คนแห่โอนเงินต่างประเทศ! K PLUS เผยปี 63 ยอดเงินสูงกว่า 8,000 ล้านบาท

ลูกค้ากสิกรไทยโอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS ปี 2563 กว่า 8,000 ล้านบาท หรือโตกว่า 165% ด้วยปัจจัยหนุนข้อจำกัดของสถานการณ์โควิด ชูจุดเด่น สะดวก ถูก เร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ ปลายทางรับเงินเต็มจำนวน เตรียมเปิดโอนเงินไปจีนและญี่ปุ่น ประเทศที่มีมูลค่าการโอนออกสูงเป็นอันดับ และ ของประเทศภายในปีนี้ คาดจะมียอดธุรกรรมรวมกว่า 10,000 ล้านบาทในสิ้นปี 

โอนผ่านแอปสะดวก ค่าธรรมเนียมถูกกว่า

ศิริพร วงศ์ตรีภพ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า ธุรกรรมโอนเงินต่างประเทศของกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มียอดต่อรายการไม่เกิน 49,999 ดอลลาร์สหรัฐหรือสกุลอื่นเทียบเท่า ลูกค้าทั้งสำหรับธุรกิจและไลฟ์สไตล์หันมาใช้บริการผ่าน K PLUS เพิ่มขึ้นมาก จนจำนวนธุกรรมโอนเงินไปต่างประเทศผ่าน K PLUS สูงกว่าการโอนผ่านสาขาโดยมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาทต่อรายการ

เนื่องด้วยข้อจำกัดของสถานการณ์โควิด และตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจุดเด่นของการโอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS คือ ค่าธรรมเนียมถูก สะดวกรวดเร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ ปลายทางได้รับเงินเต็มจำนวน และสามารถตรวจสอบได้ ทำให้ในปี 2563 มีจำนวนธุรกรรมโอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS เพื่อจ่ายค่าการศึกษา ค่าสินค้า โอนเงินกลับบ้าน และโอนเงินให้ญาติสูงถึง 60,000 รายการ และมีมูลค่าธุรกรรมกว่า 8,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 165% 

เตรียมเปิดเพิ่ม หยวน และ เยน

ในปี 2564 ธนาคารจะเน้นพัฒนาฟีเจอร์โอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS ให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การโอนของลูกค้าให้มากขึ้น และสามารถโอนสกุลเงินเพิ่มได้อีก 2 สกุลคือ เงินหยวน (CNY) และ เงินเยน (JPY) ไปยังประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีมูลค่าการโอนออกสูงเป็นอันดับ และ ของประเทศไทย ทำให้ลูกค้าสามารถโอนเงินไปต่างประเทศผ่าน K PLUS ได้ทั้งหมด 14 สกุลเงิน ครอบคลุม 32 ประเทศทั่วโลก คาดว่ามีมูลค่าธุรกรรมรวม 10,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ และวางแผนขยายฟีเจอร์การให้บริการโอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS ให้ครอบคลุมทั่วโลกภายในปีหน้า  

สำหรับแผนการตลาดธนาคารจะมุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ตามสกุลเงินโอนและประเทศปลายทางที่เพิ่มขึ้น โดยได้จัดโปรโมชันค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ 250 บาทต่อรายการ โดยโอนได้สูงสุดเทียบเท่า 49,999 ดอลลาร์ต่อครั้งต่อวัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย.นี้ และวางแผนสื่อสารการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มโอนเงินต่างประเทศ เช่น กลุ่มคนเรียนต่อต่างประเทศ กลุ่มนักช้อป กลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัวอาศัยในต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย เน้นให้เห็นความสะดวกสบายของการใช้ K PLUS ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศไม่ได้

สรุป

การโอนเงิน การจ่ายเงิน ผ่านแอป ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างชัดเจน การจับเงินสดก็ลดลง และไม่ใช่เฉพาะในประเทศเท่านั้น เพราะการโอนเงินไปต่างประเทศ ก็ทำผ่านแอปได้แล้ว และตอนนี้มียอดเงินสูงกว่าทำผ่านสาขาด้วย จึงไม่แปลกถ้าจะบอกว่าธนาคารอยู่ในมือเราตลอดเวลา

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา