อย่าหวั่นไหว – รีบปรับตัว 2 อย่างที่ธุรกิจต้องทำเมื่อ Alipay บุกไทย

ขอย้ำตรงนี้ก่อนว่าไม่ได้อวย Alipay แต่อย่างใด

เพราะไม่กี่วันก่อนหลายคนคงรู้ข่าวการเข้ามาในประเทศไทยของ Alipay แล้ว

แถมจับมือกับ 7 บริการเพย์เมนต์ท้องถิ่นอย่าง True Money, Counter Service, GHL Thailand, ธนาคารกสิกรไทย, บัตรกรุงไทย, เพย์สบาย และพระยาเปย์

จนหลายๆ คนต่างกลัวว่าการเข้ามาครั้งนี้จะเขย่าธุรกิจเพย์เมนต์ไทยอย่างไรบ้าง

นักท่องเที่ยวจีน 120 ล้านคนมีการใช้งานอาลีเพย์อยู่แล้ว
นักท่องเที่ยวจีน 120 ล้านคนมีการใช้งานอาลีเพย์อยู่แล้ว

บางคนกลัวจนไม่อยากให้เขาเข้ามา และยินดีที่จะทำธุรกิจแบบเดิมมากกว่า

แต่จริงๆ แล้วการเข้ามาของ Alibaba ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าพวกคุณไม่หวั่นไหว และรีบปรับตัว

ไม่หวั่นไหว คือมีสติ ไม่ได้แอนตี้ทัวร์จีนที่เข้ามาในประเทศไทยปี 2558 ถึง 7.9 ล้านคน และปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน ซึ่งหนึ่งในนี้ต้องติด Alipay มากับตัวแน่ๆ

ผ่านยอดผู้ใช้จ่ายอาลีเพย์ในต่างประเทศ 120 ล้านไอดี จากทั้งหมดมากกว่า 450 ล้านไอดี

ถ้าเทียบกับจำนวนประชากรจีนเกือบ 1,400 ล้านคน ก็ถือว่าเยอะใช่เล่น

ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะ Alipay ร่วมกับพาร์ทเนอร์ข้างต้นที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยในการประกอบกิจการเพย์เมนต์ สามารถแทรคตัวเลขต่างๆ ได้ง่าย

ในทางกลับกัน ธุรกิจใดที่รีบปรับตัวก่อนก็จะครองใจลูกค้าจีนกระเป๋าหนัก และสร้างรายได้เติบโตอย่างรวดเร็ว

ร้านค้าไทยที่เป็นพาร์ทเนอร์ของอาลีเพย์
ร้านค้าไทยที่เป็นพาร์ทเนอร์ของอาลีเพย์

เนื่องจาก Alipay ค่อนข้างเปิดกว้างในการรับร้านค้า และมีการแต่งตั้งผู้จัดการประจำประเทศไทย เพื่อสื่อสารข้อมูลไปยังร้านค้าต่างๆ และช่วยติดตั้งระบบให้แล้ว

ที่สำคัญยังมีวิธีช่วยเหลือด้านการตลาดหลากหลาย เช่นมอบคูปองส่วนลดให้กับผู้ใช้งาน และแสดงร้านค้าให้เห็นทันทีบนแอปพลิเคชั่นเมื่อนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในประเทศไทย

ถ้าให้จูงใจเรื่องตัวเลข จะมีตั้งแต่ยอดขายเติบโต 25% เพราะนักท่องเที่ยวจีนไม่จำเป็นต้องพกเงินสด แค่เติมเงินเข้าวอลเลต์ หรือผูกบัตรเครดิตกับแอป Alipay ก็จ่ายเงินได้ทันที ลดความสับสนเรื่องราคา และการใช้จ่ายขึ้นเยอะ

ซึ่งเรื่องนี้ นารายา, เครือเดอะมอลล์ และกลุ่มคิงเพาเวอร์ได้พิสูจน์มาแล้วว่าจูงใจผู้บริโภคจากจีนได้จริง นอกจากนี้ร้านนวดแผนโบราณ และร้านขายของที่ระลึกรายย่อย ก็เพิ่มยอดขายได้เช่นกัน

ในงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ อาลายีเพย์ตอกย้ำกลยุทธ์การตลาดไทย
ในงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ อาลีเพย์ตอกย้ำกลยุทธ์การตลาดไทย

แต่นั่นแค่มุมของร้านค้า และผู้บริโภค

ถ้าว่ากันถึงฝั่งเอสเอ็มอีค้าออนไลน์ตอนนี้จะหนักกว่าเดิมแน่

จากเดิมที่ถูกมาร์เก็ตเพรสใหญ่อย่างลาซาด้าผูกขาดตลาดอยู่แล้ว ยังจะเจอกับ aliexpress.com เว็บไซต์ขายสินค้าส่งตรงจากจีนที่อยู่ในเครือ Alibaba เข้ามาอีก

โดยการเข้ามานั้นได้โลคอลไลซ์เว็บไซต์เป็นภาษาไทยเรียบร้อย สงสัยก่อนหน้านี้คงมีคนไทยไปซื้อของเยอะ แม้ตัวเว็บจะเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม

สงสัยเห็นความสำเร็จของเว็บ ezbuy.co.th ที่เป็นเว็บสั่งสินค้าจากเว็บไซต์ในจีน เช่น taobao.com ซึ่งก็อยู่ในเครืออาลีบาบา แล้วทำไมไม่ลงมาเล่นตลาดนี้เองล่ะ

เว็บไซต์อาลีเอ็กซ์เพรสที่แปลเป็นภาษาไทย
เว็บไซต์อาลีเอ็กซ์เพรสที่แปลเป็นภาษาไทย

แต่ก็เรียกว่าการเข้าไปคุยกับ แจ็ค หม่า ของท่านผู้นำ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่องาน G20 ช่วงต้นเดือนก.ย. ประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะดึงทุนจีนเข้ามาบุกไทยเต็มๆ

งานนี้ผู้ประกอบการไทยก็ต้องทำใจ – ยอมรับมัน – สู้ต่อไป

เหมือนกับเพลงของ บอดี้สแลม

“ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา