เปลี่ยนให้ทุกเรื่องง่ายขึ้น KBank รีแบรนด์ Mobile Banking ใหม่ในชื่อ K PLUS ใช้ง่าย จำง่ายกว่าเดิม

ยุคนี้ความเป็นดิจิทัลกลายเป็นชีวิตประจำวันปกติของทุกคน ดังนั้นการรีแบรนด์สินค้าและบริการให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ใหม่จึงเป็นเรื่องปกติ รวมถึงธนาคารกสิกรไทย (KBank) ที่พลิกโฉม Mobile Banking และด้วยความเป็นผู้นำธนาคารบนมือถืออยู่แล้ว ครั้งนี้จึงเป็นการขยายบริการ ต่อยอดให้มากกว่าเดิม

ด้วยการเปลี่ยนชื่อจาก K-Mobile Banking PLUS เป็น K PLUS

K PLUS จำง่าย ใช้งานง่ายกว่า

พัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า การทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะที่สาขา หรือตู้เอทีเอ็ม เพราะช่องทางที่เติบโตมากที่สุดคือ Mobile Banking ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์แบบ Digital Mobility คือสามารถทำธุรกรรมที่ไหนก็ได้ และด้วยการเป็นธนาคารบนมือถืออันดับ 1 นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะรีแบรนด์ใหม่

ดังนั้น K-Mobile Banking PLUS ซึ่งที่ผ่านมาเป็นชื่อที่ยาว แต่ต้องการให้ผู้ใช้เข้าใจว่าเป็นธนาคารบนมือถือ มาถึงวันนี้ที่ผู้ใช้เข้าใจและใช้งานเป็นประจำแล้ว จึงลดชื่อให้สั้นลงใช้เพียง K PLUS เพื่อง่ายต่อการเรียก ง่ายต่อการจดจำ และสำคัญที่สุดคือ ง่ายต่อการใช้ บนแนวคิด “เปลี่ยนให้ทุกเรื่องง่ายขึ้น” แต่ยังคงความปลอดภัยสูงสุดเหมือนเดิม

ยอดผู้ใช้งาน 5 ล้านราย ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา

ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน K PLUS กว่า 5 ล้านราย เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 65% มีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ 80% โดยสามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ ทุกเวลา เช่น การขอออกบัตรเดบิตผ่าน K PLUS แล้วรอรับบัตรได้เลยที่บ้าน หรือซื้อประกันเดินทางระหว่างประเทศได้

KBank มีแผนเพิ่มลักษณะการใช้งานที่ให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องไปที่สาขา เช่น การเปิดบัญชีกองทุน ซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุน อายัดบัตรเครดิต โอนเงินต่างประเทศ การขอรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 2 ปีได้ทันที ซึ่งคาดว่ารายการใช้งานเหล่านี้จะทำให้มีผู้ใช้งานธนาคารบนมือถือเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านคนในสิ้นปีนี้

K PLUS SME กับเป้าหมายช่วยเหลือผู้ประกอบการ

พัชร บอกว่า นอกจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ใช้งาน K PLUS อยู่แล้ว ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการ SME จำนวนหนึ่งที่ใช้งานผ่าน K PLUS ด้วย ดังนั้นทาง KBank จึงพัฒนาต่อยอดแอป K PLUS SME ขึ้นมา เพื่อให้มีการทำงานที่ตอบความต้องการทางธุรกิจเพิ่มขึ้น เช่น การตรวจสอบยอดเงินเข้าออกบัญชีเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเงินที่เข้ามาจากการโอนเงินหรือการรับจ่ายเช็ค โดยเฉพาะเรื่องเช็คคืนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเพราะต้องการรักษาเครดิตกับคู่ค้า

K PLUS SME จะสามารถใช้งานได้ทั้งบัญชีบุคคลธรรมดา บัญชีร่วม และบัญชีนิติบุคคล เพิ่มบัญชีได้สูงสุด 25 บัญชี มีบริการที่แตกต่างจากแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ในตลาด เช่น การจัดการกลุ่มบัญชีเพื่อดูภาพรวมของแต่ละธุรกิจได้อย่างง่ายดาย การตรวจสอบสถานะเช็คทั้งขารับและขาจ่าย พร้อมการแจ้งเตือนในกรณีที่เช็คมีปัญหา มีรายงานสินเชื่อที่จะรวบรวมข้อมูลรายงานสินเชื่อทุกประเภท ทั้ง OD ตั๋วสัญญาใช้เงิน เงินกู้ หรือหนังสือค้ำประกัน รวมถึงสามารถดูการเคลื่อนไหวบัญชีแบบreal time

นอกจากนี้ KBank ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่แนะนำบริการดิจิทัล หรือ Digital Service Officer (DSO) ประจำสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้คำแนะนำกับลูกค้า ขณะที่สาขาทั้ง 1,100 แห่ง จะเน้นการให้บริการการเงินส่วนบุคคลหรือสำหรับธุรกิจด้วยเทคโนโลยี เช่น e-Application เพื่อลดเวลาการกรอกเอกสารและลดการเก็บเอกสาร

สรุป

เป็นอีกครั้งที่ KBank ชิงอัพเกรด Mobile Banking เป็นรายแรกในตลาด ทำให้บริการธนาคารบนมือถือเข้าใกล้ และใช้งานง่ายมากขึ้น รวมถึงขยายบริการสู่กลุ่ม SME เมื่อดูแนวโน้มในต่างประเทศ ธนาคารบนมือถือ กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งในไทย KBank ได้เริ่มเดินหน้าไปก่อนแล้ว

กสิกรไทย พลิกโฉมโมบาย แบงกิ้ง ลุยเจาะลูกค้ารายย่อยและเอสเอ็มอี

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา