KBank กลายร่าง เล็งเป็นธนาคารดิจิทัลระดับภูมิภาค รุกจีน-อาเซียน หนัก ตั้งเป้าใช้นวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มากกว่าแค่ธนาคาร (Beyond Banking)
ธนาคารกสิกรไทย (KBank) จัดงาน “THE METAMORPHOSIS” Regional Business Townhall & Press Conference 2021 อัปเดตทิศทางบริษัทในภูมิภาค โดยสิ่งที่น่าสนใจในงานนี้คือ KBank ใช้คำว่า Metamorphosis หรือ การกลายร่าง เข้ามานิยามรูปแบบของทิศทางธุรกิจของตัวเอง
ภายในงานมีการประกาศวิสัยทัศน์เอาไว้ว่า KBank ต้องการที่จะกลายร่างจาก ธุรกิจธนาคารที่มีสาขาในหลายประเทศ (Local with Banking License) เป็น ธนาคารดิจิทัลระดับภูมิภาค (Regional Digital Bank) มอบบริการที่มากกว่าธนาคารให้กับลูกค้าในภูมิภาคอย่างไร้พรมแดนด้วยเทคโนโลยี
โลกเปลี่ยนครั้งใหญ่ KBank ต้องกลายร่าง
สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงรูปโฉมไป คือ ภูมิทัศน์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดย นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกและกระแสการมุ่งสู่ความยั่งยืน 4 เรื่องคือ
- DECOUPLING โอกาสที่อาเซียนจะสามารถเชื่อมต่อกับจีนและสหรัฐฯ จากการเปิดกว้างต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
- REGIONALIZATION 2.0 จีนผันตัวเองจากแหล่งผลิตสินค้าราคาถูกไปเป็นประเทศที่เน้นการส่งออกสินค้าไฮเทคและนวัตกรรม และทยอยย้ายฐานการผลิตสินค้าไปยังประเทศอื่น โดยเฉพาะอาเซียน
- NEXT-GEN DIGITALIZATION Digital technology ช่วยขับเคลื่อนและสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทำให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น ยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศในภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบรับการเปลี่ยนผ่านสู่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
- DECARBONIZATION โดยตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ที่ นับเป็นโอกาสทางธุรกิจในการสร้างห่วงโซ่อุปทานสีเขียว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาเซียนบนเส้นทางการเติบโตยั่งยืนในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ การเคลื่อนย้ายซัพพลายเชนสู่ภูมิภาค การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Metaverse และ 5G และการเกิดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ทำให้ KBank ต้องกลายร่างเพื่อเติบโตและคว้าโอกาสไร้ขีดจำกัด (Limitless Opportunity)ในทุกภูมิภาค ที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
จากธนาคาร สู่ Beyond Banking
นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ชี้ว่า “ธนาคารกสิกรไทยได้ขยายขอบเขตไปอยู่ในหลาย ๆ ประเทศ เช่น จีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีและนวัตกรรม และมีการดำเนินงานใน อาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของ GDP สูงที่สุดในโลก ทั้งใน สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม และต่อไปก็จะเร่งสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อขยายโอกาสในการทำธุรกิจในอินโดนีเซีย และอาจจะกลับเข้าไปทำธุรกิจในเมียนมาหลังสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ”
นอกจาก KBank จะต้องกลายร่างเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาคแล้ว นายภัทรพงศ์ ยังเสริมอีกว่า “Metamorphosis ยังหมายถึงวิวัฒนาการของความคิดในการทำธุรกิจ จากที่ทำธุรกิจธนาคารอย่างเดียวไปสู่ความคิดแบบ Beyond Banking หรือ การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง solution ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกิจได้อย่างไร้ขอบเขตและประสบความสำเร็จ และนี่คือพัฒนาการในเชิงเทคโนโลยี”
กลายร่าง สร้างศักยภาพด้านเทคโนโลยี
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KASIKORN Business-Technology Group เผยว่า KBTG ตั้งเป้าเป็น FinTech ชั้นนำของภูมิภาคในอีก 3 ปี
ที่ผ่านมาได้จัดตั้ง KAITAI Technology Company Limited ในเซินเจิ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในจีน เพื่อสรรหาบุคลากรและนวัตกรรมจากจีน นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ
นอกจากนี้ นายเรืองโรจน์เสริมว่าในเวลาแค่ 1 ปี ยังมีการปล่อยโปรเจ็กต์ทั้งสิ้น 7 ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยสิ่งที่โดดเด่นสุดคือการตั้ง KBTG Vietnam ในนครโฮจิมินห์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองด้านซอฟต์แวร์ โดยเล็งจะขยายจำนวนพนักงานเป็น 350 ตำแหน่งในปี 2026 และยังมีการขยายไปที่ลาวอีกด้วย
KBank ลุย จีน-อาเซียน เต็มสูบ
นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า “เรานิยามตัวเองว่าเข้าไปในจีนแบบ FinTech Startup ที่มี Banking License โดยเข้าไปแบบ Light Asset ทั้งนี้เรามี 3 ธุรกิจหลักๆ ที่พยายามจะโฟกัสกัน คือ หนึ่ง Online Digital Lending สำหรับลูกค้ารายย่อย สอง Cross Border Supply Chain ช่วยลูกค้าจีนที่ลงทุนในอาเซียน และ สาม Digital Asset ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลและ NFT”
นายชัช เหลืองอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ชี้ว่า “AEC คือตลาดใหญ่ที่กำลังเติบโต โดยตอนนี้ได้เปิดสาขาในลาวและกัมพูชามากว่า 3-4 ปี และเพิ่งจะเปิดสาขาในเวียดนามเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้จะเน้นการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลมากกว่าการเปิดสาขาจำนวนมาก อย่างในจีนมีแค่ 3 สาขา แต่มีลูกค้าทะลุล้าน หรือในลาวที่มีแค่ 2 สาขา แต่มีลูกค้าถึง 1.3 แสนคนจากประชากรทั้งหมด 7 แสนคน”
โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ต้องเปลี่ยนตัวเองไปทำงานแบบคนรุ่นใหม่
นายชัช กล่าวว่า “ตอนนี้เราทำงานกันแบบ Agile คนรุ่นใหม่มีโอกาสได้ลอง เช่น Team Lead ที่ไปเปิดธนาคารที่เวียดนามก็เป็นคนรุ่นใหม่ มีอายุแค่ 30 ปีเท่านั้น”
“และที่สำคัญเราทำงานร่วมกันแบบ Squad หรือ Team Project ตอนนี้มีถึง 30-40 Squad ที่ทำงาน 30-40 เรื่องพร้อมๆ กัน มีหัวหน้าทีมที่อายุแค่ 25 หรือ 30 ปี”
หลังจากนี้ ด้วยเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นสายงาน World Business Group ของ KBank จึงตั้งเป้าเพิ่มพนักงานเป็น 1,037 คน หรือเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งภายในปีหน้า โดยเน้นไปที่การมอบโอกาสเติบโตอย่างไร้ขอบเขตทุกมิติ หรือ World of Borderless Growth
ด้วยแนวคิดนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถเพื่อดึงดูด Talent ได้จากทั่วโลก ด้วยโอกาสที่จะได้เติบโตทั้งในแง่ Personal Growth จากประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย, Growth of Team ร่วมเติบโตไปกับทีมที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ และ Growth of Partners เติบโตไปกับพันธมิตรทั้ง Tech Company และ Startup ทั่วโลก และมิติสุดท้ายคือ Growth of Community การเติบโตเคียงข้างกับสังคมผ่านทุกภารกิจ (Mission) ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา