Gary Plinick ซีอีโอของ Kellogg กลายเป็นหัวข้อประเด็นร้อนบนโซเชียลมีเดียหลังจากแนะนำให้ชาวอเมริกันที่มีปัญหาด้านการเงินกินซีเรียลเป็นอาหารเย็น
Plinick พูดถึงเรื่องนี้ในช่วงการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เกี่ยวกับเรื่องที่สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น บอกว่า อาหารประเภทซีเรียลเป็นอาหารที่ราคาจับต้องได้ถ้าเทียบกับอาหารอื่น ๆ และอาจจะเป็นคำตอบให้กับผู้บริโภคที่กำลังเผชิญกับความกดดันทางเศรษฐกิจ
ความคิดเห็นของ Plinick ได้รับการตอบกลับในเชิงลบบนโซเชียลมีเดีย อย่างเช่น มีผู้แสดงความคิดเห็นว่า อาหารของ Kellogg เป็นอาหารที่ราคาจับต้องได้น้อยที่สุดแล้วสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาเรื่องเงิน อีกคนหนึ่งเทียบราคาซีเรียลขนาดสำหรับครอบครัวของ Kellogg ราคา 360 บาทบวกกับราคานมกล่องที่กินคู่กับซีเรียลอีก 100 บาท คิดรวมแล้วเทียบเท่ากับอาหารแช่แข็งสำหรับครอบครัว
นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งกล่าวถึงรายงานของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาที่ให้ข้อมูลว่า Plinick มีฐานเงินเดือนต่อปีอยู่ที่ 1 ล้านเหรียญหรือราว 36 ล้านบาท และมีรายได้พิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนอีกมากกว่า 4 ล้านเหรียญหรือ 144 ล้านบาทต่อปี ผู้ใช้รายนี้ยังตั้งคำถามอีกว่าคิดว่าซีอีโอเองจะให้ลูกกินซีเรียลเป็นอาหารเย็นหรือไม่ในเมื่อได้เงินมากขนาดนี้
สำนักงานสถิติแรงงานเผยข้อมูลล่าสุดเผยว่า ราคาซีเรียลในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นราว 28% ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 ขณะที่ Kellogg ขึ้นราคาสินค้ากว่า 12% ในช่วงปีงบประมาณ 2022-2023
สำหรับแคมเปญ “Cereal for Dinner” (ซีเรียลสำหรับอาหารเย็น) Kellogg ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2022 ช่วงที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 9.9%
ในเดือนมีนาคมปี 2023 Kellogg ประกาศว่าบริษัทซีเรียลในอเมริกาเหนือจะเปลี่ยนชื่อเป็น WK Kellogg Co. ขณะที่แบรนด์ขนมที่วางขายทั่วโลกจะใช้ชื่อว่า Kellanova เมื่อปีที่แล้ว WK Kellogg Co. มียอดขายสุทธิแตะ 2.76 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.5%
ที่มา – Entrepreneur, The Guardian
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา