ถึงจะมีการแข่งขันเรื่องราคา แต่ Kerry Express ยังยืนเด่นในใจลูกค้าเมื่อคิดถึงบริการขนส่งพัสดุ ผ่านแนวคิด “ถูกและดี” ซึ่ง “ดี” คงปฏิเสธไม่ได้ว่างานบริการนั้นมีความโดดเด่น น่าเชื่อถือ ดังนั้นลองมาดูว่า “ถูก” ของ Kerry Express แข่งขันในตลาดได้อย่างไร
มุ่งตอกย้ำเรื่อง “ถูกและดี” มัดใจลูกค้า
Kerry Express เริ่มต้นธุรกิจเมื่อปี พ.ศ. 2549 ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนที่มีค่าบริการที่คุ้มค่ากว่าคู่แข่ง และยังมาพร้อมกับงานบริการที่เหนือกว่าชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน, พนักงาน หรือการดูแลพัสดุระหว่างขนส่ง แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการทำธุรกิจแบบ “ถูกและดี”
ด้วยระยะเวลาที่เปลี่ยนไป ภาพลักษณ์เรื่อง “ถูก” อาจค่อย ๆ เลือนหาย เพราะมีคู่แข่งมากขึ้น ที่สำคัญคือทุกรายใช้กลยุทธ์ลดราคามาจูงใจลูกค้า แต่ Kerry Express ได้ใช้กลยุทธ์ความน่าเชื่อถือ และบริการที่ดีกว่า ไปพร้อมๆกับการปรับลดราคาอย่างสมเหตุสมผล โดยเฉพาะ ราคาพิเศษให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
เมื่อประกอบกับงานบริการที่ยังโดดเด่นในตลาด Kerry Express จึงตอบโจทย์ทั้งมุมลูกค้าที่มีค่าบริการในราคาที่คุ้มค่า มุมธุรกิจที่ยังแข็งแกร่งทั้งมุมรายได้ และผลกำไร ที่สำคัญคือมุมภาพรวมตลาดขนส่งพัสดุด่วนที่ไม่พังทลายจากกลไกราคาค่าบริการที่ไม่สมเหตุผล
เข้าถึงกลุ่มแม่ค้าด้วยนโยบายยิ่งส่งเยอะ ราคายิ่งถูก
นอกจากการค่อย ๆ ปรับลดราคา Kerry Express ยังเข้าถึงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ด้วยการให้ราคาพิเศษในกรณีมีการจัดส่งพัสดุจำนวนมาก พ่อค้าแม่ค้าสามารถสอบถามราคากรณีจัดส่งพัสดุจำนวนมากได้จากหน้าร้านที่ไปใช้บริการ โดยแต่ละร้านจะเสนอราคาให้ผันแปรกับจำนวนโวลุ่มพัสดุ
ขณะเดียวกัน Kerry Express ยังมี Kerry Express Loyalty Club ที่ทุกการส่งพัสดุจะได้ Kerry Point ใช้แลกส่วนลดค่าส่งพัสดุ หรือรับสิทธิประโยชน์จากร้านค้าที่ร่วมรายการ ซึ่งเมื่อรวมกับงานบริการที่น่าเชื่อถือ ก็จูงใจลูกค้าได้ไม่ยาก ขณะเดียวกันยังเป็นเจ้าแรกในธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนที่เริ่มทำ Loyalty Program และให้ความสำคัญกับการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า
“เราอยากย้ำให้ลูกค้ารู้ว่า Kerry Express คือแบรนด์ที่ทั้งถูกและดี วันนี้ราคาส่งพัสดุของเราแข่งขันในตลาดได้ แต่สิ่งที่แตกต่างคือคุณภาพบริการ ที่ทำให้เราแตกต่างจากตลาด และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมลูกค้าต้องใช้เรา” อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) กล่าว
Economy Market ที่แข่งขันอย่างดุเดือด
หากเจาะไปที่ภาพรวมตลาดขนส่งพัสดุด่วนจะพบว่าแบ่งได้ 2 ประเภทคร่าว ๆ คือ Premium Market ที่ลูกค้ายินดีจ่ายเพื่อมั่นใจว่าพัสดุจะถึงที่หมายรวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่ง Kerry Express เป็นผู้นำในตลาดนี้ ส่วนอีกตลาดคือ Economy Market ที่เน้นแข่งขันเรื่องราคา ซึ่งมีผู้เล่นจำนวนมากลงมาแข่งขันในตลาดดังกล่าว
ดังนั้นการที่ Kerry Express ทยอยปรับราคา, มีบริการสมาชิก และโปรโมชันสำหรับการส่งพัสดุจำนวนมาก ยิ่งทำให้ Kerry Express เข้ามาอยู่ในใจของกลุ่มลูกค้า Economy Market มากขึ้น และเติบโตไปกับยอดจัดส่งพัสดุในตลาดนี้ได้ ผ่านการลบภาพจำเดิม ๆ ว่า Kerry Express ราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
การปรับตัวทั้งหมดนี้ Kerry Express จึงเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งเมื่อผู้บริโภคนึกถึงการขนส่งพัสดุด่วน พิสูจน์จากการได้รางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2020-2021 ในหมวดบริการจัดส่ง/โลจิสติกส์ เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ครองแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศ จากการโหวตของผู้บริโภค ได้คะแนน 63.8% ทิ้งห่างอันดับ 2 ซึ่งได้คะแนน 19.1%
สรุป
“ถูกและดี” ของ Kerry Express คือการวางสมดุลระหว่างบริการที่น่าเชื่อถือ กับราคาที่สมเหตุผล เพื่อตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้า และผู้ใช้บริการทั่วไปได้ทุกระดับ ถือเป็นการปรับตัวที่น่าสนใจของยักษ์ใหญ่รายนี้ เพราะในตลาดที่แข่งขันกันด้วยราคาเป็นหลัก Kerry Express กลับมีถึงสองอาวุธในมือเพื่อสู้ศึก แถมสองอาวุธนี้ยังช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม // Kerry Express มีจุดบริการกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศไทย พร้อมศูนย์กระจายพัสดุกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ รองรับพัสดุได้ 2 ล้านชิ้น/วัน และมีรถที่ใช้การส่งพัสดุกว่า 20,000 คัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา