เรียกว่าสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นประมาณหนึ่งเลยทีเดียว หลังรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE พบว่าซอสถั่วเหลือง Kikkoman มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และประกาศห้ามจำหน่ายซอสตัวนี้เป็นการทั่วไป
คนกินงง ร้านอาหารก็ทำตัวไม่ถูก
การตรวจพบส่วนผสมแอลกอฮอล์ภายในซอสถั่วเหลือง Kikkoman เริ่มต้นจากการสุ่มตรวจของรัฐบาล UAE ภายใต้กระทรวงสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Environment and Climate Change) ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเบื้องต้นตรวจพบแอลกอฮอล์ในซอส Kikkoman ก็ได้เรียกทีมวิจัยที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้มาตรวจอีกรอบ และผลลัพท์ก็เหมือนเดิม
เมื่อตรวจพบ ทางรัฐมนตรีของกระทรวงดังกล่าว ก็ประกาศห้ามจำหน่ายซอส Kikkoman เป็นการทั่วไป เพราะขัดกฎหมายการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยใครจะขาย หรือให้บริการได้ ต้องเป็นร้านค้า, โรงแรม หรือผับบาร์ที่ได้รับใบอนุญาต รวมถึงต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ซึ่งร้านอาหารญี่ปุ่น และร้านอื่นๆ ที่ใหบริการ Kikkoman อยู่ก็เริ่มทยอยเอาออกจากร้านแล้ว
ที่ซอส Kikkoman มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ขึ้นมาได้ ก็เพราะใช้กรรมวิธีการบ่มเหมือนกับไวน์ และเบียร์ ผ่านส่วนผสมถั่วเหลือง, แป้ง, เกลือ และน้ำ ซึ่งระหว่างขั้นตอนการหมัก (Fermentation) ตัวแป้งก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ซึ่งน้ำตาลที่ได้ส่วนหนึ่งก็จะกลายเป็นแอลกอฮอล์ด้วย โดยทางเจ้าของ Kikkoman บอกว่า แอลกอฮอล์ช่วยเพิ่มรสชาติกลมกล่อม
1.5-2% คือดีกรีแอลกอฮอล์ภายในขวด
สำหรับแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในซอส Kikkoman แต่ละขวดนั้นมีปริมาณเพียง 1.5-2% ของปริมาณซอสในแต่ละขวด แต่รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลับบอกว่า ค้นพบเจอแอลกอฮอล์เพียงบางล็อตผลิตที่นำเข้ามา แต่ไม่ได้บอกว่าผลิตมากจากโรงงานที่ประเทศใด เพราะปัจจุบันซอสตัวนี้มีโรงงานที่จีน และสหรัฐอเมริกา นอกจากที่ญี่ปุ่น
ฝั่งเซฟ และร้านอาหารญี่ปุ่นใน UAE ต่างประหลาดใจกับการห้ามจำหน่าย Kikkoman เป็นอย่างมาก เช่นร้าน Prax’s Restaurant ก็มี Kikkoman เป็นซอสที่ใช้ในการเสิร์ฟอาหารแต่ละจานมากว่า 15 ปีแล้ว และบางร้านก็เริ่มหันไปใช้ซอสถั่วเหลือที่ผลิตโดยทางร้านเอง พร้อมได้รับใบอนุญาตจำหน่ายจากรัฐบาลบ้างแล้ว โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น
การจำหน่ายตลาดโลกยังแข็งแกร่ง
ในไตรมาสแรกของปีนี้ Kikkoman ประกาศว่า บริษัทน่าจะมีผลกำไรเติบโตในปีนี้ที่ 14.6% หรือปิดที่ 9,700 ล้านเยน หรือราว 2,900 ล้านบาท ผ่านยอดขายในไตรมาสแรกที่ทำได้ดีถึง 1.06 แสนล้านเยน หรือราว 32,000 ล้านบาท มากกว่าเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 8.1% และยอดขายในต่างประเทศค่อนข้างแข็งแกร่ง เช่นฝรั่งเศส และอินโดนีเซีย จนยอดขายจากช่องทางนี้เพิ่ม 21.2% ส่วนในประเทศญี่ปุ่นเพิ่ม 6.6%
สรุป
แม้จะมีแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย แต่ถ้าผิดก็คือผิด ดังคงต้องรอดูต่อไปว่า Kikkoman จะปรับเปลี่ยนสูตรหรือไม่ เพราะประเทศอื่นๆ ที่เคร่งเครียดเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีเยอะ และถึงจะไม่เคร่ง แต่คนที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนก็คงศูนย์เสียโอกาสทางธุรกิจไปจำนวนมาก
อ้างอิง // The National, Financial Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา