KBTG ชูวิสัยทัศน์ Beyond The Future Day 2020 ตั้งเป้าปี 68 เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในไทย 

เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า จากวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลให้รูปแบบการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ที่แตกต่างจากอดีตอย่างรวดเร็ว ทาง KBTG ทำทรานส์ฟอร์เมชั่นครั้งสำคัญที่สุดภายใต้แนวคิด “วัน เคบีทีจี” (One KBTG) โดยมีแกนสำคัญในการปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กร การปฏิรูปกระบวนการทำงาน (Agile Transformation) และการให้พนักงานมีส่วนร่วม (Transformation Community) เพื่อผลักดันให้ KBTG เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาให้ประเทศรอดจากวิกฤต

จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มีความคุ้นเคยกับดิจิทัลมากขึ้น สะท้อนจากธุรกรรมซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ผู้ใช้โมบายแบงกิ้งก็มีอายุมากขึ้นเฉลี่ย 40-50 ปี จากเดิม 25-39 ปี ทำให้ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน K+ ราว 14 ล้านคน คาดว่าจะมียอดทำธุรกรรมทำสถิติกว่า 20,000 ล้านรายการในปีนี้ รวมถึงการร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมธุรกรรมทางการเงินในทุกอุตสาหกรรม

สำหรับ แอปพลิเคชันขุนทองมีลูกค้าดาวน์โหลดแล้ว 500,000 ราย แอป Make ดาวน์โหลดแล้ว 20,000 ราย Eatable 10,000 ราย และมีพันธมิตรใช้ Contactless Technology 20 ราย โดยล่าสุดได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเปิดตลาดทุนแบบใหม่ในประเทศไทย ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการระดมทุนและลงทุนในผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มใหม่

ยุทธศาสตร์ 3 แกนหลัก KBTG

ยุทธศาสตร์การดำเนินงานของ KBTG ซึ่งจะสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรผ่าน 3 แกนหลัก คือ

  1. เพื่อให้ลูกค้าทุกรายสามารถทำธุรกิจต่อได้ ทำให้คนรู้จักออมเงิน ลงทุน และซื้อประกัน ซึ่งเป็นเสาหลัก
  2. ทำให้เกิดสมดุลทางการเงินของชีวิต และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้มากที่สุดเพราะเมื่อเกิดวิกฤติยังมีเงินสะสม นำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนเพื่อที่จะเกษียณได้
  3. เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจธนาคารแบบเดิมเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่จะนำนวัตกรรมออกไปให้กับทุก ๆ คนได้ใช้ ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหน หรือทำธุรกรรมรูปแบบใด

ทั้งนี้ KBTG ได้ตั้ง Development Hub ขึ้นใน 3 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม และจีน เพื่อให้การพัฒนาเทคโนโลยีได้ทันกับโครงสร้างการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตรที่มุ่งสู่ดิจิทัล แบงกิ้งมากขึ้น

ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทย ประสบความสำเร็จในการให้บริการ QR KBank ใน สปป.ลาว และได้ขยายบริการจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปที่สะหวัดนะเขตเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้ว 70,000 ราย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 200,000 ราย

สำหรับในเมียนมา ได้ร่วมกับเอยาวดี ฟาร์มเมอร์ ดีเวลลอปเม้นท์แบงก์ หรือเอแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารที่ธนาคารกสิกรไทยร่วมลงทุน เตรียมนำแอปพลิเคชัน K+ ไปพัฒนาใช้ในเมียนมาในชื่อ A+ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย จนเป็นแอปฯ การเงินอันดับหนึ่งในขณะนี้

ส่วนในประเทศจีน KBTG เปิด K-TECH ที่เมืองเชินเจิ้น ประเทศจีน โดยมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านหยวนเรียบร้อยแล้ว ตั้งเป้าจะรับพนักงานประมาณ 300 คน โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการทางเงินสำหรับธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนและประเทศอื่น และพันธมิตร โดยธนาคารกสิกรไทยในจีนมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปสู่ลูกค้ารายย่อยในการปล่อยสินเชื่อบุคคล ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่ยังมีช่องว่าง ในลักษณะที่เป็น Digital Lending

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา