การขยายตัวของ KFC ในภูมิภาคเอเชียใต้ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มจำนวนสาขาให้มากขึ้นแต่ยังเป็นการรักษามาตรฐาน และประสบการณ์ของลูกค้าในทุกๆ สาขาทั่วประเทศอย่างมั่นคงด้วยการต้อนรับที่อบอุ่นการบริการที่มีคุณภาพสูงและการมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในทุกการเข้ามาใช้บริการโดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ KFC ได้สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรักษาค่านิยมในการให้บริการในแบบที่แตกต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด
Brand Inside ได้สัมภาษณ์ John Rutten – Chief Operation Officer KFC เอเชียใต้ถึงกลยุทธ์และการบริหาร ที่ทำให้ KFC ยังคงเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับหนึ่งในใจลูกค้าท่ามกลางการขยายตัวอย่างรวดเร็วและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
สร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าและพนักงาน เพื่อบริการที่ดีที่สุด
John Rutten บอกว่า กลยุทธ์ในการสร้าง Brand Experience ของ KFC มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้า และยังให้ความสำคัญกับพนักงานในทุกๆ สาขาของแฟรนไชส์ทั่วประเทศด้วย โดยในประเทศไทย KFC ได้ปรับใช้แนวคิด Uncle Sanders’ Hospitality หรือหัวใจบริการแบบลุงผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ซึ่งถือเป็นแกนหลักในการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองในทุกสาขา ไม่ว่าลูกค้าจะเดินเข้ามาในร้านที่ไหนก็จะได้รับการบริการที่อบอุ่น เหมือนมากินข้าวกับครอบครัว
ในขณะเดียวกัน KFC ยังส่งเสริมให้พนักงานเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดผ่านระบบการฝึกอบรมและแนวคิดที่ส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาศักยภาพและมุ่งมั่นในการทำงานอย่างเต็มที่ สิ่งนี้ทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน สร้างความแตกต่าง (Make a Difference) ส่งผลดีต่อทีม, แบรนด์ และสังคม และยังทำให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการได้สัมผัสถึงประสบการณ์ที่ดีที่สุด
สูตรลับที่ KFC ประเทศไทยและพนักงานทุกคน ใช้สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับลูกค้าคือ “ยอ-พส” ได้แก่
-
- ย = ยิ้มไว้ก่อน
- อ = อร่อยไว้ก่อน
- พ = พูดเพราะเพราะ
- ส = สะอาดไว้ก่อน
ไป KFC สาขาไหน ก็มาตรฐานเดียวกัน
การรักษามาตรฐานของ KFC ทั่วประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญ เนื่องจาก KFC มีการบริหารจาก 3 แฟรนไซส์ ซึ่งการบริหารให้มีมาตรฐานเดียวกันในทุกสาขาจึงเป็นเรื่องที่ KFC ให้ความสำคัญอย่างมาก การทำงานร่วมกับแฟรนไชส์ไม่ใช่เพียงแค่การแบ่งปันแนวทางการดำเนินธุรกิจ แต่ยังต้องมีการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พวกเขาทำงานตามมาตรฐาน Global Standard ของแบรนด์ โดยผ่านการฝึกอบรมในด้านต่างๆ เช่น วิธีการจัดการวัตถุดิบ, การรักษาความปลอดภัยทางอาหาร และการบริการที่ดี
John Rutten กล่าวถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง KFC และแฟรนไชส์ว่า การทำงานร่วมกันกับแฟรนไชส์ไม่ใช่แค่การกำหนดมาตรฐาน แต่ยังเป็นการร่วมมือกันเพื่อให้ลูกค้าของเราทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหมือนกันไม่ว่าจะไปที่สาขาไหนก็ตาม และออกจากร้านไปอย่างมีความสุข
ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า พัฒนาเมนูใหม่
KFC เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ของประเทศไทย ด้วยการนำเสนอทั้งเมนูยอดนิยมระดับโลกและเมนูที่ปรับมาให้เหมาะกับคนไทยโดยเฉพาะ ทั้งยังเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มในทุกพื้นที่ ด้วยจำนวนสาขากว่า 1,145 ร้านที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และ KFC ประเทศไทย ยังมีความโดดเด่นจากตลาดอื่นๆ ในเอเชียใต้ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการตอบสนองความต้องการของลูกค้าไทย และการพัฒนาเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ทดลอง
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชันและเว็บไซต์เวอร์ชันใหม่, บริการ กดสั่งปั๊บ รับหน้าร้าน (Just Pick up), บริการเดลิเวอรี (Delivery) ที่ KFC ให้ความสำคัญเป็นพิเศษเพราะมีอัตราการเติบโตสูง และเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (Kiosk) เพื่อยกระดับการบริการหลากหลายช่องทาง (Omnichannel) ของ KFC และทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ทั้งยังเข้าถึงโปรโมชันพิเศษได้ง่ายยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายของลูกค้า ไม่ว่าจะมาใช้บริการที่สาขาหรือสั่งแบบเดลิเวอรี เป็นการเชื่อมต่อแบรนด์ สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน
เมนูเด็ด มา KFC ไทย ต้องสั่ง
อย่างที่รู้ว่า KFC ทั่วโลกจะมีเมนูเด็ดของตัวเอง สำหรับ KFC ประเทศไทยก็มีเมนูที่สร้างสรรค์มาเพื่อลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะ นี่คือ 3 เมนูเด็ดยอดนิยม ที่ห้ามพลาด ต้องสั่งมากิน
- ไก่กรอบฮอทแอนด์สไปซี่ (Hot & Spicy Chicken) ไก่ทอดหมักด้วยผงพริกและเครื่องเทศ รสชาติเผ็ดกำลังดี หอมกรุ่น กรอบอร่อย เป็นหนึ่งในเมนูหลักที่สร้างชื่อเสียงให้ KFC
- วิงซ์แซ่บ (WingZ Zabb) ไก่ทอดกรอบปรุงรสเผ็ดร้อนสไตล์ไทย เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในกลุ่มเมนูเผ็ดที่หลายคนติดใจ
- ข้าวไก่แซ่บ (KFC Spicy Chicken Rice Bowl) เมนูนี้ปรับให้เข้ากับรสชาติแบบไทย โดยเฉพาะความเผ็ดจัดจ้านที่ตรงใจคนไทย เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าที่มองหาตัวเลือกที่เหมาะสำหรับมื้ออาหาร
การเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์อื่นๆ และความท้าทายในด้านการรักษามาตรฐานการบริการที่สูง KFC ยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างมั่นคง การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจจึงไม่ใช่แค่การปรับปรุงภายในองค์กร แต่ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าและแฟรนไชส์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
John Rutten ย้ำว่า KFC มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ๆ และแนวทางที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ทั้งในร้านและผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ KFC รักษามาตรฐานในทุกสาขา แต่ยังช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าในทุกๆ ด้านของชีวิตประจำวัน
อนาคตของ KFC ในประเทศไทย
ในอนาคต KFC ตั้งเป้าหมายที่จะขยายบทบาทให้มากขึ้น ทั้งในด้านการบริการที่ดีกว่าเดิม การใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับ และการทำธุรกิจที่มีผลเชิงบวกต่อสังคม โดยการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนความยั่งยืน และการลดการใช้พลาสติก เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคม
KFC มุ่งมั่นรักษาความเป็นผู้นำในตลาดร้านอาหารบริการด่วน (QSR) และต้องการเป็นแบรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งลูกค้าและพนักงานผ่านแคมเปญการตลาดที่สร้างผลกระทบเชิงบวกในสังคม
การขยายตัวของ KFC ในประเทศไทยจึงไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนสาขา และการเติบโตทางธุรกิจ แต่คือการมุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและสังคม พร้อมทั้งรักษามาตรฐานการบริการเพื่อเป็นผู้นำที่แข็งแรงและยั่งยืน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา