หยู
พ.ศ. 2455 กองเสือป่าเสนาหลวงได้โดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ไปซ้อมรบที่ตำบลดอนเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เมื่อไปถึงกำแพงแสน เสือป่าส่วนมากได้ป่วยเป็นโรคท้องร่วงอย่างแรง ผู้ที่มียากฤษณากลั่น ตรากิเลน ติดตัว ได้ให้ผู้ป่วยรับประทานก็หายหมดทุกรายไม่มีใครเป็นอันตราย
จากกฤษณากลั่น สู่ตัวยาอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์คนไทย
เมื่อรัชกาลที่ ๖ ทรงทราบความ พระองค์จึงทรงแนะนำให้ทหารเสือป่าและประชาชนใช้ ยากฤษณากลั่น ตรากิเลน ไว้ในหนังสือพระราชนิพนธ์กันป่วย ทั้งทรงประทานเข็มเสือป่า และพระราชทานนามสกุล โอสถานุเคราะห์ มีความหมายว่า ช่วยเหลือด้วยยา ให้กับนาย แป๊ะ แซ่ลิ้ม
หลังจากความสำเร็จของยากฤษณากลั่น ตรากิเลน ได้ออกผลิตภัณฑ์ยาอื่น ๆ ออกมาจำนวนมาก และทำตลาดจนถึงปัจจุบัน เช่น โบตัน, ยาธาตุ ๔, อุทัยทิพย์ และทัมใจ รวมถึงยากฤษณากลั่น ซึ่งยาสมุนไพรไทย-จีนเหล่านี้คงบรรจุภัณฑ์แบบดั้งเดิมไว้ และยังคงได้รับความนิยมไม่เปลี่ยนแปลงจากอดีต
แสดงให้เห็นถึงการทำตลาดอย่างยั่งยืนผ่านคุณสมบัติเด่นด้วยประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ตรากิเลนที่รับประกันที่ซื้อใจผู้บริโภคตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยความหมายของ ตรากิเลน ที่ปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของสินค้า กิเลน คือสัตว์มงคลจากสวรรค์ตามตำนานของจีน ปรากฏในที่อุดมสมบูรณ์, พระอาทิตย์ คือแสงสว่างของชีวิต และคัมภีร์ที่กิเลนถืออยู่ คือความรู้ของนักปราชญ์
เก่า และเก๋า แต่ขอรีแบรนด์ให้ตามสมัย
ถึงจะคงบรรจุภัณฑ์แบบเดิมมา 132 ปี แต่ถึงเวลาที่ ตรากิเลน จะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยครั้งนี้ ตรากิเลน เลือกร่วมมือกับ ยูน – ปัณพัท เตชเมธากุล ศิลปินไทยผู้รังสรรค์ดีไซน์ใหม่ของผลิตภัณฑ์ในสไตล์โมเดิร์นวินเทจให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
เริ่มต้นด้วยการออกแบบภาพรวมผลิตภัณฑ์ ยาสีฟันโบตัน ที่แตกต่างทั้งสีสัน และการออกแบบโลโก้ใหม่ ตามด้วยการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ของ 5 สินค้าเรือธงของ ตรากิเลน ไม่ว่าจะเป็น ยากฤษณากลั่น, ยาธาตุ ๔, อุทัยทิพย์, โบตัน และทัมใจ โดยเน้นเรื่องยกระดับภาพจำของสินค้าให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ แต่คงเอกลักษณ์ที่ถูกจดจำไว้เช่นเดิม
นอกจากนี้เพื่อเพิ่มดีกรีการสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในคนรุ่นใหม่ ตรากิเลน จัดงาน Kilane Crimson Garden ในงานเทศกาลออกแบบ Bangkok Design Week 2023 โดยงานดังกล่าวมีการจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ เผยโฉมบรรจุภัณฑ์ใหม่เปิดตัวเป็นครั้งแรก ทั้งนำสินค้ามาประยุกต์ผสมเป็นเมนูเครื่องดื่ม และขนม เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับแบรนด์อีกขั้น
อนาคต ตรากิเลน แบรนด์ที่เป็นมากกว่าแค่ยา
การที่ ตรากิเลน ประกาศรีแบรนด์ในรอบ 132 ปี ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตในธุรกิจยาสมุนไพรไทยจีนได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยแต่ละสินค้าที่มีคุณสมบัติเด่นของตัวเอง เช่น
- กฤษณากลั่น: แก้ท้องเสีย ปวดท้อง
- ยาธาตุ ๔: แก้ท้องอืด จุกเสียด
- โบตัน: หอมสดชื่น ชุ่มคอ
- อุทัยทิพย์: แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
- ทัมใจ: บรรเทาอาการปวดหัว ปวดฟัน ปวดกล้ามเนื้อ
เมื่อประกอบกับการรีแบรนด์ให้ทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ สินค้าเหล่านี้ย่อมยังอยู่ในช่วงชีวิตการเติบโตของพวกเขา เหมือนที่รุ่นพ่อแม่ได้รับจากปู่ย่าตายาย เรียกได้ว่า ตรากิเลน เป็นมากกว่าแค่แบรนด์ยาสมุนไพรไทยจีน เพราะคือแบรนด์สินค้าที่พร้อมช่วยเหลือทุกคนเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย และพร้อมดำรงชีวิตต่อไปได้ในโลกยุคนี้
ปัจจุบัน ตรากิเลน ถูกจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และลูกอม ของ บมจ. โอสถสภา ซึ่งต้องติดตามกันว่า หลังจากรีแบรนด์ ตรากิเลน จะมีสินค้าใหม่ออกมาอีกหรือไม่
สรุป
ตรากิเลน เป็นจุดเริ่มต้นของ บมจ. โอสถสภา และถ้าตัวยาไม่ดี ก็คงจำหน่ายมาเป็น 132 ปี ไม่ได้ ดังนั้นการลุกขึ้นมารีแบรนด์ ตรากิเลน ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตให้แบรนด์ ผ่านการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ และทำให้ ตรากิเลน เติบโตอย่างยั่งยืนเหมือนดังที่เคยทำได้ตั้งแต่เริ่มธุรกิจ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา