KBank บุกจีนเต็มรูปแบบ เปิดสำนักงานใหญ่ที่เซินเจิ้น เตรียมเชื่อม FinTech จีน

ธนาคารกสิกรไทย บุกตลาดจีนเต็มรูปแบบ หลังได้รับอนุมัติจากทางการจีนให้จดทะเบียนเป็นธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่น (Locally Incorporated Institution หรือ LII) และทำพิธีเปิดสำนักงานใหญ่ของ บริษัทธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) จำกัด ที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง

ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทยมีสาขาและสำนักงานผู้แทนในจีนทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่

  • สาขาเซินเจิ้น (และสาขาย่อยหลงกั่ง)
  • สาขาเฉิงตู
  • สาขาเซี่ยงไฮ้ (เพิ่งได้รับอนุมัติพร้อมการเปิดสำนักงานใหญ่)
  • สาขาฮ่องกง
  • สำนักงานผู้แทน นครปักกิ่ง
  • สำนักงานผู้แทน เมืองคุนหมิง

ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่เซินเจิ้น มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 135 คน ในจำนวนนี้มีคนไทย 10 คน ที่เหลือเป็นคนจีน สำนักงานที่ตั้งอยู่ที่อาคาร KK100 ซึ่งเป็นตึกที่ทันสมัยและสูงเป็นอันดับต้นๆ ของเซินเจิ้น

เตรียมเชื่อมโยงธุรกิจไทย-จีน ลูกค้ารายย่อยกำลังจะตามมา

การที่ธนาคารกสิกรไทยได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน (CBRC) จัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียน จะทำให้ธนาคารสามารถให้บริการลูกค้ากลุ่มบริษัทได้ครบวงจร และขยายสาขาในจีนได้รวดเร็วขึ้น

ปัจจุบันบริการของธนาคารในจีน ยังจำกัดเฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นหลัก ประกอบด้วยการฝากเงิน กู้เงิน โอนเงิน การทำธุรกรรมการค้า การแลกเปลี่ยนเงินตรา บริการออนไลน์ (internet banking) บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ (business advisory) และจับคู่ธุรกิจ (business matching)

กลุ่มเป้าหมายจะเน้นทั้ง ธุรกิจจีนที่ต้องการไปลงทุนในไทยและอาเซียน กับ ธุรกิจไทย-อาเซียนที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศจีน

ธนาคารมีแผนจะขยายบริการกลุ่มลูกค้าบุคคลในอนาคต โดยเน้นกลุ่มลูกค้าชาวจีนเป็นหลัก และตั้งเป้าขอใบอนุญาตลูกค้าบุคคลจากทางการจีนภายใน 2 ปี

เซินเจิ้น-เซี่ยงไฮ้ คือประตูสำคัญของการค้ากับอาเซียน

เหตุผลที่ธนาคารกสิกรไทยเลือกตั้งสำนักงานใหญ่ที่เมืองเซินเจิ้น มาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจของนครเซินเจิ้นเป็นหลัก ในโอกาสเดียวกัน ธนาคารกสิกรไทยยังร่วมมือกับกรมพาณิชย์แห่งนครกวางตุ้ง ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจจีนในมณฑลกวางตุ้งเข้าไปลงทุนในไทย และภาคธุรกิจไทยที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจในภาคใต้ของจีนมากขึ้น

นอกจากสำนักงานใหญ่ที่เซินเจิ้นแล้ว ธนาคารยังได้รับอนุมัติให้จัดตั้งสาขาที่ 3 ของจีนแผ่นดินใหญ่ที่นครเซี่ยงไฮ้ เขตฝูตง โดยอยู่ในเขตเศรษฐกิจการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ (Shanghai FTZ) และเป็นเขตที่มีการค้ากับกลุ่มอาเซียนสูง  สามารถให้บริการลูกค้าในเซี่ยงไฮ้และพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ มณฑลเจ้อเจียง เจียงซู ชานตง ได้ด้วย

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย

บัณฑูรชี้ เปิดสำนักงานใหญ่ในจีนยังเป็นแค่ก้าวแรก

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย บอกว่าการขยายมายังประเทศจีนใช้เวลานานมาก คำว่านานไม่ใช่การเตรียมตัวขอใบอนุญาต แต่เป็นการรอให้ระบบเศรษฐกิจจีนพร้อม ถ้านับจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 1997 เราก็ใช้เวลานานถึง 20 ปีในการรอจีนให้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก

นายบัณฑูรบอกว่า ก้าวนี้ถือเป็นก้าวแรกของธนาคารกสิกรไทยในการเชื่อมต่อกับระบบเศรษฐกิจใหม่ของโลก ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ แต่นี่ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ใบอนุญาตเป็นแค่ใบเบิกทางไปสู่อะไรที่ใหญ่กว่านั้น วิสัยทัศน์ของธนาคารคือการเชื่อมการเงินกับการค้าเข้าด้วยกัน ในพื้นที่ ASEAN+3 ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์

เหตุผลที่กสิกรไทยเลือกมาจดทะเบียนเป็นธนาคารท้องถิ่นของจีน ไม่ใช่เป็นแค่สำนักงานสาขา เป็นเพราะจีนเป็นประเทศที่มีความรู้มาก ตอนนี้มีวิทยาการก้าวหน้ากว่าโลกตะวันตกแล้วในบางเรื่อง ธนาคารจึงตั้งเป้ามาจดทะเบียนในจีน ส่วนในประเทศอื่นๆ รูปแบบการเชื่อมอาจเป็นได้ในทุกรูปแบบ จะไม่ต้องมีสาขาก็ได้ เป็นการเชื่อมระบบไอทีอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

วิดีโอนำเสนอการเปิดสำนักงานใหญ่ของธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีน

นายวงศ์พัฒน์ พันธุ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทธนาคารกสิกรไทยประเทศจีน จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำธุรกิจในจีนว่า จีนเป็นประเทศที่กว้างมาก ธนาคารไม่สามารถไปเปิดสาขาได้ทุกมณฑล จึงจะใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยบริการลูกค้าให้ได้ครอบคลุมมากขึ้นแทน

ส่วนการเลือกเปิดสำนักงานใหญ่ที่เซินเจิ้น ก็เพราะอยู่ใกล้กับประเทศไทย เดินทางสะดวก การเดินทางด้วยเครื่องบินจากเซินเจิ้นไปกรุงเทพใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ในขณะที่เซินเจิ้นไปปักกิ่งต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งจะเห็นได้ว่าโอกาสในการเชื่อมต่อธุรกิจระหว่างไทยกับภาคใต้ของจีนมีสูงมาก

ปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าองค์กรในจีนประมาณ 100 ราย โดยจีนสนใจธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ในไทย ส่วนธุรกิจไทยที่ไปได้ดีในจีนก็มีเรื่องอาหาร ผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนและผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์จากยางพาราที่ใช้น้ำยางดิบจากประเทศไทย

เตรียมต่อเชื่อม FinTech จีน ทั้ง WeChat และ Alipay

นอกจากนี้ การตั้งสาขาที่เซินเจิ้น ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น Silicon Valley of Asia ยังช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้าน FinTech ของธนาคารกสิกรไทย โดยธนาคารมีแผนจะร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนเพื่อพัฒนา Digital Banking Platform เชื่อมโยงบริการการเงินระหว่างไทย-จีนเข้าด้วยกันในอนาคต ปัจจุบันธนาคารมีความร่วมมือกับทั้ง WeChat Pay และ Alipay อยู่แล้ว

นายบัณฑูรบอกว่า เทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องสำคัญในวงการแบงค์ สมัยก่อนไม่เน้นไอทีมากก็ยังอยู่ได้ แต่ตอนนี้ถ้าไอทีไม่แข็งแรง จะต้องออกจากธุรกิจไปเลย สมัยนี้คนไม่สนใจว่าบนตึกมีโลโก้ตัว K หรือไม่ เพราะคนไม่ไปสาขาแล้ว แต่คนทำธุรกรรมออนไลน์ ดังนั้นธนาคารต้องอยู่กับลูกค้าในทุกที่ ทุกเวลาเมื่อต้องการทำธุกรรม

เกร็ดข้อมูลจากการเปิดธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน)

  • ธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายบริการในต่างประเทศอีกหลายแห่ง นอกจากในจีนที่มีสำนักงานใหญ่แล้ว ยังมีสำนักงานใหญ่อีกแห่งที่นครเวียงจันทน์ และสาขาต่างประเทศที่พนมเปญ บ้านโพนสีนวน หมู่เกาะเคย์แมน สำนักผู้แทนที่ย่างกุ้ง ฮานอย โฮจิมินห์ จาการ์ตา โตเกียว และลอสแอนเจลิส
  • ชื่อของธนาคารกสิกรไทยในจีนคือ “ไคไท่หยินหาง (จงกั๋ว)” มีคำแปลว่า “ไค=เริ่มต้น” “ไท่=ประเทศไทย” “หยินหาง=ธนาคาร” “จงกั๋ว=ประเทศจีน”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา