ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์รายงานผลประกอบการและกำไรสุทธิ ประจำปี 2565 พบว่ากำไรสูงมาก อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท และ 3.7 หมื่นล้านบาทตามลำดับ
ธนาคารกสิกรไทย
มีกำไรสุทธิจำนวน 35,770 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 2,283 ล้านบาท หรือ 6.00%
รายได้สุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 13,608 ล้านบาท หรือ 11.40% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อใหม่ในกลุ่มลูกค้าบุคคล และกลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีโดยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น ควบคู่การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการปล่อยสินเชื่อตามยุทธศาสตร์ธนาคาร
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 3,700 ล้านบาท หรือ 8.42% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าธรรมเนียมรับจากการจัดการกองทุนค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่ลดลงซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 3,709 ล้านบาท หรือ 5.22% หลักๆ จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณธุรกิจและค่าใช้จ่ายทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้า
ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2565 มีจำนวน 51,919 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.73% เพื่อรองรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ธนาคารและบริษัทมีสินทรัพย์รวมจำนวน 4,246,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 จำนวน 142,970 ล้านบาท หรือ 3.48% หลักๆ เป็นการเติบโตของเงินให้สินเชื่อสุทธิตามยุทธศาสตร์ของธนาคารและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ
เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL gross) อยู่ที่ระดับ 3.19%
ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ปี 2566
เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้จีนจะเริ่มทยอยเปิดประเทศ แต่การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนอาจหนุนท่องเที่ยวไทยได้เพียงระดับหนึ่ง การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยจึงยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิดระบาดได้
ดังนั้น เศรษฐกิจไทยปี 2566 ยังมีความเปราะบาง ยังต้องติดตามแรงกดดันด้านต้นทุนการผลิต ค่าจ้างแรงงาน อัตราเงินเฟ้อ ปัญหาค่าครองชีพ อัตราดอกเบี้ยในประเทศยังขยับขึ้นต่อเนื่อง ธนาคารและบริษัทย่อยยังต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังรอบคอบ
ธนาคารไทยพาณิชย์
SCBX มีกำไรสุทธิ 37,546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% จากปีก่อน
ปี 2565 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 107,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3% จากปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิภายใต้กลยุทธ์การเติบโตที่เน้นคุณภาพสินเชื่อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 3.3% จากปีก่อน
รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ จำนวน 44,866 ล้านบาท ลดลง 4.7% จากปีก่อน เป็นผลจากการชะลอตัวของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง ทั้งรายได้จากการลงทุนและการค้ามีจำนวน 1,689 ล้านบาท ลดลง 79.1% จากปีก่อน เนื่องจากความผันผวนสูงของตลาดเงินและตลาดทุนที่ผ่านมา
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 69,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากปีก่อน ผลจากกิจกรรมธุรกิจที่เพิ่มขึ้นตลอดการปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้ยุทธศาสตร์ยานแม่ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ระดับที่ 45.2% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 3.34% ปรับตัวลดลงจาก 3.79% ในปีก่อน การบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพและเงินกองทุนตามกฎหมายอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.9%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา