กันตาร์สรุปผลวิจัยรายงานชุดพิเศษ “Brand Footprint 2018” จัดอันดับสุดยอดแบรนด์ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุด 50 อันดับโลก Coca-Cola ครองแชมป์อันดับหนึ่ง
กันตาร์เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) บริษัทด้านการวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภคเชิงลึกในกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค หรือ FMCG เปิดเผยผลการศึกษาชุด “Brand Footprint Report 2018” รายงานการศึกษาวิจัยแบรนด์ในกลุ่มสินค้า FMCG มีการจัดอันดับสุดยอดแบรนด์ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุด 50 อันดับแรกของโลก และสุดยอดแบรนด์ในระดับประเทศ บนเงื่อนไขที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อจริง
โดยเน้นกลุ่มสินค้า FMCG 5 กลุ่มหลัก คือกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน และกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม
Brand Footprint ได้ทำการศึกษาแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก 18,200 แบรนด์ ทำการเก็บรวบรวม และวิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายของเหล่านักช็อปกลุ่มตัวอย่างที่ทำการซื้อเป็นจำนวนมากกว่า 350,000 ล้านครั้งของการช็อป จาก 43 ประเทศครอบคลุมตลาดทั้ง 5 ทวีปทั่วโลก ทำให้เห็นภาพและเข้าใจพฤติกรรมการจับจ่ายได้มากถึง 73% ของนักช็อปทั่วโลกอย่างชัดเจน
ผลการจัดอันดับในระดับโลกจากผลวิจัย Brand Footprint Report 2018 พบว่า มีถึง 17 แบรนด์ระดับโลก ในภาพรวมของทุกกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อมากกว่าพันล้านครั้งต่อปี นำโดย Coca-Cola เป็นแบรนด์ยอดนิยมที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อกว่า 5,800 ล้านครั้งต่อปี
ตามมาด้วย “คอลเกต” ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวที่สามารถเข้าถึงประชากรกว่าครึ่งทั่วโลก และ “แมกกี้” ที่มีอัตราเติบโตสูงสุดในทุกแบรนด์ จนทำให้สามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ในปีนี้
แบรนด์ระดับโลกที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด 10 อันดับ เรียงตามลำดับ ดังนี้ โคคา-โคล่า, คอลเกต, แม็กกี้, ไลฟ์บอย, เลย์, เป๊ปซี่, เนสกาแฟ, อินโดหมี่, ซันซิล และคนอร์
ส่องกลยุทธ์ 5 แบรนด์ดัง พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
ได้ยกตัวอย่าง 5 แบรนด์ที่มีกลยุทธ์จนสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ส่งผลให้แบรนด์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
– Head &Shoulders ชูความเป็นพรีเมี่ยม เพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น ในประเทศจีน Head &Shoulders Supreme ดันสินค้าไลน์ใหม่อย่างครีมนวดออกสู่ตลาด จนได้รับความนิยมในหมู่นักช้อปพรีเมียมเป็นอันมาก
– Lays สื่อสารชัดเจน ตรงจุดเช่น ในอินเดีย เลย์ออกแคมเปญ “More Chips in Every Bag” ส่งสารไปยังผู้บริโภค จนสามารถดึงผู้บริโภคที่เคยหนีหายไปทานขนมขบเคี้ยวแบรนด์อื่น กลับมาเลือกเลย์อีกครั้ง
– Dove คิดค้นนวัตกรรมแตกสินค้าไลน์ใหม่ๆ อย่าง Baby Dove เจาะตลาดกลุ่มคุณแม่และเด็กหรือ Dermacare Scalpเจาะตลาดแชมพูขจัดรังแค รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ในเชลฟ์วางสินค้าด้วยโฟมอาบน้ำและสครับขัดผิว
– Maggi ในปี 2559 แมกกี้เผชิญวิกฤติอย่างหนักโดยเฉพาะในอินเดีย แต่ทว่าแมกกี้ก็ไม่ได้ได้นิ่งนอนใจ ทุ่มงบสื่อจัดเต็ม สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและร้านค้า นำผลิตภัณฑ์กลับมายึดครองเชลฟ์ได้สำเร็จ
– Sprite แม้ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มจะติดลบ แต่สไปรท์กลับโตสวนกระแส โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยการจ้างนักบาสเกตบอลชื่อดังอย่าง LeBron James เพื่อเพิ่มการรับรู้จดจำแบรนด์ในหมู่ผู้บริโภคที่อายุยังน้อย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา