เปิดใจนายห้าง Kaidee กับภาระกิจรักษาเบอร์หนึ่งตลาดนัดขายสินค้าทุกชนิดบนโลกดิจิทัล

Kaidee ให้บริการมา 6 ปีแล้ว และถึงจะมีคู่แข่ง E-Commerce เกิดมามากมาย แต่การขายสินค้าแบบ C2C หรือระหว่างผู้ใช้ด้วยกันก็ยังนิยมอยู่ และนั่นทำให้ Kaidee กลายเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดนี้มาอย่างยาวนาน

เป็นเบอร์หนึ่งด้วยผู้ใช้ 35 ล้านคน

หากจำกันได้ Kaidee (ขายดี) ผ่านร้อนผ่านหนาวในการทำตลาดที่ไทยมานาน และเปลี่ยนชื่อมาก็หลายรอบ แต่ถึงกระนั้นด้วยความแข็งแกร่งของบริการ และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ทำให้สิ้นปี 2560 บริการ Kaidee ก็มีผู้เข้ามาใช้บริการกว่า 35 ล้านคน และในแต่ละวันก็มีสินค้าขายได้กว่า 5,000 ชิ้น

ทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเอฟ มาร์เก็ตเพลส จำกัด ผู้ให้บริการ Kaidee เล่าให้ฟังว่า บริษัทเป็นเบอร์หนึ่งในแพลตฟอร์ม C2C ของประเทศไทยอย่างสมบูรณ์มาระยะหนึ่งแล้ว หลักๆ เพราะความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค และการขายสินค้าได้จริงด้วยจำนวน 1.85 ล้านรายการในปี 2560 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท

ทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเอฟ มาร์เก็ตเพลส จำกัด ผู้ให้บริการ Kaidee

“Kaidee มี 264 หมวดหมู่ และเราค่อนข้างแข็งแรงในฝั่งยานพาหนะทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง 2 หมวดแรกนั้นเรามีการพัฒนาหน้าเว็บแยกออกมาภายใต้ชื่อ RodKaidee กับ MocyKaidee ดังนั้นในปี 2561 เราจะเพิ่มความจริงจังในฝั่งอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น”

เตรียมรุกอสังหาฯ ชนคู่แข่งในตลาด

สำหรับการรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น Kaidee เตรียมตั้งชื่อเว็บแยก พร้อมกับปรับหน้าตาการใช้งานให้เข้ากับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ให้ได้มากที่สุด โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มต้นให้บริการได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี และจะมีชื่อเป็นของตัวเองเหมือน RodKaidee และ MocyKaidee

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมเน้นทำตลาดลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ เพิ่ม เช่น Image Recognition หรือระบบวิเคราะห์รูปภาพ รวมถึง Data Analytics หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อยกระดับการประกาศขายของผู้ใช้บริการทำได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังคงแนวคิดเรื่องการนำของมือสองมาแลกเปลี่ยนบนเว็บไซต์เช่นเดิม

รายได้เพิ่มเท่าตัว แต่ยังไม่เน้น

อย่างไรก็ตาม Kaidee ยังเน้นที่การเปิดให้ผู้บริโภคใช้งานฟรีเพื่อนำของที่มีอยู่มาขายให้ได้ง่าย และเร็วที่สุด แต่ในเรื่องรายได้ปัจจุบันมาจาก 2 ทางคือบริการเสริม เช่นการให้ประกาศขายเลื่อนขึ้นไปอยู่ด้านบน กับโฆษณา ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วน 60:40 ตามลำดับ และตั้งเป้าไว้เติบโตที่ 150% ใกล้เคียงกับปีก่อน

สรุป

การเติบโตขนาดนี้ เพราะ Kaidee เน้นเรื่อง Quality Marketplace ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับการซื้อขายระหว่างผู้บริโภคด้วยกันเองบนตลาดนัดออนไลน์แห่งนี้ และถึงบริการ E-Commerce จะโตแค่ไหน แต่ C2C ก็คงไม่หายไปง่ายๆ ยิ่งอนาคตหาก Kaidee ตัดสินใจประกาศแบ่งเปอร์เซ็นต์จากราคาขาย โอกาสเติบโตก็คงยิ่งกว่านี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา