KBank จับมือ LINE ให้ลูกค้ากว่า 44 ล้านคนขอสินเชื่อง่ายขึ้นแค่เปิดแอพฯ บนมือถือ

ธนาคารกสิกรไทย จับมือ LINE เปิดตลาด Social Banking ตั้ง บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด เตรียมเปิดผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ผ่านกลุ่มผู้ใช้ LINE ในประเทศไทยกว่า 44 ล้านราย ให้เข้าถึงสินเชื่อและบริการทางการเงินได้อย่างง่ายดาย พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2562

KBank x LINE จับมือโตไปด้วยกัน

ทิศทางธุรกิจของ LINE ได้รุกตลาด Financial Service อย่างเต็มตัว โดยเห็นได้จากการเปิดบริษัทลูก LINE Financial Asia ที่เริ่มเข้าไปซื้อกิจการธนาคารในญี่ปุ่น รวมถึงเข้าไปซื้อหุ้นธนาคารที่ อินโดนีเซีย และไต้หวัน ล่าสุดเข้ามาจับมือกับ KBank ในการเปิดบริษัทใหม่ร่วมกันในชื่อว่า บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด เริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียน 4,999,900 บาท เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทยที่มีกว่า 44 ล้านราย ให้เข้าถึงสินเชื่อแบบไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันได้อย่างง่ายดาย และ KBank ต่อยอดฐานลูกค้าให้มากขึ้น จากเดิมที่มีผู้ใช้งาน KPLUS กว่า 15 ล้านราย

“สำหรับ LINE ในประเทศไทย ไม่คิดที่จะลุย Financial Service เพียงลำพัง คิดว่าหากได้ร่วมมือกับธนาคารในไทย จะสามารถเสริมศักยภาพร่วมกัน เติบโดไปด้วยกัน จึงเป็นที่มาที่ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ที่มีศักยภาพด้านดิจิทัลของ LINE และประสบการณ์ของธนาคารด้านลูกค้ารายย่อย จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อธุรกิจธนาคาร และทำให้เกิดบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ในประเทศไทย”

Social Banking เอาลูกค้าเป็นตัวตั้งและเสริมบริการทางการเงินภายหลัง

พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การจับมือเปิดตัวบริษัทร่วมกันระหว่าง KBank และ LINE เป็นการขยายบริการทางการเงิน เจาะกลุ่มผู้ใช้งาน LINE กว่า 44 ล้านรายในประเทศไทย ให้เกิด “Social Banking” ให้ LINE เป็นได้ทุกอย่าง เข้าถึงบริการง่าย ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครใช้บริการของธนาคารที่ง่าย การโอนเงินที่สะดวก และกระบวนการอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลที่รวดเร็ว ซึ่งบริการต่างๆ เหล่านี้จะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2562 สินเชื่อไม่มีหลักประกัน สำหรับรายย่อย โดยคาดการปล่อยสินเชื่อตั้งแต่ 1 หมื่นบาทขึ้นไป หรือเฉลี่ยราว 3หมื่นบาทต่อคน

“ในประเทศไทย วงเงินสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในระบบมีมากกว่า 500,000 ล้านบาท เฉพาะของ KBank เองมีเพียง 20,000 ล้านบาท ดังนั้นยังมีช่องว่างที่จะทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะการกู้ยืมเงินนอกระบบ ก็ทำให้อยู่ในระบบ โดยบริการต่างๆ จะมีระบบที่สามารถเก็บข้อมูล รวมถึงตรวจสอบการให้สินเชื่อได้  ครึ่งหลังปี 2562     คาคว่าจะปล่อยสินเชื่อไม่มีหลักประกัน สำหรับรายย่อย วงเงินประมาณรายละ 1 หมื่นบาทเฉลี่ยราว 3 หมื่นบาทต่อคน”

ทำไมต้องเปิดธนาคารเพิ่มทั้งที่มีกสิกรไทยอยู่แล้ว?

พัชร บอกว่า การร่วมมือครั้งนี้จะขยายบริการทางการเงินในลูกค้ากว่า 10 ล้านคนที่คุ้นเคยสมาร์ทโฟนกับโซเชียลมีเดีย และว่า คาดว่าภายใน 3-5 ปี จะปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลราว 20,000 ล้านบาท ซึ่งถือเติบโตค่อนข้างรวดเร็ว หากเทียบกับพอร์ตสินเชื่อบุคคลในอดีตที่ธนาคารต้องใช้ระยะเวลากว่า 70 ปีกว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ขนาดนี้

นอกจากนี้ยังจะขยายไปในสินเชื่อลูกค้ากลุ่มรายย่อยและนาโนไฟแนนซ์ ที่ในอดีตยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อระบบธนาคาร

สรุป

หลังจากในตลาดมีธนาคารดิจิตอล (ธนาคารที่ให้บริการแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ) เช่น  ME by TMB Beat Banking ของ CIMB Thai ล่าสุด กสิกรไทยก็หันมาจับมือกับ LINE ที่มีฐานลูกค้ากว่า 44 ล้านราย กสิกรไทยหวังว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อธนาคารได้มากขึ้น แค่ 3-5 ปี อาจจะปล่อยสินเชื่อได้ถึง 20,000 ล้านบาท

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา