สัมภาษณ์คุณเต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก: ธุรกิจสื่อวันนี้ เหมือนสงครามโลกครั้งที่สาม ต้อลงมือทำให้เต็มที่ ด้วยคุณภาพที่ดี

ในวันที่วงการ ‘สื่อ’ ยังอยู่ท่ามกลางพายุความไม่แน่นอน ทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัว พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว และงบโฆษณาที่ไม่ได้ฟื้นตัวเต็มร้อย 

แต่สำหรับผู้เล่นรายใหญ่ที่อยู่มานานอย่าง ‘กันตนา กรุ๊ป’ กลับเชื่อว่า ถึงเวลาแล้วที่คนในอุตสาหกรรมต้องลุกขึ้นมาทำ แทนที่จะรอปาฏิหาริย์ และทำให้มีคุณภาพที่ดี เพื่อไปได้ทุกแพลตฟอร์ม

Brand Inside ได้มีโอกาสคุยกับ ‘เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก’ รองประธานกรรมการบริหาร ด้านงานสร้างสรรค์ ‘กันตนา กรุ๊ป’ ถึงวงการสื่อในปัจจุบัน รวมถึงมุมมองการทำคอนเทนต์

ธุรกิจสื่อวันนี้ เหมือนอยู่ในสงครามโลกครั้งที่สาม

“ก็ไม่ค่อยดีหรอก อย่างที่รู้กัน เราอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่สามก็ว่าได้”

นี่คือสิ่งที่ ‘เต้’ บอกกับ Brand Inside เมื่อถามถึงการทำสื่อในยุคนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดัน ที่ไม่มีใครทำนายได้ โดยเฉพาะตั้งแต่โควิด-19 ที่เปลี่ยนเกมทุกวงการ ไปจนถึงเศรษฐกิจ และสังคมที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ 

ซึ่งพฤติกรรมการเสพสื่อของคนไทย ยังชอบคอนเทนต์ ‘วาไรตี้’ และ ‘เรียลลิตี้’ ที่คุ้นเคยอยู่เสมอ แม้ช่องทางการเสพสื่อที่เปลี่ยนไป คนหันมาดูคอนเทนต์ออนไลน์มากขึ้น ดูทีวีน้อยลง แถมยังมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา

แต่ข้อจำกัดสำหรับผู้ผลิตก็คือ เม็ดเงินที่น้อยลง ต้นทุนที่สูงขึ้น และลูกค้าที่คาดหวังมากขึ้น สิ่งที่ ‘กันตนา’ ทำได้คือ ใช้ทรัพยากรให้คุ้มที่สุด ผลิตงานที่มีคุณภาพระดับโลก ในงบที่มีจำกัด

Content is King, but Quality is Queen

Brand Inside ถาม ‘เต้’ ต่อว่า การทำสื่อยุคนี้ควรเน้นออนไลน์มากขึ้นใช่มั้ย เพราะคนหันมาดูทางออนไลน์มากขึ้น

‘เต้’ ตอบกลับสั้นๆ ว่า “คอนเทนต์คือพระราชา แต่คุณภาพคือพระราชินี” (Content is King, but Quality is Queen) ถ้าคอนเทนต์มีคุณภาพดีจริง ไม่ว่าจะอยู่ช่องทางไหนก็ปังได้ แถมอยู่ได้ทุกยุค ไม่ว่าคนดูจะดูผ่านทีวีหรือออนไลน์

เหมือนกับ ‘The Face Thailand’ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากทีวี แต่กลับเป็นที่รู้จักในแวดวงออนไลน์ กลายเป็นมีม กระแสไวรัลที่อยู่กับคนไทยมานาน 10 ปีแล้ว

“อย่าทำคอนเทนต์แบบวันต่อวัน ให้มันมีอายุอยู่ได้ยาวๆ ขอให้ทำให้ดีที่สุดก่อน ความรักจากคนดูจะตามมาเอง”

การทำงานกับกอง The Face Thailand ฉบับ ‘คุณเต้’

หนึ่งสิ่ง ‘เต้’ ให้ความสำคัญมากที่สุด คือการสร้างทีมงานที่รวมคนหลายเจเนอเรชัน เช่นในทีม The Face Thailand ที่มีคนรุ่นใหม่เกินครึ่ง ซึ่ง ‘เต้’ ย้ำว่า เป็นพลังสำคัญที่จะพาองค์กรไปข้างหน้า แต่ก็ไม่ใช่แค่การรับคนรุ่นใหม่เข้ามาแล้วจบ

“เด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามา เราต้องให้โอกาสเขาได้ลองผิดลองถูกจริงๆ ต้องใจเย็น อดทน ให้เขาได้โตในแบบของเขา ถ้าวันนี้เขาทำได้ วันหน้าจะได้ทำแทนเราได้”

เพราะงานสร้างสรรค์ขนาดใหญ่ ต้องการทั้งความสดใหม่ของไอเดีย และ ประสบการณ์จากคนเก่า เพื่อดูแลคุณภาพงานให้แข็งแรง ไม่สะดุดกลางทาง

‘เต้’ บอกว่าหัวใจสำคัญคือ ‘ความรับผิดชอบ’

“เด็กใหม่ต้องกล้ารับผิดชอบกับงานที่ใหญ่มากๆ ในแต่ละกองถ่าย ซึ่งอาจมีคนทำงานร่วมกันเป็นร้อย ทุกขั้นตอนต้องเป๊ะ และต้องมีพื้นที่ให้เขาเรียนรู้จนทำได้จริง”

และสิ่งหนึ่งที่ ‘เต้’ ย้ำเสมอคือ อย่าไปกดหรือคุมเขามากเกินไป เพราะคนรุ่นใหม่จะเติบโตได้ดี เมื่อเขาได้เป็นตัวของตัวเอง ได้ใช้วิธีคิดใหม่ๆ ที่คนรุ่นก่อนอาจไม่มี

The Face Thailand ซีซัน 6 การกลับมาที่ต้องดีกว่าเดิม

ท่ามกลางความท้าทาย ‘กันตนา’ เลือกปลุกรายการเรือธงอย่าง ‘The Face Thailand’ ให้กลับมาในรอบ 6 ปีในซีซั่นที่ 6 ในฐานะเรียลลิตี้ระดับตำนานที่เคยสร้างกระแสได้ถล่มทลาย

โดย The Face Thailand Season 6 มากับเมนเทอร์ทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ และ ‘แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์’ รวมทั้งเซอร์ไพรส์ใหญ่ ‘แอน ทองประสม’ ในบทบาทมาสเตอร์เมนเทอร์ด้วย

‘เต้’ ย้ำว่า ซีซัน 6 จะใช้กลยุทธ์เดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว เพราะโลกเปลี่ยน ลูกค้าก็เปลี่ยน ต้องแข็งแรงกว่าเดิม ถ้าหากไม่ปรับกลยุทธ์ รายการก็จะล้าหลัง ไม่สมกับการกลับมา

ส่วนการลดจำนวนตอนออกอากาศของ The Face Thailand ซีซั่นนี้ ไม่ได้เป็นเพราะวงการทีวีตกต่ำลง หรือลูกค้าซื้อโฆษณาน้อยลง แต่ ‘เต้’ บอกคือการปรับเพื่อเน้นคุณภาพ เผลอๆ โฆษณาเยอะขึ้นด้วย

อนาคตของสื่อไทย: ต้องช่วยกันสร้าง

‘เต้’ ฝากถึงคนในวงการว่า อนาคตสื่อไทยจะดีได้ก็ถ้าลุกกันขึ้นมาทำจริงๆ วิทยุ โทรทัศน์ ไม่มีวันตายหรอก แต่คนในวงการต้องไม่ทิ้งกัน พัฒนากันเอง อย่าอยู่เฉย ไม่งั้นก็ไม่มีอนาคตให้ลุกไปไหน

ปัจจุบัน ‘เต้’ ควบคุมรายการ The Face Thailand เป็นหลักรายงานเดียว ในฐานะ รองประธานกรรมการบริหาร ด้านงานสร้างสรรค์ ‘กันตนา กรุ๊ป’

ส่วนรายได้รวม-กำไรสุทธิของ ‘กันตนา กรุ๊ป’ Brand Inside ชวนเปิดงบกำไรขาดทุนย้อนหลัง 5 ปี

  • ปี 2567 รายได้ 156,409,902 บาท ขาดทุน 35,945,149 บาท
  • ปี 2566 รายได้ 175,937,495 บาท ขาดทุน 110,697,891 บาท
  • ปี 2565 รายได้ 245,320,430 บาท กำไร 63,222,351 บาท
  • ปี 2564 รายได้ 248,001,760 บาท ขาดทุน 58,080,391 บาท
  • ปี 2563 รายได้ 623,222,243 บาท กำไร 223,545,483 บาท

หมดยุคเฟื่องฟูสื่อทีวี: 5 ปีสุดท้าย ใครจะต่อสัมปทานบ้าง

ที่มา: งานแถลงข่าวรายการ The Face Thailand Season 6, Corpus X

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา