ถือว่าธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารเดียวที่รุกอย่างต่อเนื่องในการให้การสนับสนุนพัฒนาด้านดิจิทัลกับหน่วยงานบริการทางการแพทย์ต่างๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ
ปัญหาใหญ่ของโรงพยาบาลรัฐคือ จำนวนผู้ใช้บริการที่มากมายในแต่ละวัน บุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอ อีกทั้งระบบข้อมูล เช่น ข้อมูลคนไข้ สิทธิรักษาต่างๆ ที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้การใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกสบาย ใช้ระยะเวลานาน เป็นต้น ซึ่งภาคสาธารณสุขเองก็ได้มีการพัฒนาระบบบริการรูปแบบดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง และเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องปรับวิถีชีวิตในรูปแบบ New Normal ทำให้เกิดบริการทางการแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การจองวัคซีน, ระบบการแพทย์ทางไกล
เทคโนโลยีจึงเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการให้บริการทั้งในมุมของผู้ใช้บริการ การบริหารจัดการของโรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์
บทบาทของ KBank ในการพัฒนาแอปฯ ให้ รพ. รัฐ
คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เล่าว่า ธนาคารกสิกรไทยมีเทคโนโลยี มีทีมงาน มี Know-how มีทรัพยากรต่างๆ ที่พร้อมสนับสนุนการทำงาน การสนับสนุนของธนาคารกสิกรไทยเพื่อพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลต่างๆ คือ การทำให้บริการในปัจจุบันดียิ่งขึ้น และที่สำคัญคือร่วมกันมองไปถึง “อนาคต” ของระบบบริการทางการแพทย์ของประเทศที่มีโจทย์ท้าทายรออยู่ข้างหน้าหลายอย่าง ทั้งสังคมสูงวัย โรคภัยใหม่ๆ จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ ฯลฯ ซึ่งในช่วงการเปลี่ยนผ่านโดยมีโควิด-19 เป็นตัวเร่ง ทุกองค์กร ทุกอย่างต้องใช้ทั้งเวลา งบประมาณ ทีมงาน และเทคโนโลยี
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ 5 แห่ง ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย พัฒนาแอปฯ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการให้บริการกับคนไข้ โดยคนไข้สามารถจัดการขั้นตอนต่าง ๆ ในการเข้ารับบริการทางการแพทย์บนโทรศัพท์มือถือด้วยตนเองได้ แอปฯ ของแต่ละโรงพยาบาลได้เปิดใช้บริการแล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (แอปฯ Chula Care) โรงพยาบาลชลบุรี (แอปฯ CBH PLUS) โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (แอปฯ TUH for all) โรงพยาบาลราชวิถี (แอปฯ RJ Connect) และสถาบันประสาทวิทยา (แอปฯ NIT PLUS) ซึ่งตอบโจทย์กับผู้ใช้บริการในช่วงที่สังคมยังต้องใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่าง ลดการสัมผัส ลดข้อจำกัดในระบบการดูแลสุขภาพในช่วงที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงการเตรียมความพร้อมหากวิกฤติเกิดขึ้นอีก
การพัฒนาแอปฯ ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ประกอบด้วย 3 แกนหลัก คือ
1) การเชื่อมต่อข้อมูลจากฐานข้อมูลกลางของโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) มาแสดงที่แอปพลิเคชัน ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงประวัติสุขภาพและการรักษาได้ด้วยตนเอง รวมถึงแชร์ข้อมูลให้บุคลากรทางการแพทย์ ช่วยให้การให้บริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2) การสร้างประสบการณ์ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย รวดเร็ว สามารถทำได้ด้วยตนเอง ทั้งในและนอกสถานที่ของโรงพยาบาล
3) การเชื่อมโยงระบบชำระเงินและบริการทางเงินต่างๆ ที่เลี่ยงสัมผัสเงินสด โดนสามารถชำระผ่านช่องทาง
K PLUS โอนเงินผ่าน Thai QR Code หรือเลือกชำระผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ทำให้มีการบริการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ลดความแออัด และระยะเวลารอคอย
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร พัฒนาแอปฯ “หมอ กทม.” ในรูปแบบ Single App รวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพให้เป็นระบบและมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งผู้ใช้บริการแค่ดาวน์โหลดแอปฯ “หมอ กทม.” เพียงแอปฯ เดียว จะสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ทั้ง 11 แห่ง
โดยข้อมูลจะมาแสดงที่แอปฯ ซึ่งได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย ผู้ใช้บริการสามารถทำได้ด้วยตนเอง สามารถสามารถนัดเวลาพบแพทย์ ตรวจสอบลำดับคิว ขอความช่วยเหลือแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินจากศูนย์เอราวัณ ตรวจสอบประวัติการรักษา เลือกพบแพทย์ทางไกลผ่านระบบ Tele-Medicine อีกทั้งยังเชื่อมโยงระบบชำระเงินในรูปแบบ
e-payment เป็นต้น
โดยแต่ละโรงพยาบาลจะเริ่มทยอยขึ้นจนครบ 11 โรงพยาบาล ภายในปลายเดือนมีนาคม 2565
- โรงพยาบาลกลาง
- โรงพยาบาลตากสิน
- โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
- โรงพยาบาลสิรินธร
- โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ
- โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์
- โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร
- โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
- โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน
- โรงพยาบาลคลองสามวา
- โรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร
คุณขัตติยา กล่าวปิดท้ายว่า เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ธนาคารกสิกรไทยจะช่วยตอบโจทย์สังคมได้ ทำให้การแพทย์ดีๆ เข้าถึงกลุ่มคนทั่วไป เพิ่มความสามารถในการนำความช่วยเหลือไปสู่พื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้น บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้ง่ายขึ้น ลดกระบวนการทำงานต่างๆ มีส่วนช่วยในระบบ Logistic ต่างๆ ของ รพ. อีกทั้งยังเป็นประโยชน์สำหรับวางแผนป้องกันด้านสาธารณสุขระดับประเทศต่อไป
สำหรับใครที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” ได้แล้ววันนี้ ที่ App Store และ Play Store
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา